อธิบดีกรมทรัพย์ ลงพื้นที่อ่าวกุ้ง ระบุปะการังและป่าเลนมีความสมบูรณ์ตามสภาพพื้นที่ ที่ต้องดูแลรักษา

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่อ่าวกุ้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านกังวลการขุดลอกล่องน้ำของอ่าวกุ้งมารีน่าจะส่งผลกระทบต่อปะการังและป่าชายเลน ระบุปะการังและป่าเลนมีความสมบูรณ์ตามสภาพพื้นที่ ที่ต้องดูแลรักษา

จากกรณีที่ชาวบ้าน บ้านอ่าวกุ้ง หมู่ที่ 9 ตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความกังวลโครงการท่าเทียบเรือสำราญอ่าวกุ้งมารีน่า ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวกุ้ง จะส่งผลกระทบต่อแนวปะการังบริเวณหน้าเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง และป่าชายเลน หากมีการขุดลอกล่องน้ำเพื่อให้เรือเข้า-ออกโครงการนั้น

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วย นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดร.นลินี ทองแถม นักวิชาการ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของป่าชายเลนที่อยู่ติดกับที่ตั้งของโครงการและแนวปะการังด้านหน้าเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูลถึงข้อกังวลและสภาพพื้นที่โดยรวม

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่ า จากการลงพื้นที่จะเห็นว่า แนวปะการังในบริเวณหน้าเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง ยังมีความสมบูรณ์ตามสภาพพื้นที่ และระบบนิเวศน์ในบริเวณนั้น รวมไปถึงป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ไม่ต่างกัน ซึ่งเกรงว่าหากมีการขุดลอกล่องน้ำเพื่อให้เรือเข้า-ออกในโครงการ จะส่งผลกระทบต่อแนวปะการังตามที่ชาวบ้านเป็นห่วง เรื่องนี้จะต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จะต้องมีการชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงความจำเป็นที่จะต้องมีมารีน่ารองรับซุปเปอร์ยอชต์ในพื้นที่

“โดยส่วนตัวแล้ว เห็นด้วยกับการพัฒนา แต่การพัฒนาจะต้องไม่ลงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากโครงการนั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ ต้องชั่งน้ำหนักในเรื่องนี้ และจะไม่ขอก้าวล่วงไปถึงในส่วนนของโครงการที่ดำเนินการในที่ดินของเอกชน แต่จะเข้าไปดูแลในส่วนที่รับผิดชอบทั้งป่าชายเลนและปะการังเท่านั้น” นายจตุพร กล่าวในที่สุด