หนาวนี้ต้องจัด! นกแอร์พาบินลัดฟ้าสู่ “เฉินตู” ประเทศจีน สัมผัสความมหัศจรรย์ของ“จิ่วจ้ายโกว” อุทยานแห่งชาติกลางหุบเขา
โพสเมื่อ : Friday, December 29th, 2023 : 12.45 am
หนาวนี้ต้องจัด ! สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จับมือ นกแอร์ พาบินลัดฟ้าเปิดประสบการณ์ ท่อง “มหานครเหนือกาลเวลา” เฉิงตู ประเทศจีน สัมผัสความมหัศจรรย์ ของแหล่งท่องเที่ยว “จิ่วจ้ายโกว” อุทยานแห่งชาติกลางหุบเขา พร้อมชมความน่ารักของ น้อง “หมีแพนด้า”
เมื่อเร็วนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต โดย ร่วมกับ สายการบินนกแอร์ เส้นทาง นำคณะ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต และ สื่อมวลชนภูเก็ต ศึกษาดูงาน และ สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว ในเมืองเฉินตู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 16 -21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายหลัง สายการบินนกแอร์ เปิดเส้นทางใหม่ “ภูเก็ต – เฉิงตู” ซึ่งเป็นการบินตรงสู่ “มหานครเหนือกาลเวลา” เฉิงตู ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ด้วยเครื่องบิน Boeing 737-800 ที่นั่งกว้างนั่งสบาย ก่อนที่จะร่วมมือกันจัดโปรแกรมทัวร์ “มหานครเหนือกาลเวลา” เฉิงตู ประเทศจีน เพื่อสัมผัสกับความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ที่สามารถเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ คณะได้ออกเดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ด้วยสายการบินนกแอร์ เวลา 21.00 น. ถึง เฉิงตู (เทียนฟู่) (TFU) เวลา 02.00 น.วันถัดไป (ตามเวลาท้องถิ่น) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากพักผ่อน เช้าอีกวันเราออกเดินทางจากโรงแรม มุงหน้าไปยัง “หุบเขาจิ่วจ้ายโกว” เพื่อชมความงดงามในฤดูหนาว โดยอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 500 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง แต่ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักให้ชมวิว แชะภาพ เป็นที่ระลึกกัน
โดยจุดแรก เราแวะชมความสวยงามของ “ทะเลสาบเตี๋ยซี” ทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการถล่มของเขื่อนเนื่องจากแผ่นดินไหว ทำให้หมู่บ้านจมลงใต้ทะเลสาบ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเฉินตู นอกจากจะได้เก็บภาพความสวยงามของทะเลสาบแล้ว จุดนี้เรายังได้ถ่ายรูปกับ “จามรี” สีขาว สวยงาม โดยจ่ายค่าถ่ายรูป คนละ 10 หยวน หรือ ประมาณ 50 บาทไทย เราก็จะได้ภาพสวยๆ มาอวดเพื่อนๆ แต่จุดนี้ไม่สะดวกในเรื่องของห้องน้ำ เนื่องจากห้องน้ำ ยังเป็นระบบราง ถ้าทนได้ ไม่แนะนำให้เข้าไปใช้บริการ หลังจากเก็บภาพอิ่มหนำ กันแล้ว เราเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่พัก โดยระหว่างทางอาจจะมีบางคนที่มีอาการหายใจไม่ทั่วท้อง ปวดหัว เพราะเราอยู่บนที่ราบสูง แต่ทุกคนเมื่อได้สัมผัสความสวยงามของสถานที่ต่างก็ลืมอาการที่เกิดขึ้นหมด
วันต่อมา เราเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติ “จิ่วจ้ายโกว” ซึ่งที่นี่ต้องเปลี่ยนมาใช้รถของทางอุทยานฯ เพื่อชมความสวยงามในฤดูหนาว ของ “จิ่วจ้ายโกว” ซึ่งช่วงที่คณะเดินทางไป เป็นช่วงที่หิมะเริ่มตก ทำให้ภูเขาเริ่มมีหิมะปกคลุม ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนเห็นแล้วต้องว้าว!
“จิ่วจ้ายโกว” เป็นดินแดนแห่งขุนเขาและธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มี แม่น้ำ ทะเลสาบ ใหญ่น้อยมากกว่า 144 แห่ง น้ำในทะเลสาบสีเขียวมรกต สะท้อนภาพภูเขา ท้องฟ้า อย่างสวยงาม ที่ธรรมชาติสร้างไว้ เหมือนภาพวาดในจิตนาการ นอกจากนั้นยังมีน้ำตกขนาดใหญ่ อีกหลายแห่ง จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติ “จิ่วจ้ายโกว” ในครั้งนี้ ไกด์พาเราไปชมจุด ไฮไลท์ ที่สำคัญของอุทยาน เช่น ทะเลสาบนกยูง เมื่อลงรถทุกคนก็ร้อง ว้าว! กันเลยทีเดียว เพราะความสวยงามของทะเลสาบ ด้วยสีน้ำที่เป็นสีฟ้าเข้ม สลับกับสีอ่อน ซึ่งมีรูปร่างเหมือนนกยูง จุดนี้สามารถถ่ายภาพกันได้อย่างจุใจ
ตามมาไปด้วย ทะเลสาบยาว ทะเลสาบแพนด้า และ ทะเลทะเลสาบห้าสี สำหรับทะเลสาบห้าสี จะเห็นชัดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่ช่วงที่เราเดินทางไปทะเลสาบห้าสี ก็สะท้อนภาพสวยออกมาให้เราได้ว้าว! กันไม่น้อยเลยทีเดียว กับเกล็ดหิมะที่เกาะบนโขดหินและต้นไม้รอบ ๆ ทะเลสาบ ตัดกับน้ำสีเขียวมรกตใส ที่อยู่ตามกลางหุบเขา สวยงามจนเกินบรรยาย
อีกจุดถือ เป็นไฮไลท์สำคัญ ของการเที่ยว “จิ่วจ้ายโกว” คือ “น้ำตกธารไข่มุก” เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านลำธารใหญ่น้อย ที่สลับซับซ้อนดุจดังวังบาดาล เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลก โดยมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมาเป็นระยะกว่า 300 เมตร โดยไม่ขาดสาย ส่องประกายระยิบระยับ ราวกับความงามของเส้นไข่มุก จุดนี่เป็นจุดที่พลาดไม่ได้ แชะภาพกันไม่หวาดไม่ไหว เพราะสวยทุกจุด จนไม่สามารถละสายตาได้
หลังจากเก็บภาพกันจนเป็นที่พอใจ เราก็เดินทาง ไปต่อกันหมู่บ้านชาวทิเบต ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ให้ลงไปถ่ายภาพ และ สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวทิเบต รวมทั้งเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก นอกจากนั้นจุดนี้ยังมีจุดถ่ายภาพที่ ไม่ควรพลาดอีกจุด คือ สะพานข้ามทะเลสาบ ขอบอกเลยว่าจุดนี้ถ่ายภาพออกมาสวยมากๆ พลาดไม่ได้ที่จะต้องลงไปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
ออกจากอุทยานแห่งชาติ “จิ๋วจ้ายโกว” เรามุ่งหน้าสู่ “เมืองซวนจู่ซื่อ” ซึ่งเป็นตำบลเล็ก ๆ อยู่บนที่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร เพื่อค้างคืน ตื่นเช้าอีกวัน เราออกเดินทางต่อไป เมือง “โบราณซงพาน” เมืองชายแดนจีน-ทิเบต เพื่อชมความสวยงามของเมือง และถ่ายรูปกับรูปกับรูปปั้นนายพล “หลิวป๋อฉิง”
หลังจากนั้นเรา มุ่งหน้าสู่เมือง “ตูเจี่ยงเยี่ยน” ไปชมความน่ารักของหมีแพนด้า ที่ “ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจี่ยงเยี่ยน” ระหว่างทางคณะเราได้แวะปั๊มน้ำมัน เพื่อเข้าห้องน้ำ และ อุดหนุนแอปเปิ้ล ของพ่อค้าชาวจีน ที่นำมาวางขายกันด้วย ขอบอกว่า แอปเปิ้ล สดและอร่อยมาก ๆ และราคาไม่ไม่แรง แอปเปิ้ลที่ นี่เค้า ขายกันเป็นกิโล เฉลี่ยลูกละไม่กี่บาท ซึ่งตลอดสองข้างทาง ที่เรานั่งรถผ่านมามีสวนแอปเปิ้ลเต็มไปหมด แต่เป็นช่วงที่เก็บผลผลิตเกือบหมดแล้ว
นั่งรถมาสักพัก เราก็มาถึงที่ “ศูนย์อนุรักษ์ หมีแพนด้าตูเจี่ยงเยี่ยน” มีหมีแพนด้า กว่า 20 ตัว เมื่อมาถึงเราจะต้อง นั่งรถของศูนย์มายังจุดที่ที่อยู่ของหมีแพนด้า ซึ่งแบ่งบ้านออกเป็นหลังๆหมีแพนด้าจะใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณที่กำหนด กินๆ นอนๆ และเดินไปเดินมา เราสามารถเดินดูได้ตามจุดต่าง ๆ มีทั้งแพนด้าขาวดำ และ แพนด้าแดง ให้เราได้ถ่ายรูปกันรัวๆ กับความน่ารักของน้องหมีแพนด้า
วันสุดท้าย สุดท้ายของการท่องเที่ยว เมืองเฉินตู เราไปกันที่ “เมืองเล่อซาน” เพื่อไปสักการะ “หลวงพ่อโต” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินภูเขาองค์ใหญ่ ใช้เวลาแกะสลักนานถึง 99 ปี มื่อเรือล่องไปถึงหน้าหลวงพ่อโต เรือจะหยุดให้ทุกคนได้ไหว้พระขอพร หลังจากนั้นเรือจะนำทุกคนกลับ ใช้เวลาไปกลับประมาณ 40 นาที แต่ถ้าไม่ล่องเรือจะเดินขึ้นไปตามทางเดินก็ได้ ซึ่งเขาจะขึ้นเจาะภูเขาเป็นทางเดินและทำเป็นระเบียงบริเวณหน้าผา แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ขอบอกว่าจุดนี้นอกจากจะได้สักการะหลวงพ่อโตแล้ว ก่อนจะขึ้นเรือ ที่นี่ยังมีห้องน้ำ 5 G ไว้บริการด้วย ถ้าไปจุดนี้อย่างลืมแวะทดลองใช้ห้องน้ำ 5G กันได้
ไหว้พระเสร็จ ได้เวลาเข้า เมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเฉสวน เป็นเมืองที่มีตึกใหญ่ๆ มีห้างสรรพสินค้าเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็ขายสินค้าแบรนด์เนม และ ที่จุดนี้จะมีรูปปั้นหมีแพนด้า ปีน อยู่บนยอดตึกอาคาร IFS ให้เราได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย ใครที่ชอบช้อปปิ้งรับรองมาที่นี่ได้ช้อปหนำใจแน่นอน กลางคืนก็จะมีผู้คนออกมาเดินเที่ยวกันจำนวนมาก
นอกจากนั้นใจกลางเมืองเฉินตู ยังมีวัดเก่าแก่ คือ “วัดต้าฉือ” ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุกว่า 1,600 ปี ภายในวัดกว้างขวาง สงบ แม้จะอยู่ใจกลางย่านช้อปปิ้งก็ตาม มีนักท่องเที่ยวเข้าไปไหว้พระขอพรกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากไหว้พระ และช้อปปิ้ง ทานอาหารเย็นซึ่งเป็นเมนูเด็ดของที่นี่แล้ว เราก็นั่งรถเดินทางต่อไปยังสนามบิน เฉิงตู เทียนฟู เพื่อขึ้นเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ที่พร้อมพาเราบินลัดฟ้ากลับมายังจังหวัดภูเก็ต โดยสวัสดิภาพ
สำหรับคนที่อยากสัมผัสความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว และ อากาศหนาวของเมืองเฉิงตู เตรียมตัวให้พร้อม ตัดสินใจจองตั๋วเดินทางกับสายการบินนกแอร์ได้เลย ช่วงนี้เค้ามีราคาพิเศษแบบจิ๊บๆไว้บริการ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ www.nokair.com หรือแอปพลิเคชัน Nok Air หรือ CallCenter 1318 และผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางเว็บไซต์ Nokair.com หรือ แอปพลิเคชั่น Nok Air
- เริ่มแล้ว! งาน “สีสันอันดามัน ครั้งที่ 2“ 31 ต.ค.-3 พ.ย.67 ณ ประตูเมืองภูเก็ต น...
- ภูเก็ตเปิดตัว 5 ชุมชนท่องเที่ยวใหม่ ชูอัตลักษ์ของแต่ละแห่ง พร้อมสร้างเส้นทางท่อง...
- สุขทันที..ที่เที่ยวพังงา ขับรถเที่ยวหน้าฝน “ตะลุยกินผลไม้ถึงสวน”...
- เที่ยวแหลมพรหมเทพ ต้องไม่พลาด ของดีของหรอย กับ งาน “วิถีราไวย์”...
- พร้อมกันแล้วยัง สร้างเมืองให้เป็นสีรุ้ง รับจัดงาน “Discover Phuket Pride 2024 @...
- มุมมหาชน “อควาเรียภูเก็ต”...
- November 2024 (17)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)