สมาคมอสังหาฯยื่นหนังสือถึง สนช.ขอทบทวนร่างผังเมือง ถูกลิดรอนสิทธิ-อุปสรรคการพัฒนา

โพสเมื่อ : Sunday, February 4th, 2018 : 12.29 pm

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึง สนช.ขอให้ทบทวนร่างกฎหมายผังเมืองรวมเกาะภูเก็ตฉบับใหม่ล่าสุด ที่มีการเพิ่มปริมาณพื้นที่สีเขียวมากขึ้นจากฉบับเดิม รวมถึงพื้นที่ สปก. และจํากัดสิทธิห้ามทำกิจการประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นตามที่มีการกําหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน ถือเป็นการสิทธิลิดรอนสิทธิเจ้าของที่ดิน และเป็นอุปสรรคในการพัฒนาภูเก็ตในอนาคตในหลายๆด้าน

วันนี้ (3 ก.พ.) นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้ยืนหนังสือกับพลเรือเอกชุมนุม อาจวงษ์ หัวหน้าคณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ได้เดินทางมารับฟังปัญหา ด้านการวางผังเมือง การคมนาคม โครงการ Smart City และปัญหาอุทกภัยในจังหวัดภูเก็ต ขอให้ทบทวนร่างผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ตฉบับใหม่ล่าสุด โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมเทศบาลนครภูเก็ต

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า การยื่นหนังสือถึง สนช. ให้พิจารณาทบทวนร่างผังเมืองภูเก็ตฉบับใหม่ล่าสุด ที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษานั้น ทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ได้ศึกษาร่างเอกสารดังกล่าวโดยละเอียดแล้ว มีความเห็นว่า หากนำร่างฉบับดังกล่าวไปประกาศใช้ จะมีผลกระทบต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และจะเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนทั่วไป

เนื่องจากร่างผังเมืองรวมภูเก็ตฉบับใหม่นี้ มีข้อบังคับที่มากกว่าร่างฉบับเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหลายๆเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การประกอบการด้านต่างๆ ของภาคเอกชน ในเรื่องหลักๆ คือ

1.ร่างฉบับนี้มีปริมาณพื้นที่สีเขียวอ่อนมีเส้นทแยงสีขาว หรือพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ มีเพิ่มขึ้นจากกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผัง เมืองรวมจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2554 เป็นอย่างมาก อย่างมีนัยยะสําคัญ และไปทับซ้อนที่ดินที่เดิมมีการกําหนดเป็นสีประเภทอื่นๆ ไว้ เป็นการลิดรอนสิทธิประชาชนผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างชัดเจน แม้กระทั่งพื้นที่ในทะเลซึ่งเดิมมิได้กําหนดเป็นพื้นที่สีดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคในการพัฒนาการท่องเที่ยวลักษณะมารีน่าในอนาคตในหลายบริเวณ

2.ได้มีการกําหนดพื้นที่สีเขียวมีเส้นทแยงสีน้ำตาล หรือพื้นที่ที่ดินประเภทปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นจากผังฉบับเดิมและไปทับซ้อนที่ดินที่เดิมมีการกําหนดเป็นสีประเภทอื่นๆ ไว้ เป็นการลิดรอนสิทธิประชาชนผู้ ครอบครองเอกสารสิทธิ์ ที่ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าวอย่างชัดเจน

3.มีการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดต่างๆ ในการจํากัดสิทธิ์ ห้ามดําเนินกิจการประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้น ตามที่มีการกําหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน (เพิ่มเติม) ตามมาตรา 17 (5) โดยมีการกําหนดค่า F.A.R., B.C.R., O.S.R. ซึ่งเดิมมิเคยมีมาก่อน และเมื่อตรวจสอบเปรียบเทียบกับเกณฑ์และมาตรฐานผังเมือง รวม พ.ศ. 2549 ของสํานักพัฒนามาตรฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง พบว่าค่าต่างๆ ที่กําหนดโดยส่วนใหญ่ มีค่าตํ่ากว่าเกณฑ์ที่กําหนดไปมาก เป็นผลให้เกิดการลิดรอนสิทธิประชาชนในการปลูกสร้างอาคารประเภทต่างๆ สามารถดําเนินการได้น้อยกว่าเดิมอย่างมีนัยยะสําคัญ

นายธนูศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าว ทางสมาคมฯมองว่าหากมีการประกาศใช้ร่างผังเมืองฉบับนี้อาจจะเกิดแรงต้านจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้การบังคับใช้ของผังเมืองฉบับบนี้สะดุดลงได้ จึงอยากฝาเรื่องนี้ให้ทาง สนช.พิจารณาให้มีการทบทวนก่อนที่ประกาศใช้ต่อไป