หนุ่มตรังฉุนแฟนสาว!โทรไม่รับสาย บุกถึงบ้าน พูดจาไม่เข้าหู ชักปืนยิงเจ็บ 2

โพสเมื่อ : Monday, June 10th, 2019 : 12.55 pm

หนุ่มตรังฉุนแฟนสาว ติดต่อไม่ได้ บุกถึงบ้าน นั่งกินเบียร์กับพี่ชายแฟนสาว ก่อนพูดจาไม่เข้าหู ชักปืนยิงขู่แต่พลาดเจ็บ 2 ราย ตร.ปิดล้อมจับกุมตัวได้ขณะหลบหนี ค้นรถเจออาวุธปืน กระสุนและยาเสพติด เพียบ

เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันนี้ ( 10 มิ.ย.62 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งจากนางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ว่า ถูกแฟนหนุ่มบุกเข้าภายในบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงใส่บุคคลภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และมีคนอยู่ภายในบ้านอีกหลายคน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 135/104 หมู่บ้านปฎักวิลล่า ม.4 ถ.ปฏัก ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง ร่วมตรวจสอบในเบื้องต้น แต่เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และมีคนอยู่ในบ้านเกรงจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมตรวจสอบ

 

เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว จ.ตรัง แฟนหนุ่มของนางสาว เพ็ญนภา ที่เพิ่งคบหากัน ได้มีปากเสียงและใช้อาวุธปืนยิงขู่ ถูกนายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ อายุ 40 ปี พี่ชายของน.ส.เพ็ญนภา กระสุนถูกที่ขา และ นายพงศกร เอี่ยมสำราญ อายุ 22 ปี ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของ น.ส.เพ็ญนภา ถูกกระสุนที่แขน ได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นเจ้าหน้าได้กระจายกำลังปิดล้อมที่บ้านหลังดังกล่าว และกำลังเข้าเกลี้ยกล่อมเพื่อให้นายพิมลศักดิ์ ออกมามอบตัว แต่ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้พยายามนำตัวนายศักดิ์สิทธิ์ ผู้บาดเจ็บขึ้นรถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาล แต่เมื่อขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปิดล้อมอยู่ จึงขับรถย้อนเข้าไปในบ้านใหม่ ต่อมาไม่นานผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ ทะเบียน กต 1895 ภูเก็ต พานายศักดิ์สิทธิ์ และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากบ้านอีกครั้งเพื่อหลบหนี แต่ระหว่างนั้นมีรถยนต์ของประชาชนขับเข้ามาและขวางทางออก ทำให้รถของนายพิมลศักดิ์ออกไม่ได้ จึงโมโหใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของประชาชนที่จอดขวางทางจำนวน 3 นัด นายศักดิ์สิทธิ์ และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงช่วยกันแย่งปืนจนชุลมุนขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าชาร์จจับกุมตัวไว้ได้

 

ก่อนทำการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และยาเสพติดหลายรายการ ประกอบด้วย อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคล์ท ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .45 จำนวน 25 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 4 นัด นอกจากนี้ยังพบยาเสพติด ทั้ง ยาบ้า กัญชา และยาไอซ์ ตาชั่ง และเครื่องชั่งดิจิตัล อีก 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ฉลอง ส่วน นายศักดิ์สิทธิ์และนายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอบจ.ภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ

ทั้งนี้หลังควบคุมตัวได้ พ.ต.อ. อารยพัน พุกบัวขาว รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง และ ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต และพนักงานสอบสวนร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและร่วมสอบปากคำ นายพิมลศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ

 

จากการสอบสวน ทราบว่า นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ก่อเหตุ ได้รู้จักกับนางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ทางเฟสบุ๊ก และตัดสินใจคบหากันประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ นายพิมลศักดิ์ เป็นคนอารมณ์ร้อนชอบทุบตีนางสาวเพ็ญนภาเป็นประจำและมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้นางสาวเพ็ญนภาต้องการขอแยกทาง โดยก่อนเกิดเหตุนายพิมลศักดิ์ได้พยายามติดต่อนางสาวเพ็ญนภาทางโทรศัพท์ แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะ นางสาวเพ็ญนภาไม่รับสาย เนื่องจากอยากแยกทาง นายพิมลศักดิ์จึงบุกมาหาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวเพ็ญนภา ในเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 11 คน รวมทั้ง นางสาวเพ็ญนภา และนอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุและเด็กอยู่ด้วย

เมื่อนายพิมลศักดิ์ มาถึงก็ได้พยามยามหาตัวนางสาวเพ็ญนภาในห้องนอน แต่ไม่พบเนื่องจากหลบอยู่ในห้องนอนของพี่สาว จากนั้นนายพิมลศักดิ์ จึงได้มานั่งดื่มเบียร์ กับ นายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ ซึ่งเป็นพี่ชายของ น.ส.เพ็ญนภา ก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น นาย พิมลศักดิ์จึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่นายศักดิ์สิทธิ์ 2 นัด ทำให้กระสุนถูกเข้าบริเวณขาของนายศักดิ์สิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ และกระสุนเฉี่ยวโดนแขนของนายพงศกร เอี่ยมสำราญ ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของน.ส.เพ็ญนภาอีก 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนางสาวเพ็ญนภาซึ่งหลบอยู่ในห้องนอนพี่สาวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหลบหนีออกมาจากห้องนอนของพี่สาว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาหนักกับ นายพิมลศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ทั้ง ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ และจากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า นาย พิมลศักดิ์เคยต้องโทษในคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษเมื่อ ปี 2559 ที่ผ่านมา