ออกจากไข่แล้วลูกเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ฟักเจ้าหน้าที่ช่วยสำเร็จปล่อยกลับทะเล 40 ตัว

โพสเมื่อ : Sunday, March 3rd, 2019 : 8.52 am

ออกจากไข่แล้วลูกเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ฟังออกจากไข่สำเร็จ ปล่อยลงทะเล 40 ตัว รอการพักฟื้นจำนวน 4 ตัว หลังแม่เต่ามะเฟืองกลับมาวางไข่อีกครั้งในรอบเกือบ 10 ปี

จากกรณีเมื่อวานนี้ ( 2 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลุมไข่เต่ามะเฟือง ซึ่งแม่เต่ามะเฟือง ขึ้นมาวางไข่ รังที่ 3 ที่ชายหาดคึกคัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา  มีการยุบตัวและพบลูกเต่าคลานออกจากหลุมจำนวน 1 ตัวทาง เมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่นำโดย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน(ภูเก็ต) พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายประถม รัสมี ผอ.สบทช.8 และ เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ได้ช่วยกันขุดหลุมลูกเต่ามะเฟือง เพื่อนำลูกเต่าขึ้นจากหลุมและปล่อยลงทะเล

ปรากฏว่า สามารถนำเต่ามะเฟืองและ ปล่อยลงสู่ทะเลได้ทั้งหมดจำนวน 40 ตัว และมีลูกเต่าตายจำนวน 7 ตัว เป็นไข่ไม่สมบูรณ์ไม่ได้รับการผสม จำนวน 13 ฟอง ซึ่งหลุมฝักไข่เต่ามะเฟืองนี้เป็นหลุมที่ 3 และ หลุมสุดท้ายของแม่เต่ามะเฟืองที่ขึ้นมาว่างไข่ในพื้นที่จังหวัดพังงา

ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน(ภูเก็ต) กล่าวว่า สำหรับรังเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ถือเป็นหลังสุดท้าย มีอัตราการรอดที่ประมาณ 86% ที่ได้ลูกเต่าจำนวน 40 ตัว และมีลูกเต่าที่รอการพักฟื้น ที่นำปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งรังเต่ามะเฟืองทั้ง  รังที่ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาด คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จำนวน 2 รัง และ ชายหาดวัดท่าไทร อ.ท้ายเหมือง จำนวน 1 รัง มีเต่ามะเฟืองที่สามารถ ลอดลงสู่ทะเลได้ทั้งหมดจำนวน กว่า 127 ตัว ทั้ง 3 รัง โดยเต่าตัวแม่ที่ขึ้นมาวางไข่จะกลับมาวางไข่อีกครั้งในช่วง 2-3 ปี โดยลูกเต่าที่ปล่อยลงสู่ทะเลจะไปโตในธรรมชาติ และจะกลับมา โดยใช้เวลา 15 ถึง 20 ปี

สำหรับเต่ามะเฟือง ถือว่าเป็นทูตทางธรรมชาติ ที่เข้ามาเยือน โดยทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นแหล่งวางไข่ของเต่ามะเฟืองและเต่าทะเลชนิดอื่นๆรวมถึงสัตว์น้ำ เพื่อเป็นแหล่งหากินตามธรรมชาติได้ อย่างไรก็ตาม พบว่า พบอัตราการรอดในรังแรก ประมาณ 72% และหลังที่2 อันตราการรอด 100 % ส่วนรังที่3 อัตราการรอด 86% ซึ่งถือว่ามีอัตรา การรอดมากกว่าธรรมชาติ ที่ไม่ได้รับการดูแล

ด้านนายประถม รัศมี ผอ.สบทช.8 กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับพี่น้องทั้งประเทศและพี่น้องจังหวัดพังงา ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์ให้เป็นแหล่งหากิน อาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์ทะเล จนทำให้เต่า ขึ้นมาวางไข่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีของประชาชนชาวจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นตัวชี้วัด ว่าทรัพยากรทางทะเลของจังหวัดพังงา มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งนี้เกิดจากหลายภาคส่วนโดยเฉพาะภาคประชาชนภาคราชการ และเอกชน ได้ร่วมมือร่วมใจกันรักษา ธรรมชาติ ตามนโยบายของกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการดูแลชายหาด การเก็บขยะ และสิ่งที่ส่งผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเมื่อทรัพยากรเหล่านี้มีความอุดมสมบูรณ์ก็ ทำให้เต่าที่ค่อนข้างหายากขึ้นมาวางไข่

โดยขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬ โลมา พะยูน หรือปลาที่หายากได้กลับคืนมาสู่ธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 จังหวัดพังงา ได้จัดกิจกรรมลดละเลิกขยะ และเรื่องน้ำเสียไม่ทิ้งลงสู่ทะเล พร้อมทั้งมีการฟื้นฟูปะการังเทียม ตามนโยบายของกรมฯซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นการเชื่อมโยงระบบนิเวศให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำกลับขึ้นมาวางไข่และเพาะพันธุ์ออกเป็นตัวอีกครั้ง