สุดทน! ดอกไม้ยังขโมย เจ้าของร้านขายมือถือโพสต์ประณามโจรชาย-หญิง

เจ้าของร้าน ขายโทรศัพท์มือถือ ใกล้ท่าเรือรัษฎา จ.ภูเก็ต สุดทน ประณาม 2 โจร ชาย – หญิง กระถางดอกไม้ ยังขโมย พร้อมฝากเตือนระวังมิจฉาชีพทำทีนำพระบรมฉายาลักษณ์ มาเสนอให้บูชา แลกเงินบริจาคอ้างนำไปซื้อขาเทียม

วันนี้ (27 มิ.ย.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อ TuKTa Winitphairot โพสต์ข้อความ ขโมยได้แม้แต่ต้นไม้ ชีวิตพวกมึงจะไปทำอะไรแดกได้ ก็คงต้องเป็นโจรไปตลอดชีวิต 🐃🐃🐃 เวลาเกิดเหุต 01.39น. ป้ายทะเบียน 377 มากัน 2 คน ตัวผู้กับกับเมีย ตัวผู้ลงมาขโมยต้นไม้ ตัวเมียขับรถ ใครรู้จักขยะสังคมคู่นี้แจ้งเข้ามาหน่อย 👣   พร้อมภาพวีดีโอ และภาพนิ่ง จากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพขณะคนร้ายขับรถมาจอดหน้าร้าน เทพีโบบาย หลังจากนั้นคนร้ายที่เป็นผู้ชาย ไก้จากรถและมาหยิบเอากระถางดอกไม้ ซึ่งแขวนอยู่หน้าร้านจำนวน 2 กระถาง นำออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่จอดสตาร์ทเครื่องไว้ขับหลบหนีไป อย่างไรก็ตามหลังจากมีการโพสต์ภาพภาพและคลิปวีดีโอ ดักกล่าวออกไป ปรากฏ ว่า มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ต่างก็ประณามพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยไม่เลือก แม้แต่ดอกไม้ยังไม่เว้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ค คือนางสาววิยะดา วินิจไฟโรจน์ เจ้าของร้าน เทพีโบบาย เลขที่ 65/82 หมู่ 7 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต  กล่าวว่า เมื่อเช้าขณะมาเปิดร้านจำหน่ายมือถือ พบว่าดอกไม้ที่แขวนอยู่หน้าร้าน 2 กระถาง ซึ่งกำลังออกดอกสวยงามหายไป จึงมาเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 0.39 น.วันนี้ ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน เป็นผู้ชายและผู้หญิง ขับรถมาจอดที่หน้าร้าน โดยฝ่ายชายลงมาหยิบเอากระถางดอกไม้ที่แขวนไว้ไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้ามูลถึงมูลค่าความเสียหายถือว่าไม่มาก ดอกไม้ดังกล่าวซื้อมากระถางละ 200 บาท แต่ มีความรู้สึกว่าบ้านเมืองเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน โจรผู้ร้ายมีอยู่ทุกที แม้แต่ดอกไม้ยังไม่เว้นถูกขโมย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด แต่ที่นำภาพมาโพสต์ก็เพื่อประณามการกระทำของคนร้าย และเพื่อเตือนภัยให้คนอื่นๆได้ระวังตัว

นางสาว วิยะดา ยังได้กล่าวต่อไปว่า ตนอยากฝากเตือนไปยังคนทั่วไป ให้ระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีกลุ่มบุคคลชายหญิง จำนวน 3 คน อ้างตัวว่า มาจากสมาคมทหารตำรวจนอกราชการแห่งประเทศไทย นำพระบรมฉายาลักษณ์ ร. 10 มามอบให้บูชา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ขอรับบริจาค ค่าขาเทียมข้างละ 3500 บาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดกับตนโดยตรง เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้ง 3 คน ได้เข้ามาหาตนที่ร้าน และนำพระบรมฉายาลักษณ์มามอบให้พร้อมขอรับบริจาคเงิน 3,500 บาท ซึ่งตนได้หยิบเงินให้ไป 500 บาท แต่มีผู้หญิงที่มาด้วยเข้ามาพูดจาโน้มน้าว ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธและบอกให้มาใหม่วันที่ 28 มิ.ย. แต่ผู้หญิงที่มาด้วยก็ยังพูดจาโน้มน้าวพร้อมกับบอกว่าลดราคาเหลือ 1,999 บาท ซึ่งตนได้หยิบเงินให้ไป 2,000 บาทโดยไม่รู้ตัว รู้สึกมึนงง เหมือนกับถูกวางยา หลังจากรู้สึกตัวจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามจากการสอบถามทราบว่าขณะนี้คนคนร้ายดังกล่าวซึ่งใช้รถกระบะสีเปลือกมังคุด ได้ไปก่อเหตุกับคนอื่นแล้วด้วย และได้รับการยืนยันจากทางตำรวจว่า จากการตรวจสอบไม่มีสมาคมดังกล่าวแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่มากกว่า