หนุ่มอ้างตกงาน ตระเวนก่อเหตุทุบกระจกลักทรัพย์ร้านค้ากลางเมืองภูเก็ต

ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ตรวบหนุ่มภูเก็ต ตระเวนก่อเหตุทุบกระจกร้านอาหาร ในพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ตแล้วขโมยทรัพย์สิน ในเบื้องต้นรับสารภาพอ้างตกงานไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุ

เมื่อวานนี้ ( 8 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ. เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ณัฐ พรหมเทพ รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.อนิรุทธิ์ ทองผึ้ง รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายวิศรุตม์ หรือฟลุ๊ค รัตนปัญญา อายุ 29 ปี ที่อยู่ 83/2 ถ.ปฏิพัทธิ์ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเลโนโว สีดำจำนวน 1 เครื่อง ขนมปัง,ขนมขบเคี้ยว จำนวน 18 ถุง ค้อน จำนวน 1 ด้าม เสื้อผ้า จำนวน 1 ชุด หมวกนิรภัย ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง จำนวน 1 ใบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกูปปี้ สีแดง ดำ ทะเบียน กพน 420 สตูล  จำนวน 1 คัน ชุดเครื่องเสียง (โฮมเธียร์เตอร์) ยี่ห้อ อะโคนิติค จำนวน 1 ชุด คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ยี่ห้อเอเซอร์ และยี่ห้อเอชพี จำนวน 2 ชุด โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ห้องพักเลขที่ 200/7640 เคหะบ้านพอน ม.1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้ง มีคนร้ายตระเวนก่อเหตุทุบกระจกประตูร้านค้า แล้วเข้าไปลักทรัพย์สินภายในร้าน จำนวน 3 ร้าน ประกอบด้วย ร้านบาร์ซรี่ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 60 ร้านชาบู อินดี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.60  และ ร้านป้าปุ๋ย กาแฟ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.60 ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนเห็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปยัง อ.ถลาง จนกระทั่งทราบตัวของคนร้ายและพักอาศัยอยู่ในเคหะบ้านพอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักของคนร้าย ปรากฏว่า พบตัวคนร้ายอยู่ภายในห้องจึงได้จับกุมและควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต

จากการสอบถาม นายวิศรุตม์ฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว จำนวน 3 ครั้ง จริง เนื่องจากอยู่ในช่วงตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจก่อเหตุ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจะเอาไปขายที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ตนจึงนำเจ้าหน้าที่ฯตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์สินได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุมครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวนำส่ง พนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตากกฎหมายต่อไป