สามีแม่ค้าขายข้าวแกงหอบหลักฐานร้องสื่ออ้างภรรยาตกเป็นแพะคดีมอมยา
โพสเมื่อ : Tuesday, April 18th, 2017 : 8.03 pm
สามีแม่ค้าขายข้าวแกงหอบหลักฐานเข้าร้องต่อสื่อ ช่วยตรวจสอบ อ้างภรรยาซึ่งมีอาชีพขายข้าวแกงในพื้นที่ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ตตกเป็นแพะในคดีมอมยาลักทรัพย์ เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดตรัง ปัจจุบันถูกศาลจังหวัดตรังตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ครอบครัวไม่มีเงินประกันตัวสู้คดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ทำการสมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอาคม เสนาคง พร้อมด้วย นางจุไรรัตน์ บัวสนิท สามีและพี่สาวของ นางศุภนุช บัวสนิท จำเลยในคดีมอมยาลักทรัพย์ เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ตรัง และปัจจุบันศาลได้ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี นำภาพจากล้องวงจรปิดพร้อมด้วยหลักฐานต่างๆ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ โดยอ้างว่าภรรยาตกเป็นแพะในคดีที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด และปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง หลังศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง ตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 5 ปี
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากนายคมสัน ฝันนิมิตร ชาวตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 โดยระบุว่า นางศุภนุช บัวสนิท จำเลยที่ 1 พร้อมด้วย นางจุไรรัตน์ บัวสนิท จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันกระทำความผิด โดยการมอมยาในสุราให้ดื่มก่อนจะลงมือลักทรัพย์ เป็นสร้อยคอทอง 2 เส้น และสร้อยข้อมือทอง 1 เส้น มูลค่ารวมกันราว 1 แสนบาท เหตุเกิดภายในโรงแรมสบายรีสอร์ท ตำบลทับเที่ยง จังหวัดตรัง แต่ในส่วนของนางจุไรรัตน์ จำเลยที่ 2 ศาลยกฟ้องเนื่องจากมีการนำพยานหลักฐานไปแสดงต่อศาลว่า ในวันเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ส่วนของนางศุภนุช แม้จะยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุอยู่ที่ จ.ภูเก็ต แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานมาแสดงทำให้ศาลตัดสินจำคุกดังกล่าว
โดยนางจุไรรัตน์ บัวสนิท ซึ่งเป็นพี่สาวของนางศุภนุช บัวสนิทและยังตกเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ระบุว่า ตนและน้องสาวถูกกล่าวหาโดยไม่ได้มีความผิด เนื่องจากในวันเกิดเหตุตนและน้องสาวอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตอง ต.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยตนมีอาชีพเป็นหมอนวดอยู่ที่ป่าตอง จึงมีหลักฐานการเข้าออกทำงานไปแสดงต่อศาล ศาลจึงยกฟ้อง ส่วนนางศุภนุช น้องสาวมีอาชีพขายข้าวแกง จึงไม่มีพยานวัตถุพยานอื่นๆ ไปแสดงได้ นอกจากพยานบุคคล คือสามี กับลูก และผู้ประกอบการให้เช่าแผงขายข้าวแกง ที่ต่างยืนยันว่าวันในเกิดเหตุ นางศุภนุช อยู่ที่ป่าตองไม่ได้เดินทางไปก่อเหตุที่จังหวัดตรังตามที่มีการกล่าวหา
ขณะที่ นายอาคม เสนาคง สามีของนางศุภนุช ยืนยันและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุนั้นภรรยาอยู่กับตนและลูกที่ป่าตอง ไม่ได้ไป เพราะในวันนี้ได้ไปจ่ายค่าเช่าแผงขายข้าวแกง และไปกินอาหารกันที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เราไม่มีภาพมาแสดง ซึ่งที่พูดมานั้นมีพยานบุคคลยืนยันได้ จึงวิงวอนให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตรวจสอบคดีนี้ โดยเฉพาะการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่ทางผู้เสียหายนำไปมอบให้กับตำรวจ พร้อมระบุว่า บุคคลที่ปรากฏในภาพ คือนางศุภนุช ภรรยาของตนที่ถูกบันทึกไว้ได้ภายในร้านอาหารบ้านฉาน จังหวัดตรัง แต่เท่าที่ตนได้ดูภาพแล้ว ผู้หญิงที่ปรากฏในภาพไม่ใช่ภรรยาของตนอย่างแน่นอน
นายอาคม ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึง แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจที่มีพิรุธในหลายจุด เช่น ไม่มีการส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจหาสารตกค้างในร่างกาย หลังผู้เสียหายอ้างว่าภรรยาของตนใช้ยานอนหลับใส่ลงไปในสุราให้ดื่ม ไม่มีการตรวจสอบว่า ทรัพย์สินที่หายไปตามที่ผู้เสียหายอ้างว่า เป็นสร้อยคอทองคำ 2 เส้น สร้อยข้อมือ 1 เส้นมีอยู่จริงหรือไม่อย่างไร
สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 โดยนายคมสัน ฝันนิมิตร ผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า วันเกิดเหตุ นางศุภนุช บัวสนิท พร้อมด้วยพี่สาว คือนางจุไรรัตน์ บัวสนิท และ เพื่อนอีก 2 คน ได้ไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารบ้านฉาน จังหวัดตรัง ต่อจากนั้น นางศุภนุช และ นางจุไรรัตน์พี่สาว ได้ไปนั่งดื่มกินต่อยังร้านข้าวต้มรอบดึกกับผู้เสียหาย ก่อนที่นางจุไรรัตน์จะขอตัวกลับ ขณะที่นายคมสันและนางศุภนุช ได้แยกย้ายไปค้างคืนภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง โดยนายอาคม ระบุว่า เมื่อไปถึงโรงแรมม่านรูดได้ฝากเงินจำนวน 25,000 บาท ไว้กับนางวันทนา ซึ่งเป็นญาติและเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงแรมดังกล่าว ก่อนที่นางศุภนุช จะไหว้วานให้แม่บ้านไปซื้อเหล้าและโซดามาให้ แต่แม่บ้านปฏิเสธเนื่องจากให้เหตุผลว่าดึกมากแล้ว โดยนายคมสัน ผู้เสียหาย ยังอ้างด้วยว่านางศุภนุช จึงได้โทรศัพท์ ไปหานางจุไรรัตน์ จำเลยที่ 2 ให้ซื้อโซดาและน้ำแข็งมาให้
อย่างไรก็ตาม ต่อมานางจุไรรัตน์ มีการนำหลักฐานมายืนยันได้ทั้งหมด ว่าในวันเกิดเหตุไม่ได้ไปนั่งดื่มกินอยู่กับนางศุภนุช และนายคมสัน ศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง จึงยกฟ้องในเวลาต่อมา แต่ตัดสินจำคุกนางศุภนุช น้องสาว เป็นเวลา 5 ปี สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของนางศุภนุช เป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีเงินต่อสู้คดีและประกันตัว
ล่าสุดมีข้อมูลจากยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า คดีนี้มีความคล้ายคลึงกันมากกับคดีของพนักงานสปาในจังหวัดภูเก็ต ที่ออกมาร้องว่าตกเป็นแพะในคดีมอมยาชิงทรัพย์ โดยเหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดตรังเช่นเดียวกัน โดยได้ประสานเรื่องดังกล่าวไปยัง พันตำรวจเอกดุษฏี อารยุวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม แล้วหลังพบว่า คดีนี้มีพิรุธและความน่าสงสัยในหลายจุด พร้อมยืนยัน กระทรวงยุติธรรมเตรียมจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือต่อไป
- อบจ.ภูเก็ต สำรวจพื้นที่เพื่อปรับวางท่อระบายน้ำชั่วคราว แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในชุมชนบ...
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- November 2024 (19)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)