หึงโหดชาย 69 ใช้มีดแทงหญิงวัย 55 ปี หลังเลิกรากันได้ 1 อาทิตย์

โพสเมื่อ : Wednesday, November 7th, 2018 : 9.59 pm

หึงโหดชาย 69 ชาวภูเก็ต ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงหญิงวัย 55 ปี ชาวตรัง 5 แผลเสียชีวิตคาที่ในพื้นที่ท่าฉัตรไชย คาดว่าเกิดจากความหึงหวงหลังฝ่ายหญิงขอเลิกกับฝ่ายชาติมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (7 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกแทงเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณซอย 1 ถนนหน้าวัดท่าฉัตรไชย ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.อัครพล ศิวิไล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าฉัตรไชย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐิติกาลวิวัฒน์ รองผกก.(สอบสวน) แพทย์เวรโรงพยาบาลถลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำจุดเมืองใหม่

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนภายในซอยดังกล่าว พบศพ น.ส.อรทัย ฟองโหย อายุ 55 ปี ที่อยู่ 89/8 หมู่ 2 ต.นาท่วมเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ที่บริเวณเสื้อมีคราบเลือดติดอยู่ และมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดประมาณ 5 แผล และที่ปลายเท้าพบกระเป๋าถือของผู้ตายวางอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้เก็บหลักฐานอื่นๆในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลถลาง

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุแทงผู้เสียชีวิต คือ  นายสมบรูณ์ แซ่เล้า อายุ 69 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลักก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตาย และผู้ก่อเหตุเคยมาอยู่ด้วยกันประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นผู้ตายได้เลิกกับผู้ก่อเหตุมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม ทำให้เกิดความแค้นผู้ตายเป็นอย่างมาก

ซึ่งก่อนเกิดเหตุในวันนี้ ผู้ตายได้เดินทางมาจ่ายค่าซ่อมรถที่ร้านซ่อมรถใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่ร้านซ่อมรถ เมื่อเห็นคนตายเข้ามาที่ร้านก็ได้ออกไปหาและมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจำนวนหลายแผล ส่งผลให้เสียชีวิตทันที หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าตำรวจคาดว่า สาเหตุเกิดจากผู้ก่อเหตุหึงหวงคิดว่าผู้ตายจะไปปันใจให้ชายอื่น

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลออกหมายจับ และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุตลอดเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้โดยเร็วที่สุด