หวิดวอดไฟไหม้จุดจำหน่ายประทัดในซุปเปอร์ชีปสาขาย่อยบางเทา

หวิดวอด ไฟไหม้ซุปเปอร์ชีปสาขาบางเทา ต.เชิงทะเล ภูเก็ต ตรวจสอบพบต้นเพลิงอยู่บริเวณจุดจำวางจำหน่ายประทัด  

ขอบคุณภาพตร.เชิงทะเล / เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล

เมื่อเวลา 16.05 น. วันนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้าน ซุปเปอร์ชีป 24 ชั่วโมง สาขาบางเทา บริเวณปากซอยบางเทา 15  ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง จึงทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่และรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน

ขอบคุณภาพตร.เชิงทะเล / เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล

ที่เกิดเหตุเป็นร้าน ขนาด 2 คูหา อยู่บริเวณปากซอยดังกล่าว เห็นประชาชน และ พนักงานวิ่งหนีออกมาจากร้านเป็นจำนวนมาก ภายในร้าน ตรงเบรคเกอร์ไฟฟ้าเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้และมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้เร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามติดสิ่งของภายในร้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปิดหลังคาของร้านเพื่อระบายควันให้ออกไปข้างนอกร้าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ จากการตรวจสอบ พบว่า ข้าวสาร สิ่งของเบ็ดเตล็ดที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายหลายรายการ

ขอบคุณภาพตร.เชิงทะเล / เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล

ตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.รัษฎา กลึงวงศ์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เชิงทะเล พบว่าต้นเพลิงอยู่บริเวณเคาเตอร์ ที่ตะกร้า วางขายประทัด  ดอกไม้เพลิง  ภายในร้าน พบว่า เพลิง ได้ลุกลาม ไปที่ชั้นวางสินค้า ประเภท ถุงพลาสติก  และ ฟ้าเพดาน   จากสอบถาม  นายอาดือนัน หะยีแยนา   ผู้ช่วยผู้จัดการ ร้าน  ทราบ  ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.   มีลูกค้า ในร้าน ประมาณ  3-4 คน เป็นหญิงกลางคน  มีเด็กชาย อายุประมาณ ๖6 ปี มาด้วย  ระหว่างที่เด็กไปยืนเลือกสินค้า ประเภท ประทัด อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปะทุ ของปะทัดดังขึ้น จากนั้นเกิดประกายไฟ ลุกลามทำให้ปะทัด และ ดอกไม้เพลิง ชนิดอื่นลุกไหม้ตาม จนลามไปติด ถุุงพลาสติก  พนักงาน  และพลเมืองดีได้ช่วยกันนำถังดับเพลิง มาดับเพิลง พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล เข้าดำเนินการดับเพลิง จนสามารถควบคุมเพิลงไว้ได้  ใช้เวลาประมาณ 15 นาที   เบื้องต้น ตรวจสอบแล่้ว ไม่มีผู้บาดเจ็บ  ส่วนทรัพย์สิน เสียหาย  อยู่ระหว่างประเมินราคา

ขอบคุณภาพตร.เชิงทะเล / เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง