อดีตลูกน้องแสบลักบัตร ATM เจ้านายตระเวนกดทั่วประเทศสูญกว่า 6 ล้านบาท

โพสเมื่อ : Wednesday, April 18th, 2018 : 12.25 pm

อดีตลูกน้องแสบ ! ขโมยบัตรเอทีเอ็ม เจ้านายตระเวนกดเงินทั่วประเทศเกือบ 300 ครั้ง สูญกว่า 6 ล้านบาท ขณะที่เจ้านายเพิ่งรู้ตัวเงินหายหลังถูกกดเกลี้ยงบัญชี แจ้งตำรวจตามรวบได้

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการ พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.ปรมินทร์ พรรณราย สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ต.ไพโรจน์ ธนพรรณนาธร สว.กก.สส.ฯ ร.ต.อ.ภูเอก มุกสิวงศ์ รองสว.กก.สส.ฯ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสว กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายวิฑูรย์ หรือบี  บวบดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/160 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

 

ตามหมายจับที่ 160/2561 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2561 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์(บัตรอิเล็กทรอนิกส์) ที่เป็นของนายจ้างในเคหสถานและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นเบิกถอนเงินสดโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่บ้านฮาบิทาวน์ หมู่ 4 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 21.00 น.

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2561 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ว่า มีเหตุลักทรัพย์บัตรกดเงินสด (เอทีเอ็ม) ของผู้เสียหาย แล้วนำไปกดเงินสด จำนวน 248 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 6,520,000 บาท จึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 82/93 หมู่ 7 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่  16 ธันวาคม 2560 เวลากลางวัน จากนั้นชุดจับกุมได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตรงบริเวณตู้เงินสด (เอทีเอ็ม) พบบุคคล รูปร่างตำหนิรูปพรรณ และการแต่งกาย คนร้ายตรงกับ นายวิฑูรย์  หรือบี บวบดี

 

ต่อมาชุดสืบสวน กก.สส.ฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทำรายงานการสืบสวน เพื่อให้ พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินการออกหมายจับนายวิฑูรย์ หรือบี  บวบดี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องของผู้เสียหาย และศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติออกหมายจับในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯสืบหาข้อมูลสถานที่หลบซ่อนตัวเรื่อยมา จนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านในพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทางชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ ชุดสืบสวน บก.ภ.8 จึงเดินทางไปตรวจสอบหมู่บ้านดังกล่าวและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเพิ่มเติม ทราบว่า ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน จึงได้สอบถาม นายวิฑูรย์ฯ ผู้ต้องหา ให้การรับว่า ตนมีอาวุธปืนที่ซื้อมาป้องกันตัวเก็บไว้ที่บ้านจริง และพร้อมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านพัก ซึ่งผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนลูกซอง ยาว 5 นัด ขนาด 12 เลขทะเบียน กท 3857026 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 12 จำนวน 3 นัด อาวุธปืนพกสั้น ไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุน  ขนาด .380 จำนวน 1 นัด ทางชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ และตรวจยึดอาวุธปืนนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง และ สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียหาย ซึ่งฝากเงินไว้ในบัญชีกว่า 6 ล้านบาท ไม่เคยตรวจสอบยอดบัญชี มารู้ตัวอีกครั้งว่าเงินในบัญชีหายก็ต่อเมื่อต้องการจะเบิกเงินเพื่อนำไปซื้อรถ ส่วนคนร้ายหลังจากได้บัตรเอทีเอ็มของอดีตเจ้านายไปแล้วก็ได้ไปตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆทั้งในจังหวัดภูเก็ตและต่างจังหวัด รวมแล้วเกือบ 300 ครั้ง