“สิระ เจนจาคะ” ชี้มีคนติดคุกแน่ หลังนำคณะลงตรวจสอบโครงการ “เดอะพีค เรสซิเด้นท”

โพสเมื่อ : Sunday, July 12th, 2020 : 2.49 pm

 “สิระ เจนจาคะ  ” ลุยสอบโคงการ “เดอะพีค เรสซิเด้นท” ชี้มีคนติดคุกแน่ หลังดีเอสไอ.ระบุ นส 3 ก-ใบอนุญาตก่อสร้างไม่ถูกต้อง จี้จังหวัดตรวจสอบใหม่ พร้อมเรียกนายก – นายช่าง ทต.กะรน – คนซื้อให้ข้อมูลเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่ ยันไม่ใช่การแก้แค้น

เมื่อเวลา 10 .30 น. วันนี้ ( 12 ก.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า กรณีการก่อสร้างอาคารโครงการห้องชุด เดอะ พีค เรสซิเด้น ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างคอนโดหรู หลังได้รับเรื่องความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จของจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยว

พร้อมกับกล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ว่า วันนี้ ทางคณะกรรมาธิการได้มาลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องของการบังคับใช้กฏหมายของโครงการ เดอะพีค ซึ่งมีผลกระทบด้วนสิ่งแวดล้อมและเรื่องของการออกใบอนุญาตก่อสร้าง รวมทั้งเรื่องของการออก นส. 3 ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีการเพิกถอนไปแล้ว และการอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดไม่ได้มีการขอทุเลาในเรื่องของการขอคุ้มครองให้มีการก่อสร้างก่อ

 

ซึ่งหมายความว่า นส.3 ที่คิดว่ามีอยู่ทางกฎหมายถือว่าไม่มีแล้วเพราะมีการเพิกถอนแล้ว แต่ก็ยังมีการเดินหน้าก่อสร้างต่อ ซึ่งครั้งที่ผ่านมาที่ตนลงมาตรวจสอบทางเทศบาลก็ได้มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้าง วันนี้ก็มาดูว่ามีการก่อสร้างหรือไม่ หากมีการก่อสร้างเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องมีหลายส่วนไม่ใช่มีแค่เจ้าของคอนโด ผู้รับเหมาและเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น

แต่ครั้งที่แล้วที่ตนมาพบว่าบริเวณจุดนี้มีการทำเป็นสำนักงานขายหมายความว่ามีลูกค้าที่จ่ายเงิน ซึ่งคนเหล่านี้เป็นผู้เสียหาย ตนจะเชิญคนที่มาจองคอนโดเข้าไปให้ข้อเท็จจริงกับทางคณะกรรมธิการ รวมทั้งเชิญในส่วนของนายกเทศมนตรีตำบลกะรน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน และ ผู้รับเหมา ที่ดินจังหวัด และ ฝ่ายปกครอง

นายสิระยังได้กล่าวต่อไปว่า ถ้ายังปล่อยให้ที่ดินทางศาลปกครองสั่งเพิกถอนแล้วยังมีการก่อสร้างประเทศนี้จะอยู่อย่างไร บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร ซึ่งจากการตรวจสอบได้ข่าวว่าทางโครงการหยุดการก่อสร้าง แล้วลูกค้าที่จองคอนโดรู้แล้วยังว่าได้จองคอนโดที่มีข้อพิพาทในเรื่องของเอกสารนส.3 จริง ๆ แล้วการออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดเพื่อขายต้องเป็นโฉนดเท่านั้น ไม่ใช่ นส.3 ที่ออกใบอนุญาตก่อสร้างได้

“งานนี้มีคนติดคุกแน่นอน ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนหน้านี้ตนได้ไปยื่นเรื่องนี้ที่ดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบซึ่งทางดีเอสไอได้ลงมาตรวจสอบแล้วและได้ทำหนังสือถึง ปปช.ให้เอาผิดผู้ที่ออใบอนุญาตก่อสร้างซึ่งคือ เทศบาลตำบลกะรน และได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินให้เพิกถอน นส. 3 งานนี้มาคิดดูว่าใครจะติดคุกบ้าง ซึ่งดีเอสไอได้ทำหนังสือถึง ปปช.ให้เอาผิดกับผู้ที่ออกใบอนุญาตก่อสร้างซึ่งชัดเจนคือใคร ในขณะที่ศาลปกครองชั้นต้นได้คำสั่งเพิกถอน นส. 3 ไปแล้ว การออกไปอนุญาตก่อสร้างหลังจากศาลปกครองเพิกถอนคือใคร ส่วนจะมีคนติดคุกกี่คน คิดเอาเอง

นายสิระ ยังได้กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ตนได้ยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ เพราะที่ผ่านมาสอบอย่างไรก็ไม่ผิด สอบอย่างไรก็ไม่เจอ ทำไมต้องให้ดีเอสไอมาสอบ ทำไมต้องให้คณกรรมาธิการฯ มาสอบ เมื่อสอบแล้วก็เจอ ดีไม่ดีความผิดอาจจะถึงผู้ว่าคนที่แล้วๆมา ซึ่งตนจะสาวให้ถึง ครั้งสุดท้ายที่ตนมาติดตามเรื่องนี้และได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัด ถ้าจำกันได้ ในที่ประชุมรายงานตนว่าไม่มีผิด แล้วทำไมดีเอสไอถึงบอกว่าผิดละซึ่งข้อมูลแย้งกัน ซึ่งดูได้จากข้อเท็จจริงว่าความลาดชันเกิน 35 หรือเปล่า เอกสารถูกเพิกถอนแล้วหรือยัง เวลาฝนตกน้ำไหล โคลนถล่มลงไปมีรูปถ่ายยืนยัน

“วันนี้เราไม่ได้มาแก้แค้น ถ้ามาแก้แค้น รองผู้ว่าราชการที่เป็นคณะทำงานชุดนั้นก็ต้องมีการดำเนินการ แต่วันนี้อยากเอาแค่อะไรที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบจากเรื่องนี้ ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือลูกค้า วันก่อนมีหมายมาปิดประกาศระงับการก่อสร้าง หมายก็ไม่อยู่แล้ว อยากเรียนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจ เทศบาล ให้มาตรวจสอบอีกครั้ง ว่า การก่อสร้างยังมีการดำเนินการต่อหรือไม่ และให้ทำการทุเลากับลูกค้าที่จ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะเชิญลูกค้าที่จ่ายเงินไปแล้วเข้าไปให้ข้อเท็จจริงและจะพาไปร้อง สคบ.ว่าจะเข้าข่ายดำเนินคดีอาญาหรือใหม่เพราะความผิดเกิดกับลูกค้าและถึงประเด็นการฉ้อโกงหรือยัง รวมทั้งกรณีเจ้าของคอนโดที่เดิมมีการยื่นขออนุญาตเป็นที่อยู่อาศัยแต่มีการตั้งสำนักงานขายชัดเจน จะอ้างว่าไม่ขายไม่ ซึ่งประเด็นนี้จะต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ เรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดควรจะทำอะไรก็รีบทำเสีย และข้อให้ดำเนินการตรวจสอบใหม่”

นายสิระ ยังได้กล่าวต่อไปว่า วันนั้นที่ตนลงมาทำเรื่องนี้ ทางศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ตัดสินแล้วว่า สิ่งที่ลงมานั้นมาทำให้หน้าที่ของรัฐทำในสิ่งที่ควรจะทำ แต่เรามาทำแล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไรก็ควรจะทำเสีย

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการของกรมที่ดินกรณีการเพิกถอนที่ดินแปลงดังกล่าวนั้น นายสิระ กล่าวว่า ทราบว่าหนังสือเสนอให้เพิกถอนของดีเอสไอไปถึงกรมที่ดินแล้วว่าได้ตรวจสอบแล้วมีการออกโดยมิชอบ แต่หลังจากนั้นทราบว่าเรื่องอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ส่วนเรื่องของการออกใบอนุญาตทางดีเอสไอก็ได้ยื่นเรื่องไปที่ ปปช.ให้ตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าทาง ปปช.มีการดำเนินการไปถึงใหนอย่างไร ส่วนใครจะผิดหรือไม่ผิดทุกคนรู้อยู่แค่ใจ ขณะที่จำนวนลูกค้ายังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ถ้าใครต้องการให้ช่วยเหลือก็สามารถที่จะไปยื่นเรื่องที่ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร

 

ซึ่งวันนี้ก็สามารถแยกประเด็นออกได้หลายประเด็น คือ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ออกใบอนุญาตไม่ถูกต้องแต่ก็ออก ออก นส.3 ไม่ได้ก็ออก เจ้าหน้าที่ของรัฐพบเห็นการกระทำความผิดแต่ไม่บังคับใช้กฎหมาย  ซึ่งปัญหาเหล่านี้ตนพร้อมที่จะเกาะติดตามกัดไม่ปล่อยอย่างแน่นอน สำหรับชาวภูเก็ตที่ต้องการจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับบุกรุก หรือมีการก่อสร้างไม่ถูกต้องก็สามารถแจ้งได้ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ตนพร้อมที่จะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครไม่กล้าคณะกรรมธิการชุดนี้กล้าที่จะเอาสมบัติของชาติคืน