“สิระ เจนจาคะ” ลุยต่อคอนโดหรู “เดอะ พีค” ทวงป่าคืน เอาผิดคนออกใบอนุญาตก่อสร้าง

โพสเมื่อ : Friday, July 10th, 2020 : 3.29 pm


“สิระ เจนจาคะ” ควง “รังสิมันต์ โรม” ลงพื้นที่ภูเก็ต รับฟังปัญหาความเดือดร้อนด้านกฎหมายของชาวบ้านและเดินหน้าตรวจสอบ โครงการ “เดอะ พีค เรสซิเด้นท์” อีกรอบ หลัง ดีเอสไอ.ตรวจสอบพบว่า น.ส.3 ก.และใบอนุญาตก่อสร้างออกไม่ถูกต้อง

 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ และ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังปัญหาด้านกฏหมายของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และติดตามตรวจสอบการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีค เรสซิเด้นท์ โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

โดยมีประชาชนจากกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนมายืนหนังสือขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มสถานบันเทิงหาดป่าตอง ได้ขอให้ทางคณะกรรมาธิการพิจารณาในเรื่องของการขอขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงเป็นเวลา 04.00 น. การผลักดันให้ภูเก็ตและป่าตองปกครองในรูปแบบพิเศษ ผลกระทบและความเดือดร้อนของพนักงานจากการปิดโรงแรม ขอให้ยับยั้งโครงการขุดลอกร่องน้ำที่บริเวณอ่าวท่าเล ต.ป่าคลอก ปัญหาค่าไฟฟ้า น้ำประปา ในพื้นที่ชุนชุมซอยกิ่งแล้วสูง กลุ่มขยะมรสุมขอกฎหมายคุ้มครองปูเฉสวน และผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีคฯ ที่มีดินโคลนไหลลงมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในช่วงที่มีผลตกลงมา

 

โดยทุกปัญหาที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการร้องเรียน ทางคณะกรรมาธิการฯได้รับปากที่จะหาแนวทางในการแก้ปัญหา หากเรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้ภายในจังหวัดก็จะส่งเรื่องต่อให้ทางจังหวัดภูเก็ตแก้ไข และส่งเรื่องให้กับคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เช่น เรื่องการขอขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงหาดป่าตองนั้น นายสิระรับปากว่าจะไปหารือกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

นายสิระ เปิดเผย ว่า ตนและนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ จังหวัดพังงา เพื่อหาข้อมูลกรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกบุกรุกที่ดินทำกิน โดยถูกข่มขู่คุกคามจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ตำบลพรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา รวมถึงรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องเวลาการเปิด-ปิดสถานบริการ ที่ป่าตอง เป็นต้น

 

โดยเฉพาะเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าของนายทุนเพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรู เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ก่อนหน้านี้ตนได้ลงมาตรวจสอบโครงการดังกล่าวในพื้นที่ภูเก็ตไปแล้ว และได้ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) ซึ่งทาง ดีเอสไอ.ได้รับเป็นคดีพิเศษพร้อมทั้งลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงของโครงการดังกล่าวแล้ว พบความผิด 2 เรื่อง คือ น.ส.3 ก เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทางดีเอสไอ.ได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมที่ดินให้พิจารณาเพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าว และ การออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ เดอะ พีคฯ ของเทศบาลตำบลกะรน ดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ความลาดชันเกิน 35% น.ส.3 ก.ฉบับดังกล่าวไม่มีแล้ว เพราะศาลปกครองชั้นต้นนครศรีธรรมราชได้พิจารณาให้เพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าวไปแล้ว และผู้เจ้าของ น.ส.3 ก.ไม่ได้ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองคุ้มครองแต่อย่างใด เมื่อ น.ส.3 ก.ไม่มีแล้ว เทศบาลตำบลกะรนจึงออกใบอนุญาตก่อสร้างไม่ถูกต้อง แม้แต่ น.ส.3 ออกมาถูกต้องโครงการนี้ก็ไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะการอนุญาตก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยแต่มีสำนักงานขายอยู่ในโครงการ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะแบ่งการครอบครองกันอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ทางดีเอสไอ.ได้ส่งเรื่องให้ทาง ปปช.เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ในวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค.นี้ ตนจะลงไปตรวจสอบในพื้นที่โครงการ เดอะ พีคฯ ว่า ภายหลังจากที่มีคำสั่งทางการปกครองให้หยุดทำการก่อสร้างไปแล้วนั้น ยังมีการฝ่าฝืนก่อสร้างภายในโครงการอีกหรือไม่ และหากมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรนได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว

 

นายสิระ กล่าวในตอนท้ายว่า การตรวจสอบโครงการนี้ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่าโครงการไม่ถูกต้อง แต่เมื่อหน่วยงานต่างๆ เข้ามาตรวจสอบทำให้เห็นหลักฐานต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร และเราจะต้องเชื่อการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ โดยเฉพึ่งที่ผ่านมาไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของหน่วยงานราชการแต่อย่างใด มีการยื่นหนังสือให้ตรวจสอบตามขบวนการ ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนจะรื้อทั้งโครงการหรือไม่นั้น นายสิระ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ถึงขนาดนี้แล้ว” และมั่นว่าตนในฐานะ ส.ส.และมีเงินเดือนแสนนิดๆ แต่สามารถเอาผืนป่าคืนมาได้ ต้องถามประชาชนว่า “พอใจไม่” ซึ่งยังคงเดินหน้าตรวจสอบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง