หวั่นปะการังเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง จ.ภูเก็ต ถูกทำลายยับ หลังเอกชนมีแผนสร้างมารีน่า
โพสเมื่อ : Friday, May 11th, 2018 : 4.22 pm
หวั่นทุ่งปะการังน้ำตื้นหน้าเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง จ.ภูเก็ต ถูกทำลาย หลังเอกชนมีแผนสร้างมารีน่าขนาดใหญ่ แต่จากการทำประชาพิจารณ์ไม่ชี้ชัดจุดเรือเข้า – ออก พร้อมระบุผลการศึกษาไม่มีแนวปะการัง ป่าชายเลน ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ปรากฎตลอดแนวมีแนวปะการังเขากวางรวมทั้ง แซ่ทะเล สมบูรณ์
จากกรณีบริษัทเอกชนมีการนำเสนอโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า ในพื้นที่บ้านอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่จอดเรือได้จำนวน 72 ลำ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เป็นครั้งที่ 2 ส่วนแบบการดำเนินโครงการได้มีการกำหนดไว้แล้ว และยังไม่มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามหลังจากการนำเสนอข้อมูลในการทำประชาพิจารณ์ ก็ได้มีการเคลื่อนไหวของเครือข่าวชุมชน รวมทั้งชาวบ้านและ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนชุมชนบ้านอ่าวกุ้ง ผ่านทางเฟซบุ๊กต่างๆ ซึ่งเป็นภาพทุ่งปะการังเขากวางในสภาพสมบูรณ์ เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 ไร่ ซึ่งเป็นแนวปะการังน้ำตื้นหน้าเกาะเฮ บ้านอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมทั้งภาพป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติบ้านอ่าวกุ้ง ซึ่งระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจจะเป็นแนวในการขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้เรือยอร์ชขนาดใหญ่ ประมาณ 40 เมตร เข้าได้ ซึ่งเรือขนาดนี้จะต้องกินน้ำลึกมาก
แต่จากการทำวิจัยของทางผู้ประกอบการมีการระบุในขอเสนอที่นำมาทำประชาพิจารณ์ว่าพื้นที่บริเวณหน้าโครงการไม่ใช่ป่าชายเลน แต่เป็นท่าเทียบเรือเก่าที่อยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่า และในบริเวณด้านหน้าตลอดแนวไม่มีแนวปะการัง ซึ่งชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์มองว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ปรากฎ จึงมีการออกมาเคลื่อนไหวในโซเชียลเพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีอาการอนุญาตให้มีการขุดลอกร่องน้ำ เนื่องจากเกรงว่าการขุดร่องน้ำจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าชายเลนและแนวปะการัง
จากการสอบถามกลุ่มนักอนุรักษ์ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มอนุรักษ์เองไม่ได้คัดค้านเรื่องของการสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า เพราะการก่อสร้างดังกล่าวเป็นการสร้างในที่ดินเอกชน แต่ที่ชาวบ้านเป็นห่วงและกังวล เรื่องของการขุดลอกร่องน้ำ ที่เป็นทางเข้าของเรือไปยังโครงการ ซึ่งชาวบ้านมีความเป็นห่วงในหลายประเด็นที่มีการนำเสนอของทางที่ปรึกษาโครงการเกี่ยวกับป่าชายเลย ที่จะต้องมีการขุดทางเข้าออกเพราะอยู่ติดกับป่าชายเลน ที่มีการระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ป่าชายเลนแต่เป็นท่าเรือเก่า ทั้งๆ ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำป้ายประกาศห้ามไม่ให้มีการบุกรุกป่าชายเลนไปติดตั้งไว้ นอกจากนั้นสิ่งที่ชาวบ้านกังวลอีกเรื่องคือการขุดลองร่องน้ำเพื่อเพื่อให้เรือขนาด 40 เมตรเข้าได้จะต้องขุดร่องน้ำลึกไม่ต่ำกว่า 8 เมตร แต่ในผลการศึกษาที่นำมาชี้แจงกลับไม่มีการกำหนดดีเทลเกี่ยวกับจุดที่จะขุดให้ชัดเจนว่าจะขุดจุดไหนอย่างไร ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะมีวาระซ้อนเร้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงอยากให้มีการระบุให้ชัดเจนว่าขุดที่จุดไหนอย่างไร เพราะเท่าที่ชาวบ้านสำรวจพบว่าตลอดแนวหน้าโครงการมีปะการังกระจายอยู่ตลอด ซึ่งนอกจากปะการังเขากวางแล้ว ใกล้กันยังพบแซ่ทะเลที่กำลังสมบูรณ์และสวยงามเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 ไร่
แหล่งข่าวรายเดิมระบุ ว่า ที่ผ่านมา ในพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไปด้วยทรัพยากรอันมีค่าและเป็นแหล่งทำมาหากินหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้าน ถ้าหาดมีการขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้มีการเข้าออกของเรือ และถ้าหากการขุดลอกร่องน้ำ ต้องผ่านแนวปะการังก็จะทำให้ทรัพยากรถูกทำลาย และวิถีชีวิตของชาวบ้านในบริเวณนั้นๆต้องสูญหายไปด้วย ทำให้ขณะนี้มีกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบ ออกมาเรียกร้องและเคลื่อนไหวให้หน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่ เข้ามาหาทางออกของปัญหาต่อไป
ขณะที่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามัน ได้เผยผลการสำรวจสถานภาพแนวปะการังบริเวณอ่าวกุ้ง จ.ภูเก็ต รวมทั้งเกาะในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรายงานว่าจะมีโครงการสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬา ซึ่งได้มีการสำรวจทั้งหมด 7 สถานี เบื้องต้นพบว่าแนวปะการังในพื้นที่ส่วนใหญ่มีการฟื้นตัวได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลเดิมที่กรมมาสำรวจไว้เมื่อปี 2556 โดยพบว่าแนวปะการังฟื้นตัวจากสถานภาพเสียหายมาก กลับอยู่ในสถานภาพสมบูรณ์ปานกลาง 4 สถานี ได้แก่ เกาะเฮ เกาะปายู เกาะรา และเกาะแพ ส่วนที่ยังมีสถานภาพเสียหายมี 2 สถานี ได้แก่ เกาะงำ และ แหลมขาด และที่มีสถานภาพเสียหายมาก 1 สถานี คือ ชายฝั่งอ่าวกุ้ง
ปะการังที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ กลุ่มปะการังโขด (Porites spp.) ปะการังเขากวาง (Acropora spp.) ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora sp.) ปะการังรังผึ้ง (Goniastrea sp.) ปะการังวงแหวน (Favia spp.) ปะการังช่องเหลี่ยม (Favites spp.) ปัจจัยที่มีผลต่อสภาพปะการังในบริเวณนี้คือตะกอนตามธรรมชาติ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวพังงา ล้อมรอบด้วยป่าชายเลน และลักษณะพื้นทะเลเป็นทรายปนโคลน ทำให้น้ำค่อนข้างขุ่น แนวปะการังมีการฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า และง่ายที่ตะกอนพื้นทะเลจะฟุ้งกระจายขึ้นมาทับถมบนปะการัง
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ กกต.ภูเก็ต จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกและส.อบจ....
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการเก็บขยะใต้ทะเล แหล่งปะการังเทียม ประจำปี 2568...
- “ศุภาลัย” รุกตลาดบ้านแนวราบมิกซ์โปรดักส์ ปักธง แลนด์มาร์คใหม่ภูเก็ต เปิดตัว “ไพร...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Th...
- บจ.ภูเก็ต ประชุมเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดแยกและแจกจ่ายบัตรเลือกตั...
- อบจ.ภูเก็ตร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39...
- January 2025 (21)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)