หนุ่มโพสต์คลิป ! แค่ยืนพิงรถถูกรุมซ้อมเกือบตาย สุดท้าย 2 ฝ่าย ตกลงกันได้ จบเรื่องด้วยดี
โพสเมื่อ : Wednesday, January 10th, 2018 : 6.32 pm
แชร์กันสนั่นหนุ่มโพสต์ภาพ และคลิปวีดีโอ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แค่ยืนพิงรถ ถูกรุมซ้อมเกือบตาย หลังโพสต์ไม่ได้ คู่กรณีนัดเจรจา สุดท้ายสามารถตกลงกันได้ยอมจ่ายค่าเสียหาย ชะลอแจ้งความ
หลังจากมีหนุ่มโพสต์ภาพ และคลิปวีดีโอ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ กิตติพันธ์ กลมพันธ์ และ แชร์ยังเพจดัง เหตุด่วนเหตุร้ายภูเก็ต โดย มีภาพผู้ชายมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมความ ระบุว่า #แค่พิงรถซ้อมพี่ชายผมเกือบตาย ขอเรียกร้องความเป็นธรรมและไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ
โดยใจความระบุว่า “ผมขออธิบาย เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2561 เวลาประมาณ 1.30 น. หน้าผับแห่งหนึ่งย่านกลางเมืองภูเก็ต ติดสะพานตลิ่งชัน พี่ชาย นายวิชัย ได้ไปยืนคุยโทรศัพท์ หน้ารถกระบะ 4 ประตู คันหนึ่ง แล้วเผลอไปพิงหน้ารถ ทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้น เจ้าของรถคนนั้นไม่พอใจ จึงเดินมาต่อว่าพี่ชายผม ว่า อย่ามาพิงรถกู ทางพี่ชายผมได้กล่าวขอโทษ แต่เจ้าของรถ ไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน จากคำบอกเล่าของพี่ชายบอกว่า เจ้าของรถ เป็นคนชกต่อยก่อน แต่เสียเปรียบทางรูปร่างจึงล้มลง เมื่อสู้ไม่ได้จึงร้องเรียก กลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 10 คน มาช่วย พี่ชายผมเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งหนี กลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งไล่ ทำร้ายโดยการจับขาจับแขน กระทืบต่อหน้า ประชาชนซึ่งมาเที่ยว แต่ไม่มีใครกล้าเขาห้าม
ผมมาทราบภายหลังว่าเป็นนายทหารเรือ พี่ชายผมคนเดียวโดนรุมทำให้ฟันหลุด 3 ซี่ ดั้งจมูกหัก ขอบดวงตา 20 เข็ม ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถมองเห็น เป็นปกติ จึงขอความเป็นธรรม ให้กับนายวิชัย ตอนนี้ยังจับผู้กระทำผิดไม่ได้ หรือไม่อยากจับก็ไม่ทราบแน่ชัด และหากมีความผิดจริงหวังว่าคงจะไม่ใช่รับโทษแค่ย้ายออกนอกพื้นที่นะครับ
อย่างไรก็ตามหลังมีการโพสต์ภาพดังกล่าวออกไป ปรากฎว่าเพียงชั่วข้ามคืน มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นและกดถูกใจจำนวนมาก รวมทั้งเพจดังต่างนำไปโพสต์ต่อ จนกลายเป็นกระแสสังคม ทางผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังผู้ที่โพสต์ข้อความและภาพดังกล่าว คือนาย กิตติพันธ์ กลมพันธ์ น้องชายของผู้บาดเจ็บ
นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ พี่ชายของตน คือนายวิชัย กลมพันธ์ อายุ 35 ปี ทำงานสายส่งของหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนให้ขับรถไปรับ เนื่องจากเพื่อนที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงใกล้ที่เกิดเหตุเมา หลังรับโทรศัพท์ก็เดินทางไปหาเพื่อนที่สถานบันเทิง เมื่อเข้าไปนั่งได้สั่งพัก ก็มีคนโทรเข้ามาที่มือถือของพี่ชาย จึงเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอน และไปยืนพิงรถกระบะคันหนึ่งโดยไม่ทราบว่าเป็นของใคร ขณะที่กำลังยืนพิงรถเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น ต่อมาเจ้าของรถก็เดินมาที่รถและมีการต่อว่า ว่าไปทำอะไรที่รถ ซึ่งพี่ชายของตนก็พยายามที่จะขอโทษ ซึ่งตอนนั้นมีเจ้าของรถเดินออกมาคนเดียว ต่อมาก็มีปากเสียงกันจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน แต่เจ้าของรถซึ่งตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้ ต่อมามีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกรูกันออกมาจากสถานบันเทิง เมื่อพี่ชายตนเห็นก็พยายามวิ่งหนี กลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งไล่ตามซึ่งในช่วงดังกล่าวมีภาพในกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ แต่ก็มีการไล่กันไปจนพ้นรัศมีกล้องวงจรปิด และพี่ชายตนถูกคนนับสิบคนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่เห็นเหตุการณ์
หลังจากที่พี่ชายตน ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บก็มีคนเข้าไปห้าม และเรียกรถมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตให้นำตัวไปส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลพบว่าคู่กรณีที่เป็นเจ้าของรถก็เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตให้เข้ามาดูแล เพราะทั้ง 2 ฝ่ายมาโรงพยาบาลเดียวกันกลัวว่าจะมีเรื่องกันอีก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีพรรคพวกตามมาดูด้วย
นายกิตติพันธ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุประมาณ 2 วัน เมื่อพี่ชายตนรู้สึกตัว ตนจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกลับบอกให้ตนกลับไปหาหลักฐานมาก่อน ขณะที่ในส่วนของฝ่ายคู่กรณีทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีกับพี่ชายตน ในขณะที่ตนจะไปแจ้งความกรณีพี่ชายถูกทำร้ายกลับต้องไปหาพยานหลักฐานมาก่อน ส่วนเรื่องของความรับผิดชอบจากกลุ่มที่รุมทำร้ายพี่ชายตนนั้นยังไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด ซึ่งอาการของพี่ชายถือว่าหนัก แต่ขอจากโรงพยาบาลเพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้านเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับบาดปลอดภัย
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการโพสต์ภาพ และ คลิปไป ปรากฏ ว่ามีคนเข้าไปติดตามจำนวนมาก ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ( 10 ม.ค.) ทางกลุ่มบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นคนที่ลงมือทำร้าย นายวิชัย ได้นัดเจรจากับทางตัวแทนผู้เสียหาย โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นตัวแทนในการเจรจาครั้งนั้น ซึ่งผลการเจรจาถือว่าจบลงด้วยดี ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจกัน ทางกลุ่มบุคคลที่รุมทำร้ายยินดีที่จะขอโทษและชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล
นาย กิตติพันธ์ กลมพันธ์ น้องชายของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า จากการเจรจาร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะจบลงด้วยดี ซึ่งทางหน่วยงานต้นสังกัดของคนที่ก่อเหตุรุมทำรายจะดำเนินการลงโทษทางวินัยกับคนที่ร่วมก่อเหตุ รวมทั้งยินดีที่จะชดใช้ใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้ ซึ่งในส่วนของพี่ชายตนก็ยินดีที่จะรับคำขอโทษและยินดีที่จะจับมือเพื่อให้เลิกแล้วต่อกัน
ส่วนเรื่องอาการพี่ชาย ยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้เวลาในการรักษาพยาบาลนานมากน้อยแค่ไหน จะต้องให้หมอเป็นคนบอก ขณะที่เรื่องการแจ้งความในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สามารถตกลงกันได้ จึงคิดว่าจะยังไม่แจ้งความก่อน ซึ่งจะต้องรอดูกันต่อไปว่า การตกลงกันในครั้งนี้จะเป็นไปตามที่มีการตกลงกันไว้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามตกก็อยากให้เหตุการณ์จบลงด้วยดี
- December 2024 (2)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)