สวนสัตว์ภูเก็ตยกเลิกล่ามโซ่เสือโคร่งแล้ว หลังโซเชียลร้องเรียน ยืนยันไม่เคยวางยาสลบ
โพสเมื่อ : Monday, June 17th, 2019 : 6.45 pm
หน่วยงานเกี่ยวข้องในภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีการร้องเรียนผ่านโซเชียล สวนสัตว์ภูเก็ตล่ามโซ่เสือโคร่งและวางยาสงบให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ไม่พบมีการล่ามเสือโคร่งแล้ว ขณะสวนสัตว์ยืนยันไม่เคยวางยาสลบเสือโคร่ง
วันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ ( 17 มิ.ย.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้ นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายมนัส เทพรักษ์ ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในสวนสัตว์ภูเก็ต จากกรณีที่มีการร้องเรียนในโซเซียลมีเดีย และ อินสตาแกรม ของ National Geographic ว่า มีเสือโคร่งถูกล่ามโซ่และมีการวางยาเพื่อนำมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ที่สวนสัตว์ภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค Joey Kanis ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอภาพเสือโคร่งถูกล่ามโซ่อยู่บนแท่นปูน พร้อมข้อความว่า “ลองเปลี่ยนเป็นคน.. มั้ย จะรู้สึกยังไง สวนสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต”
โดยสวนสัตว์ภูเก็ต ตั้งอยู่ภายในซอยป่าหล่าย ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนายพิชัย สกุลสอน ผู้จัดการสวนสัตว์ภูเก็ต ชี้แจงรายละเอียด พร้อมนำเยี่ยมชมภายในสวนสัตว์ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแท่นปูนสำหรับนำเสือโคร่งมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ 2 จุด คือ บริเวณใกล้กับทางเข้าออกเสือโคร่ง และบริเวณลานกลางสวนสัตว์ (ตามที่ปรากฏในคลิป) แต่ไม่มีการนำเสือโคร่งมาให้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว ระหว่างนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาใช้บริการตามปกติ
นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าว ว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีการทรมานสัตว์แต่อย่างใด และทราบว่าก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมทั้งได้กำชับห้ามมิให้นำเสือโคร่งดังกล่าวออกมาถ่ายรูปคู่กับนักท่องเที่ยวอีกต่อไป รวมทั้งให้ระมัดระวังมิให้มีการกระทำที่เป็นการทรมานสัตว์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางผู้บริหารเข้าใจ และแจ้งว่าได้มีการยุติการนำเสือโคร่งมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพตั้งแต่ที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเซียลแล้ว
“จากที่เห็นสภาพของเสือโคร่งที่อยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้จะมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่น่าจะโดนวางยา เพราะกรณีที่สัตว์หรือคนถูกวางยาจะต้องมีอาการง่วงซึม แต่สัตว์ที่พบภายในสวนสัตว์ทุกตัวมีสภาพที่สมบูรณ์ร่าเริงดี ส่วนกรณีของการล่ามโซ่สัตว์เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดนั้น ได้รับการชี้แจงว่า เพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างหนึ่งของทางสวนสัตว์ในการป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิด เพราะธรรมชาติของสัตว์ป่าจะมีพฤติกรรมค่อนข้างหงุดหงิด และอาจจะเกิดการตะปบขึ้นมาได้ และในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีรายงานกรณีเสือทำร้ายนักท่องเที่ยวของสวนสัตว์แห่งนี้”
ด้านนายพิชัย สกุลสอน ผู้จัดการสวนสัตว์ ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับสวนสัตว์ภูเก็ตมีเสือโคร่งในความดูแลจำนวน 15 ตัว เป็นเสือที่เลี้ยงไว้ในกรง 13 ตัว และมีเสือสำหรับนำมาบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพจำนวน 2 ตัว แต่ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพเสือโคร่งถูกล่ามโซ่ก็ได้งดการนำเสือมาถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวแล้ว ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ทรมานสัตว์แต่เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิด เนื่องจากเสือเป็นสัตว์ที่ไว้ใจไม่ได้ มีอารมณ์แปรปรวน และกรณีที่กล่าวหาว่า มีการวางยาเสือเพื่อนำมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะเราไม่เคยทำเช่นนั้น เนื่องจากเสือส่วนใหญ่เราจะเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ จึงจะค่อนข้างคุ้นเคยกับผู้เลี้ยงเป็นอย่างดี และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องวางยาหรือทรมานเสือ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นทางสวนสัตว์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งยังกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้วย
“การห้ามไม่ให้นำเสือมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวก็ส่งผลกระทบพอสมควร เพราะนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เข้ามาเที่ยวชมก็ต้องการถ่ายภาพกับสัตว์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับรายได้ของสวนสัตว์ด้วย เพราะเราเป็นสวนสัตว์เอกชน ซึ่งรายได้นอกจากการเก็บค่าเข้าชมแล้ว ยังมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้า การจำหน่ายอาหารให้กับสัตว์ รวมทั้งการถ่ายภาพด้วย โดยเราเปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 30 ปี”
นายพิชัย กล่าวยืนยันหนักแน่นว่า เราไม่เคยมีการทรมานหรือวางยาเสือ เพราะผู้ประกอบการที่จะมาดำเนินกิจการด้านสวนสัตว์โดยพื้นฐานจะต้องมีความรักและเมตตาต่อสัตว์ และมีการวางกรอบการทำงานอย่างชัดเจน คือ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ, เป็นสถานที่ทัศนศึกษา, เป็นสถานที่เพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์หายาก และเป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ โดยสัตว์ทุกตัวล้วนมีมูลค่าในตนเอง เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้วิธีการทรมานสัตว์โดยเด็ดขาด ประกอบกับสวนสัตว์ทุกแห่งมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ เสือ จะต้องมีการดูแลควบคุมอย่างเข้มงวด มีการเก็บ DNA และติดชิประบุตัวตน ซึ่งเสือทุกตัวในสวนสัตว์ได้มาจากการเพาะพันธุ์ โดยการแลกเปลี่ยนกับสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีองค์กรสวนสัตว์แห่งประเทศไทยดูแล และสัตว์ทุกตัวที่อยู่ในสวนสัตว์จะมีทะเบียน บ่งบอกที่มาอย่างชัดเจน
- อบจ.ภูเก็ต มอบเงินอุดหนุนโครงการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬามวลชนและนันทนาการ จ.ภูเก็...
- ภูเก็ตยกระดับ up level ท่องเที่ยวชุมชนภูเก็ต จัดงาน “Phuket Business Matching”...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ “ภูเก็ตสีขาว สร้างพื้นที่ปล...
- อบจ.ภูเก็ต เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ประจำปี 2568 สมัยแรก (ครั้งที่ 2)...
- ยิ่งใหญ่ ยกทัพสินค้ากว่า 1,000 รายการ มาอยู่ที่ งาน PHUKET RENOVATION EXHIBITIO...
- ปิดฉากการแข่งขัน “Jungceylon Beach Body Competition 2025”...
- April 2025 (1)
- March 2025 (34)
- February 2025 (23)
- January 2025 (23)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)