องค์กรท่องเที่ยวภูเก็ตจับมือพบผู้ว่าฯ ขอความชัดเจนแนวปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

โพสเมื่อ : Monday, March 9th, 2020 : 1.27 pm

องค์กรท่องเที่ยวภูเก็ตจับมือบุกพบผู้ว่าฯ ขอความชัดเจน กรณีการปฎิบัติต่อผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ระบุทำตัวไม่ถูก อยากให้ภาครัฐบอกให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มเสี่ยงทราบถึงแนวปฏิบัติ

เมื่อเวลา 9.30 น. วันนี้ ( 9 มี.ค.) ตัวแทนจาก 5 องค์กรเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายรังสิมันต์ กิ่งแก้ว อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายธนวัต อ่องเจริญ เลขาธิการสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นางสุพัตรา จารุอริยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมป่าตอง นางอังคณา ธเนศวิเศษกุล นายกสมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน  เดินทางเข้าพบนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือ ขอความชัดเจนในการปฏิบัติต่อผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยสำเนาส่งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ และสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ,ผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต ร่วมหารือด้วย

นายสรายุทธ กล่าวว่า การยื่นหนังสือดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 โดยได้ระบุท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตการบริหารพิเศษมาเก๊า และ ฮ่องกง, สาธารณรัฐอิตาลีและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายที่ตราในราชกิจจานุเบกษา และเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในการปฏิบัติงาน

ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังวัดภูเก็ต และ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง และสมาคมโรงแรมกะตะกะรน จึงอยากขอทราบความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติงานต่อกลุ่มผู้โดยสาร 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้โดยสารชาวไทย จากกลุ่มประเทศเสี่ยง, ผู้โดยสารตามสัญชาติของกลุ่มประเทศเสี่ยง ที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง, ผู้โดยสารตามสัญชาติของกลุ่มประเทศเสี่ยง ที่เดินทางมาจากประเทศอื่นและผู้โดยสารสัญชาติอื่น ที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง

หนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จากประเด็นดังกล่าว จึงใคร่ขอความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อความเข้าใจตรงกัน และสามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการระบุผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ทั้งในส่วนการกักกันตัว และการเฝ้าระวัง ทั้งที่สนามบินและด่านตรวจต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนนิยมเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตโดยทางเรือ ทั้งเรือโดยสาร และเรือสำราญส่วนตัว ทางองค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ใคร่ขอความชัดเจนถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจในการขึ้นลงทางเรือว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด และได้ทำการตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเข้มข้นหรือไม่ด้วย

นายสรายุทธ กล่าวต่อไปว่า  ด้วยกระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศเกี่ยวกับการกักตัวนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงที่มาจากประเทศอื่น ซึ่งแนวทางการปฏิบัติยังไม่มีความชัดเจน และมีบางโรงแรมก็ไม่ทราบว่ามากับสายบินใด มีการตรวจเช็คมาอย่างครบถ้วนแล้วหรือไม่ และเกรงว่าจะผิดกฎหมาย เนื่องจากมีการกำหนดไว้ และไม่อยากให้นักท่องเที่ยวต้องโทษไปด้วย เพราะเขาไม่ทราบรายละเอียดของกฎหมาย จึงได้มายื่นหนังสือผ่านทางผู้ว่าฯ ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการที่ชัดเจน และแจ้งไปยังโรงแรม บริษัทนำเที่ยว และผู้เกี่ยวข้อง  เช่น ร้านอาหาร มัคคุเทศก์ เป็นต้น เพื่อเขาจะได้ทราบว่ามาตรการที่กำหนดออกมาเป้ฯอย่างไร และจะได้ปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องและเคร่งครัด

ประเด็นของนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยงที่เข้ามาแล้วและจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากวันที่ทำการจองไว้ ซึ่งนายสรายุทธ กล่าวว่า  ข้อบังคับดังกล่าวนักท่องเที่ยวจะไม่ทราบเลย เพราะเป็นข้อบังคับภายในประเทศ และเพิ่งประกาศออกมา หากนักท่องเที่ยวรู้มาก่อนว่าจะถูกกักตัว  เชื่อว่าเขาคงไม่มาอยู่แล้ว และปกตินักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มาอยู่เกิน 14 วัน หากรัฐบาลประกาศแนวทางดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและผู้ประกอบการเข้าใจถูกต้องตรงกัน จะดีกว่าการที่ไม่บอกให้เขาทราบ  รวมทั้งจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้  เพื่อให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

ขณะที่ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือและมีการหารือกันเบื้องต้น ว่า  ทางองค์กรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้มายื่นหนังสือและหารือแนวทางในการปฏิบัติภายหลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคโควิค -19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตได้มีคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว  ในขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมก็เกิดปัญหาในการดูแลนักท่องเที่ยวที่มาจาก 6 เมืองตามประกาศดังกล่าวว่า จะต้องมีวิธีการปฏิบัติอย่างไร

ทั้งนี้ในวันนี้ (9 มี.ค.63) จะมีการประชุม เพื่อสรุปแนวทางการปฏิบัติร่วมกันว่า จะมีการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากบางเรื่องเกินจากอำนาจของทางจังหวัดในการที่จะต้องหารือและส่งเรื่องไปยังส่วนกลาง เช่น ประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบถึงแนวทางการปฏิบัติก่อนที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เนื่องจากประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขใช้ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักร จึงจะต้องมีการทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะเข้ามาในประเทศไทย เป็นต้น พร้อมกันนี้ก็จะได้เสนอเรื่องไปยังสมาคมโรงแรมไทย เพื่อไปหารือร่วมกับทางกระทรวงท่องเที่ยวการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเข้ามาในประเทศไทย