“อนุทิน” ลงพื้นที่ภูเก็ตชื่นชมทำงานได้ดีในการควบคุมโรคระบาดโควิด

 “อนุทิน” ลงพื้นที่ภูเก็ตติดตามการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชื่นชม อ.ส.ม.เป็นกำลังหลัก นอกเหนือจากทีมแพทย์ พยาบาลในการร่วมสกัดการแพร่เชื้อ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 23 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเรวัติ อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต

โดยในช่วงเช้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะได้ลงตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตรวจเยี่ยมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในส่วนของโรงพยาบาล ถลาง โรงพยาบาล สนามแห่งที่ 1 จังหวัดภูเก็ต จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อมอบนโยบาย ด้านการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมรับฟังสรุปสถานการณ์ ปัญหาอุปสรรค ในการทำงานของพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ในช่วงบ่ายคณะของนายอนุทิน และ นายพิพัฒน์ จะร่วมประชุมรับฟังปัญหาด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวว่า  ตนและคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ได้ลงมาดูงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในหลายด้าน ทั้งในมิติสาธารณสุขและการท่องเที่ยวว่าจะเร่งฟื้นฟูยังไงได้บ้างเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมกันนี้ต้องขอบคุณอาสาสมัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้าน(อ.ส.ม.)ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไปที่ไหนก็จะต้องเรียกพบ อ.ส.ม. เพราะเป็นภารกิจหลัก

วันนี้เรามีสถานการณ์เรื่องโควิด – 19  พี่น้อง อ.ส.ม.ทุกคน ที่ติดตามข่าวสารก็คงจะทราบว่าทั่วโลกกำลังชื่นชมประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่ชื่นชมแค่ว่ามีการควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่เขาพูดว่า สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้ดีนอกเหนือจากความพยายามความเก่งของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ประเทศไทยควบคุมการระบาดได้คือ อ.ส.ม.ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุดของกระทรวงสาธารณสุขในการช่วยเหลือแพทย์พยาบาลในการดูแลชาวบ้าน

ทุกคนเข้าใจว่าทำไมประเทศไทยดูแลสถานการณ์โควิดนี้ได้เป็นอย่างดี ต้องขอแสดงความชื่นชมเหล่า อ.ส.ม.ทุกท่านด้วยใจจริง เพราะ อ.ส.ม.คือกำลังสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขในการทำงาน  มีความเสียสละ พี่น้อง อ.ส.ม.ที่ต้องไปช่วยดูแลพี่น้องที่มากักกันตัวในบ้านของตนเอง และสถานที่ ที่พี่น้องไปกักตัวก็มี อ.ส.ม. มาช่วยดูแลมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก  และพี่น้องประชาชนคนไทยจะต้องไม่ลืมพลังและ น้ำใจของ อ.ส.ม.ในครั้งนี้ เป็นอย่างมาก  เพราะเราช่วยกันจึงทำให้เรามีประสิทธิภาพในการควบคุมโรค  จนทำให้ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ลดลงมาเรื่อย ๆ

“ทุกท่านไม่ต้องเสียใจหรือตกใจที่ทำไมคนภูเก็ตถึงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เพราะเนื่องจากว่าเราเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งที่ไหนในโลกที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและมีคนต่างชาติมาเยอะก็มีโอกาสติดเชื้อเยอะ เพราะโรคนี้เป็นโรคที่เดินทางไปกับคน  ไม่ใช่เป็นความล้มเหลวหรือความผิดพลาดของ บุคลากรทางการแพทย์ตรงกันข้าม ยิ่งเราเจอผู้ติดเชื้อเยอะถือเป็น ผลงานและความสำเร็จของทีมบุคลากรทางการแพทย์ เมื่อเจอ เราก็รีบทำการรักษา  รอบนี้ถ้ารักษาทันท่วงทีก็ไม่มีอาการ หากพื้นฐานสุขภาพแข็งแรงก็ไม่มีอาการ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ อสม.ทำมาตลอดคือทำให้ชาวบ้านต้องมีพื้นฐานสุขภาพที่แข็งแรง”นายอนุทินกล่าว

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลถลาง ประกอบด้วย ชุด PPE หน้ากากอนามัย N95 ถุงมือยางทางการแพทย์ หน้ากาก Face shield เจลแอลกอฮอล์ ยาฆ่าเชื้อ ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยมี นายแพทย์บรรพต ปานเคลือบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลถลาง เป็นผู้รับมอบ จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมกันมอบหน้ากากอนามัยให้กับเจ้าหน้าที่ อสม.ทุกคน สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่