“สิระ เจนจาคะ” ไม่แย้งผลสอบก่อสร้างคอนโดหรู“เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์” เลี่ยงรับหนังสือชาวบ้านร้อง

โพสเมื่อ : Thursday, November 14th, 2019 : 6.53 pm

“สิระ เจนจาคะ” พบผู้ว่าฯภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดหรู มูลค่ากว่า 2,500 ล้าน “เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์” ไม่โต้แย้งผลสอบ เผย 25 พ.ย.นี้ ดีเอสไอ.ลงตรวจสอบ ปฎิเสธรับหนังสือร้องเรียนชาวบ้านกรณีทวงคืนคลองบางรักและถนนสาธารณะ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาพบ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหรู โครงการ เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์ ของ บริษัท กะตะบีช จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ. ภูเก็ต ก่อนที่จะประชุมร่วมกับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการ เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์ ซึ่งมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน พร้อมด้วย รอง กอ.รมน.อัยการจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง ท้องถิ่นจังหวัด นายอำเภอเมืองภูเก็ตผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต และนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจากคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการเดอะพีคฯ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่งขึ้น เมื่อครั้งที่นายสิระ เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากผู้ประกอบการและชาวบ้านหาดกะตะน้อย ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

โดยนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการเดอะพีคฯ กล่าวในที่ประชุม ว่า คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์ ใน 3 ประเด็นหลักๆ ตามข้อร้องเรียน คือ การออกเอกสารสิทธิ นส.3 ก ที่ดินแปลงที่ตั้งของโครงการ เดอะ พีคฯ ซึ่งศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สั่งเพิกถอน และทางกรมที่ดินได้ยื่นอุทรณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

ส่วนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้น ทางโครงการได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำรายงาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารชุดที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ (คอนโดมิเนียม) โดยใช้ นส.3 ก ร่วมกับเอกสารหลักฐานในการยื่นขอออกโฉนดที่ดิน ในการยื่นขอจัดทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถดำเนินการได้ โดยมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2 ครั้ง แต่ครั้งแรกไม่ผ่าน ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมให้แก้ไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มบ่อน้ำจาก 2 บ่อเป็น 4 บ่อ เพิ่มกำแพงกั้นดิน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ด้านล่างโครงการ เมื่อรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบ จึงไปยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างกับทางเทศบาลตำบลกะรน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 ที่สามารถใช้เอกสารสิทธิที่ดินที่เป็น ส.ค.1 นส.3 นส.3 ก. หรือ โฉนด ยืนขอก็ได้ ทางเทศบาลตำบลกะรนตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ยื่นขอเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงออกใบอนุญาตก่อสร้างให้กับโครงการเดอะพีคฯ ส่วนการจะขอเป็นอาคารชุดนั้นจะต้องเป็นโฉนดที่ดินเท่านั้นและต้องจดทะเบียนกับทางกรมที่ดินเท่านั้น

ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมาติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการเดอะพีคฯ ตามที่ตนได้ยื่นเรื่องกับทางจังหวัดภูเก็ตไว้ในการเดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากผู้ประกอบการและชาวบ้านหาดกะตะน้อยเมื่อครั้งที่แล้ว และการตรวจสอบนั้นครบกำหนด 30 วัน ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ผลการตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไรตนไม่มีข้อสักถามและข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ขอให้ทางจังหวัดภูเก็ตตอบผลการตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษรมาเท่านั้น และในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ทาง ดีเอสไอ.จะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตนได้ไปยื่นเรื่องกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษให้มาดำเนินการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการเดอะพีคฯ

หลังจากที่นายสิระพูดเพียงสั้นๆในที่ประชุม ก็ได้เดินทางกลับ โดยบอกว่าจะต้องรีบไปออกทีวี ขณะที่นายสิระจะขึ้นรถยนต์กลับนั้น นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน พร้อมด้วย นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน และชาวบ้านหาดกะตะกะรน จำนวนหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสิระ ให้ตรวจสอบกรณีคลองบางรักและถนนสาธารณะที่หาดกะตะน้อยที่หายไป โดยระบุว่าถูกนายทุนเจ้าของโรงแรมดังบนหาดกะตะน้อยยึดเป็นของตัวเองและปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านใช้พื้นที่สาธารณะในการทำมาหากิน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน แต่นายสิระปฏิเสธที่จะรับหนังสือดังกล่าว ได้ขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ทันที โดยผู้บริหารเทศบาลตำบลกะรนและชาวบ้านได้ล้อมรถไว้และตะโกนเรียกร้องให้นายสิระลงมารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนายทุนเจ้าของโรงแรม จนรถของนายสิระออกไปจากศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ทำให้ชาวบ้านผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือของชาวบ้านหาดกะตะกะรนในวันนี้กับ ส.ส.สิระเพื่อต้องการที่จะให้นายสิระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีของคลองบางรักซึ่งเป็นคลองสาธารณะที่ตั้งอยู่บนหาดกะตะน้อยแต่ในปัจจุบันคลองดังกล่าวได้หายไป และรวมถึงถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งชาวบ้านรู้ดีว่าทั้งคลองบางรักและถนนสาธารณะที่หายไปนั้น เพราะถูกนายทุนเจ้าของโรงแรมยึดไปครอบครอง

“ชาวบ้านลงไปทำมาหากินบนชายหาดก็ถูกจับกุมดำเนินคดี ได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่นายทุนยึดทั้งคลองและถนนสาธารณะกลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น ทำซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีนักการเมืองใหญ่มาคุมครองอีกต่างหาก จึงอยากจะฝากไปยังหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายสิระด้วยว่า ได้ทำหน้าที่ ส.ส.สมบูรณ์แบบหรือไม่ และการลงมาตรวจสอบที่ภูเก็ตนั้น มีนัยยะอะไรหรือไม่ มาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือเพื่อผลประโยชน์ของใคร และที่สำคัญไม่รับหนังสือร้องเรียนความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่กลับรับหนังสือร้องเรียนของนายทุน” นายอิทธิพร กล่าวในที่สุด