“อัญชลี” แจ้งความเพจเอาข้อความเก่าตั้งแต่ปี 60 มาโพสต์ทำคนเข้าใจผิด

“อัญชลี” ส่งทนายแจ้งความแอดมินเพจ เอาข้อความในกลุ่มไลน์ เมื่อปี 60 มาโพสต์ หวังทำให้คนเข้าใจผิดจนมีการแสดงความเห็น ตนจะเข้าไปทุจริตเรื่องสร้าง อบจ.ใหม่ เชื่อหวังผลทางการเมืองเลือกตั้งนายกอบจ. ระบุนัดคุยเพื่อหาทางออกให้กลุ่มสตรีได้ขายของในเกตเวย์

จากกรณีเพจโหดจังจังหวัดภูเก็ต ได้โพสต์ ข้อความ โดยระบุว่า “ มยม.แชทลับโผล่ ! เบื้องหลังนายใหญ่ อบจ.” พร้อมภาพที่แคปข้อความ ซึ่งส่งโดยบุคคลที่ใช้ชื่อ ว่า  Anchalee โดยมีข้อความ ว่า “เบญช่วยนัดหัวหน้าเจอพี่พรุ่งนี้หน่อยค่ะ จะคุย lobby เรื่อง อบจ. ถ้าบ่ายๆ หรือ เย็นก็ได้”  ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไปทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ ( 10 ธ.ค.) ที่ The Oasis อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีต สส.ภูเก็ต และ อดีตนายกอบจ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า ภายหลังที่ทราบว่า มีการโพสต์ ข้อความดังกล่าวลงในเพจ จนมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นทำให้ตนเองได้รับความเสียหายและเสียชื่อเสียง เนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นในลักษณ์ว่าตนเข้าไปมีส่วนในการทุจริตการก่อสร้างตึก อบจ.ใหม่ ตนจึงได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมหลักฐานทั้งหมดทั้งในส่วนของแอดมินเพจ และคนที่แสดงความคิดเห็นให้ร้ายกับตน รวมทั้งคนแชร์ ไว้แล้วที่ สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นแจ้งความในข้อหานำข้อมูลอันทุจริตเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุ 1

สำหรับเหตุการณ์ในตนต้องดำเนินคดีกับผู้ที่มีเจตนานำข้อมูลโดยทุจริตลงไปในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการแคปข้อความการสนทนาที่มีเพียงข้อความเดียวนำมาโพสต์ ส่วนจะเป็นข้อความที่สมบูรณ์หรือไม่ ไม่ทราบ แต่คนที่นำมาโพสต์มีเขียนข้อความประมาณทำให้คนอ่านเข้าใจได้ว่ามีการนัดคุยกับหัวหน้าในเรื่องของการจัดสร้าง อบจ.ใหม่ และ มีการทุจริตภาษีของประชาชน และมีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะทำให้ตนได้รับความเสียหาย ตนจึงต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ซึ่งรวมถึงคนที่นำไปแชร์ต่อด้วย

นางอัญชลี กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบโปรไฟล์ พบว่ารูปดังกล่าวเป็นรูปของตนจริง แต่ไม่ใช่รูปที่ตนใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่รูปที่นำมาโพสต์นั้นเป็นรูปที่เก่ามากซึ่งได้ไปตรวจสอบในโปรไฟล์ ไลน์ ของตัวเอง ซึ่งก็โชคดีที่พบว่าระบบมีการเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด และพบว่ารูปดังกล่าวเป็นรูปเมื่อปี 2560 ซึ่งหมายความว่าข้อความดังกล่าวนั้นมีการพูดกันเมื่อประมาณปี  2560 หรือ ปี 2017 ก็ประมาณ 3 ปีมาแล้ว และจากการตรวจสอบพบว่าข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่แชตในไลน์กลุ่ม ไม่ใช่ไลน์ส่วนตัว เพราะถ้าไลน์ส่วนตัวจะไม่ปรากฏชื่อเวลาส่งข้อความ แต่ถ้าเป็นการแชตในไลน์กลุ่มถึงจะมีชื่อเวลาส่งข้อความนั้น

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปตามที่คนโพสต์พยายามจะให้คนที่อ่านเข้าใจว่าตนนัดคุยกับหัวหน้าเพื่อเพื่อทุจริต เชื่อว่าถ้าคนอ่านมีวิจารณญาณก็น่าจะคิดได้ ว่า ถ้ามีเจตนาทุจริตคงไม่มีใครที่เขียนจะข้อความลักษณะนี้เข้าในไลน์กลุ่ม แต่กลับกันคนที่นำมาโพสต์มีเจตนาทุจริตและใส่ร้ายอย่างเห็นได้ชัดด้วยการแคปข้อความที่มีการคุยกันในกลุ่มไลน์ เมื่อประมาณปี 2560 มาเขียนให้คนเข้าใจว่าเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นและมีการแสดงความคิดว่ามีการทุจริตเรื่องของอบจ.ในเวลาปัจจุบัน นอกจากนั้นคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ยังนำไปโยงกับเรื่องของการเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ตด้วย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องตั้งแต่ปี 2560 ทำไมถึงเพิ่งนำเรื่องนี้มาทำเป็นข่าวในเวลานี้ในขณะที่การเลือกตั้งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันแล้ว  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณหวังในประเด็นอื่นด้วยเจตนาทุจริต

นางอัญชลี กล่าวอีกว่า สำหรับข้อความที่มีการพูดคุยในครั้งนั้น คิดว่าน่าจะเป็นการสนทนาในไลน์กลุ่มประชารัฐ ที่มีการทำเกี่ยวกับเรื่องกุ้งมังกร เรื่องของสับปะรดภูเก็ต และเรื่องของการกำหนดจุดในการวางของขายที่ภูเก็ต และ ในช่วงนั้นมีเรื่องของกลุ่มสตรีที่ขายของอยู่ที่ภูเก็ตเกตเวย์ ร้องเรียนว่าหลังมีการปรับปรุงเกตเวย์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็จะไม่ให้กลุ่มสตรีขายของฟรี ก็เลยมาขอร้องให้ตนไปพูดกับทางจังหวัดเพื่อให้มีที่ขายของต่อไป เลยเขียนข้อความไปในไลน์กลุ่มเพื่อขอคุยกับหัวหน้าเรื่อง อบจ.เพื่อขอให้กลุ่มสตรีได้ขายของต่อ

ส่วนใครจะแคปข้อความไว้หรือยังมีใครอยู่ในไลน์กลุ่มอีกบ้างตนก็ไม่ทราบเพราะกลุ่มดังกล่าวไม่มีการเคลื่อนไหวตนก็ไม่ได้ตามดู มีแต่คนที่ดีดตัวเองออกจากกลุ่ม ส่วนตนก็ยังไม่ได้ดีดตัวเองออก

นางอัญชลี กล่าวต่อไปว่า สำหรับคนที่ไปเอาข้อมูลเก่ามาทำแบบนี้ขอบอกได้เลยว่าเป็นคนที่มีเจตนาไม่ดี มีเจตนาทุจริต ไปเอาข้อมูลเก่ามายึดโยงกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น พยายามยัดเยียดให้คนที่อ่านเข้าใจได้ว่า จะนัดคุยกับหัวหน้าเพื่อล็อบบี้เรื่องของการทุจริตในการหาผลประโยชน์ในการสร้าง อบจ.ใหม่ ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าวมีเจตนาหวังผลทางการเมือง และทำให้ตนเสื่อมเสียมากถึงมากที่สุดเรื่องของการทุจริตเป็นเรื่องที่สำคัญมากตนไม่เคยทำแบบนั้น

อย่างไรก็ตามนางอัญชลี ยังได้กล่าวต่อไปถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ.ภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมาก็ได้พูดกับประชาชนเสมอว่าทุกวันนี้ภูเก็ตวิกฤตหนักมากและหนักที่สุด และไม่รู้ว่าจะยาวไปนานมากน้อยแค่ไหน เพราะนั้นเวลานี้คนภูเก็ตทุกคนจะต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อภูเก็ต การเลือกผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ของภูเก็ตในครั้งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คนที่มาเป็นนายก และสมาชิก อบจ.ภูเก็ตครั้งนี้จะเป็นบุคคลที่เราฝากความหวังไว้ว่าจะเป็นตัวแทนของเราที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับจังหวัดภูเก็ตเป็นลำดับต้นๆ การตัดสินใจเลือกคนมาเป็นตัวแทนควรที่ละเลือกคนดี คนที่มีประสบการณ์ คนที่ทำงานเป็นและที่สำคัญจะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชน ส่วนคนที่ไม่ดีอย่าไปเลือก