สอบปากคำเรือ ฟีนิกซ์แล้วเกือบ 100 ปาก หาสาเหตุเรือล่มเอาผิดทุกคนที่เกี่ยว

คืบหน้าคดีเรือฟีนิกซ์ล่ม สอบปากคำพยานแล้วเกือบ 100 ปาก สอบเพิ่มครอบคลุมถึงการปล่อยเรือออกจากท่า การตัดสินใจในภาวะฉุกเฉินของกัปตัน รวมถึงนโยบายของบริษัทเรือและเอเย่นต์ทัวร์กดดันให้กัปตันต้องพาเรือฝ่ามรสุมจนมีคนตายกว่า 47 ศพหรือไม่ วอนนักท่องเที่ยวจีนเสียสละเวลาไปให้การในชั้นศาล เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่จองทัวร์จนเรือล่ม เพื่อเอาผิดทั้งบุคคลและนิติบุคคล

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าหาสาเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม ที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 47 ราย ว่า จากการ สอบปากคำพยานทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีน พนักงานในเรือฟีนิกซ์ ไกด์ กัปตันเรือ รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ไปแล้ว เกือบ 100 ปาก นั้น ยังมีในบางประเด็นที่ต้องสอบสวนต่อ

สำหรับการตรวจสอบเรือฟีนิกซ์นั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่สามารถกู้เรือฟีนิกซ์ขึ้นมาได้ คงต้องรอต่อไป ส่วนเรือเซเรนาต้านั้น ทราบว่าจะกู้ขึ้นมาในวันนี้ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ

โดยประเด็นของกระบวนการสอบสวนนั้น เริ่มตั้งแต่สภาพอากาศ การแจ้งเตือน การควบคุมเรือเข้า-ออก ในส่วนของการควบคุมเรือเมื่อออกจากท่าแล้วกัปตันมีประสบการณ์ มีความสามารถและการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน รวมไปถึงนโยบายของบริษัทเจ้าของเรือ นโยบายของเอเย่นต์ทัวร์ กดดันให้กัปตันต้องนำเรือฝ่าคลื่นลมหรือไม่อย่างไร รวมไปถึงมาตรฐานความปลอดภัย ได้มีการสาธิตวิธีใช้กอุปกรณ์ช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉินหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อนำไปสู่การหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งในส่วนของบุคคลและนิติบุคคล รวมไปถึงเพื่อให้เกิดการปรับปรุงมาตรฐานในทุกๆด้านของการให้บริการการท่องเที่ยวทางทะเล

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ในส่วนการสอสวนการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จากนั้นต้องนำพยานหลักฐานทั้งหมดขึ้นนำสืบสู่ศาลเพื่อให้พิจารณาคดี นำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

ส่วนกรณีที่โซเชียลในประเทศจีนไม่พอใจกรณีที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเผิง ต้า ผิง ผู้จัดการ เรือเซเรนาต้า ข้อหาประมาทฯทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บทั้งทางกายและใจ ทั้งๆที่เขาเอาเรือไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวนั้น และขับเรือไม่เป็น  พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวว่า ตำรวจมีเหตุผล มีที่มาที่ไปของการแจ้งความดำเนินคดี ไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือไม่มีเหตุผล ไม่รอบคอบ ในการแจ้งความ การที่ นาย เผิง ต้า ผิง เอาเรือออกไปช่วยผู้ประสบภัยเรือล่ม ได้ไปช่วยนักท่องเที่ยวที่มากับเรือเซเรนาต้า ที่เป็นลูกค้าของตัวเอง นาย เผิง ต้า ผิง ซึ่งเป็นผู้จัดการ และเป็นผู้ดูแล เป็นความรับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว ไม่ได้นำเรือมาช่วยนักท่องเที่ยวจากเรือฟีนิกซ์แต่อย่างใด ทางตำรวจมีพยานหลักฐาน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว

ส่วนการดำเนินคดีกับนอมินี ภายหลังจากที่ชุดปฏิบัติการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับเรือทั้งสองลำ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดเอกสารหลักฐานได้จำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในเชิงลึก