หนุ่มหัวใสจ้างรถสไลน์บรรทุกกระบะซุกยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ดแต่ไม่พ้นมือตร.ภูเก็ตรวบได้

ไปไม่รอด! ตร.ภูเก็ตโชว์ไหวปริบ รวบ 2 ราย หนุ่มตรังซุกยาบ้าในรถเสียใช้บริการรถบรรทุกสไลด์เพื่อผ่านด่านตรวจเข้าภูเก็ตเกือบ 2 แสนเม็ด ขณะที่อีกรายแอบซุกยาเสพติดในหอพัก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่บริเวณด่านตรวจภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รองผบ.ร.25 พัน.2 พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจฝ่ายปกครองและผู้เกี่ยวข้อง

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ตัว นายยุทธพล หรือแจ๊ค  สุขทอง  อายุ 32 ปี ที่อยู่ 92 ม.7 ต.คลองปาง อ.รัษฏา จ.ตรัง พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน รวมจำนวนทั้งหมด  จำนวน 195,810  เม็ด และ รถยนต์กระบะ ตอนครึ่ง  ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บบ-140 ภูเก็ต   จำนวน 1 คัน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นันทเดช เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับแจ้งทางการข่าวว่า มีกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่มีพฤติการณ์ลักลอบขนส่งลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก โดยใช้วิธีการ ทำทีว่ารถเสียไม่สามารถขับขี่ไปได้  แล้วติดต่อรถบรรทุกสไลด์ ให้ทำการบรรทุกรถกระบะที่ซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลำเลียงเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต

หลังสืบทราบ ทาง พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต  จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องวางแผนบูรณาการเฝ้าระวังเพิ่มความเข้มในการตั้งด่านตรวจ เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวข้างต้น

จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ด่านตรวจภูเก็ต ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบรถต้องต้องสงสัยที่มีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งดังกล่าว ขับขี่มาจากพื้นที่จังหวัดพังงามุ่งหน้าจังหวัดภูเก็ต  ผ่านต่านตรวจภูเก็ต ขาเข้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เรียกเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นที่ตัวนายยุทธพล  หรือแจ๊ค  สุขทอง  พบยาบ้า จำนวน 10 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณเท้า และ ตรวจรถยนต์กระบะของนายยุทธพลฯ ที่บรรทุกมา พบยาบ้า อีกจำนวน 195,800 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในล้อยางรถที่วางอยู่ท้ายกระบะรถคันดังกล่าว

จากนั้นจึงนำตัวมาเพื่อทำการสอบสวนขยายผล ทราบว่า นายยุทธพลฯ รับยาเสพติดจำนวนดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำมาส่งมอบให้ชายไม่ทราบชื่อ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 50,000 บาท  เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า  “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา ในคดียาเสพติดอีก 2 ราย คือนายศรวิทย์ หรือบอล สิงขรรัตน์  อายุ 31 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 66/5  ต.รัษฎา  อ.เมือง จ.ภูเก็ต  และ นางสาวลลิตา หรืออุ้ย บุญชะโด อายุ 22 ปี อยู่ ที่126 ม.8 ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยของกลาง   ยาบ้า  หรือเมทแอมเฟตามีน   รวมจำนวนทั้งหมด  จำนวน 4,187  เม็ด ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน   รวมจำนวนทั้งหมด  จำนวน 65.04 กรัม โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในพูนผลไนพลาซ่า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 18 ธันวาคม  2561

สำหรับในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สืบสวนทราบ ว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งเช่าห้องพักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง บริเวณ พูนผลไนพลาซ่า มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักเพื่อจำหน่ายให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมสั่งการให้เฝ้าติดตามพฤติกรรมเพี่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่18 ธันวาคม  2561   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า บุคคลทั้งสองกำลังนำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักที่เช่าอาศัยอยู่จึง ไปทำการตรวจสอบ  พบนายศรวิทย์ หรือบอล สิงขรรัตน์  ออกมาจากห้องพัก ตรวจค้นที่ตัวนายศรวิทย์ฯ พบยาบ้า 13 เม็ด และ ยาไอซ์ 0.78 กรัม ได้ขยายผลนำตรวจค้นต่อภายในห้องพัก ซึ่งพบนางสาวลลิตา หรืออุ้ย บุญชะโด แฟนสาวของนายศรวิทย์ฯพักอาศัยอยู่ภายในห้อง จึงได้นำตรวจค้นต่อภายในห้อง พบยาเสพติดของกลางเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก

จึงได้นำตัวมาเพื่อสอบสวนขยายผลทราบว่า นายศรวิทย์ฯได้ติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจากกลุ่มเครือข่ายผู้ค้าไม่ทราบชื่ออาศัยอยู่จังหวัดเชียงราย แล้วสั่งการให้บุคคลไม่ทราบชื่อที่อาศัยอยู่จังหวัดภูเก็ต นำยาเสพติดมาวางไว้บริเวณริมถนน ตามสถานที่ต่างในจังหวัดภูเก็ต  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อโดยกล่าวหาว่า  “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”