อาจได้เฮ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯประกาศหนุนเต็มที่ขยายเวลาปิดสถานบันเทิงในภูเก็ต

โพสเมื่อ : Friday, February 24th, 2017 : 5.22 pm

อาจได้เฮ ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ภูเก็ต รับปากหนุนเต็มที่ขยายเวลาปิด เชื่อส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.) และ คณะร่วมประชุมหารือข้อราชการกับนายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และหอการค้า เพื่อรับทราบความคืบหน้านโยบายการจัดระเบียบด้านต่างๆ รวมถึงติดตามแนวทางการแก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการจัดโซนนิ่งสถานบริการสถานบันเทิง และการ ขยายเวลาเปิด ปิดสถานบันเทิง สถานบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงานสรุปถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบ และการแก้ไขปัยหาต่างๆในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ว่า จังหวัดภูเก็ตได้เสนอหนังสือส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้พิจารณากฎกระทรวงแก้ไขปรับปรุงกฎหมายการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงสถานบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จาก สถานบริการปิดเวลา 24.00 น. และสถานบันเทิง ปิดในเวลา 01.00 น. ขยายเป็นเวลา 04.00 น. แทนเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้อง

สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีการกำหนดเขตพื้นที่โซนนิ่งสถานบันเทิงสถานบริการจำนวน 12 โซนพื้นที่ แต่ในการส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณานั้น จังหวัดได้ขอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการขยายเวลาเปิดปิดสถานบริการสถานบันเทิงในเขตพื้นที่โซนนิ่งจำนวน 2 โซน คือ ในอำเภอเมือง เขตพื้นที่ ถนนท้ายนา ตำบลกะรน และ ในอำเภอกะทู้ บริเวณเขตพื้นที่ ถนนบางลา,ถนนทวีวงศ์ ถนนทวีวงศ์ราษฎร์อุทิศ 200 ปี (บางส่วน) และซอยแสนสบาย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวและใช้บริการสถานบันเทิงสถานบริการในพื้นที่ตำบลป่าตองและพื้นที่ตำบลกะรนส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกือบ 100% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติดังกล่าว มักมาใช้บริการสถานบันเทิง สถานบริการ ในช่วงสั้น ๆ ในเวลา 21.00 – 22.00 น. เมื่อสถานบันเทิงมีกฎหมายระบุให้ปิดในเวลา 01.00 น. จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาได้เพียง 3-4 ชั่วโมง ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่มักนอนดึก ตื่นสาย อีกทั้งการขยายเวลาการเปิดปิดสถานบันเทิงออกไปอีก 2-3 ชั่วโมง จะสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดภูเก็ตถึงเกือบเท่าตัว

นายโชคชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2561 จังหวัดภูเก็ตได้จัดทำโครงการเพื่อของบประมาณในการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวจำนวน 3 โครงการคือ โครงการขยายท่าเทียบเรือยอช์ทและเรือครูซ ที่เกาะสิเหร่ และที่อ่าวมะขาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทางทะเล,โครงการ Phuket Smart City ในการพัฒนาและสร้างศักยภาพของระบบ Security Entrance ระบบรักษาความปลอดภัยเส้นทางเข้าออกเกาะภูเก็ต Security checkpoint ระบบรักษาความปลอดภัยจุดตรวจค้น Security Border ระบบรักษาความปลอดภัยรอบแนวชายฝั่ง CCTV Integration Platform ระบบบูรณาการกล้องวงจรปิด และ Traffic Intelligence ระบบบริหารจัดการจราจร และโครงการ startup centre เพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงอยากขอให้ กระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยผลักดันงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วย

ขณะที่ นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานความคืบหน้าแนวทางการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการบูรณาการกับทหาร ตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งคณะทำงานเพื่อจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ต 3 คณะ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาต่าง ๆให้ครอบคลุม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 การจัดระเบียบชายหาด ความคืบหน้ายังคงพื้นที่โซนนิ่ง 10% เพื่อให้ชายหาด ทั้ง 9 แห่ง ที่มีการจัดระเบียบนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณการขึ้นลงของเรือเจ็ทสกีและเรืออื่นๆ ให้ชัดเจน

กลุ่มที่ 2.การจัดระเบียบรถสาธารณะ ให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะทุกประเภทแต่งกายตามที่กฎหมายกำหนด การกำหนดให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะแต่งกายตามระเบียบที่กำหนด ต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และการกวดขันการเก็บค่าโดยสารที่เป็นธรรมแสดงมิเตอร์ค่าโดยสารที่ชัดเจน และกลุ่มที่ 3.การจัดระเบียบแก้ไขปัญหาสนามบินและด่านตรวจคนเข้าเมือง) เร่งแก้ปัญหาความแออัดของสถานที่จอดรถและอาคารผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว

ในส่วน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคณะในครั้งนี้ ได้รับโจทย์หลายข้อ ซึ่งเห็นตรงกันกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งในเรื่องของการจัดโซนนิ่งสถานบริการ การจัดระเบียบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะนี้มีความคืบหน้าไปได้ด้วยดีมาก เรื่องการโปรโมทภูเก็ต เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเรือสำราญ, เรื่องการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชน ระบบข้อมูล ทำให้ภูเก็ตเป็นสมาร์ทซิตี้ ตลอดจนถึงเรื่องของการเตรียมการตั้งงบประมาณ รวมไปจนถึงงบประมาณปี 61 เพื่อทำโครงการสำคัญๆ ซึ่งเห็นตรงกันทั้งหมด

ในปี 2559 และปี 2560 ภูเก็ต ก็ยังเป็นหลักอยู่ในการทำรายได้เข้าประเทศ วันนี้ 14 ล้านคนที่เข้ามาภูเก็ต ปี 2560 ก็เชื่อมั่นว่าจะมีมากขึ้น สนามบินภูเก็ตซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซม ในเดือนกันยายนนี้ จะเปิดให้บริการเต็มร้อย ก็จะยิ่งทำให้ภูเก็ตมีความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น 5-6 ประเด็นเป็นสิ่งที่เราได้พูดคุยกันในวันนี้และอาทิตย์หน้าตนก็จะลงมาอีกครั้งพร้อมกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ รองนายกรัฐมนตรี มาดูการจัดระเบียบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ได้รับรายงานในวันนี้ เป็นไปตามนโยบาย เราเดินมาถูกทางแล้ว ภูเก็ตกำลังก้าวไปอีกระดับหนึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ที่สำคัญที่สุดของประเทศ

ส่วนกรณีกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการสถานบันเทิงหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จาก ตี 1 เป็นตี 4 นั้น นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่าง เต็มที่ กระทรวงการท่องเที่ยวก็คงจะดูในแง่ของเหตุผลต่างๆ ที่จะนำมาสนับสนุนตรงนี้ ในเรื่องของการกำกับดูแล ตนเชื่อว่าทางกระทรวงมหาดไทย พร้อมที่จะดูแลให้การจัดโซนนิ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการ ซึ่งทราบว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาแล้ว

“กระทรวงท่องเที่ยวสนับสนุนเต็มที่ นโยบายนี้ เป็นประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัย สนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาล คิดว่าโมเดลของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น่าจะเป็นโมเดลที่สามารถนำไปใช้ได้ตามเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทย หลายที่ไม่ว่าจะเป็นพัทยา เชียงใหม่ สามารถทำ ทำนองเดียวนี้กันได้ แต่ขอทดลองใช้ที่ภูเก็ตไปก่อน ส่วนเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรจะปิดหัวค่ำ เพราะว่านักท่องเที่ยวยังเที่ยวไม่เต็มที่ แต่ต้องอยู่ในกรอบ ที่สำคัญไม่ได้เปิดสำหรับคนไทย เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ สถานที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้คัดเลือกมานั้น เป็นสถานที่ที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่แล้ว เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์” นายพงษ์ภาณุ กล่าวในที่สุด

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการในจังหวัดภูเก็ต นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางลงไปดูการทำงานของ เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด บริเวณชายหาดป่าตอง ซึ่งไลฟ์การ์ดถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่ในการดูแลและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในกรณีประสบอุบัติเหตุจมน้ำ โดยที่ผ่านมามีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวจมน้ำจำนวนมาก แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือให้ปลอดภัยจำนวนมากเช่นกัน