สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา เปิดสาขาภูเก็ต
โพสเมื่อ : Friday, July 22nd, 2016 : 8.18 pm
www.pic-phuket.com สนใจร่วมฟังสัมมนา จองบัตรล่วงหน้า 076217199,0865092424
เปิดแล้วสาขาสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา ที่ภูเก็ต พร้อมจัดประชุมสัญจรแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปัญหาข้ออุปสรรคระหว่างสองประเทศ ระบุสมาคมฯ หวังเป็นสื่อกลางนำนักธุรกิจเปิดประตูสู่การค้าเมียนมา-ไทย
วันนี้ ( 22 ก.ค.) ที่ห้องเรือใบ โรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท อ.เมือง จ.ภูเก็ต พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา เป็นประธานในพิธีเปิดป้ายสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขาภูเก็ต และเป็นประธานการประชุมสัญจรเพื่อรับฟังปัญหาและข้อขัดข้องต่างๆ ของสมาคมฯ สาขาภูเก็ต ทางด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ระหว่างไทยและเมียนมา ในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต และเพื่อเป็นการประสานงานต่อเนื่องระหว่างนักธุรกิจกับสมาคมฯ เพื่อหาแนวทางไปลงทุนในประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น จะมีการนำผลสรุปรายงานต่างๆ รวมทั้งปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นแจ้งไปถึงรัฐบาล เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา ให้เป็นแนวทางแผนที่มุ่งส่งเสริมการค้าของสองประเทศ เกิดความร่วมมือขององค์กรที่เกี่ยวข้อง และเสนอข้อเท็จจริงต่างๆ แก่นักธุรกิจในเครือของสมาคมฯ รวมทั้งนักธุรกิจอื่นๆ ที่สนใจ เป็นการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ให้ก้าวหน้ามากขึ้น โดยมีคณะกรรมการ ที่ปรึกษา และสมาชิกสมาคมฯ นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสุรินทร์ บำรุงผล ประธานสมาคมฯ สาขาภูเก็ต ตลอดจนผู้แทนจากส่วนราชการ องค์กรรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วม
พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2544 โดย พล.อ.ชวลิตร ยงใจยุทธ นายกสมาคมฯ คนแรกคือ พล.อ.พัชร อัครนิบุตร ในปี พ.ศ.2552 ตนได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯและดำรงตำแหน่งมาแล้ว 3 สมัย (พ.ศ.2552-2558) และขณะนี้ได้รับเลือกเป็นวาระที่ 4 รับหน้าที่ ปี พ.ศ.2559-2561
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสมาคมฯ นั้น สืบเนื่องจากเมียนมากับประเทศไทยมีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณี และเอกลักษณ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะในการนับถือศาสนาพุทธสองประเทศจึงมีความเหมาะสมที่จะร่วมมือกันได้อย่างดี ทั้งในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการศึกษา เพราะฉะนั้นการจัดตั้งสมาคมฯ จะเป็นการเปิดประตูเป็นทางการที่ประสานวัฒนธรรมนำเพื่อไปสู่เศรษฐกิจ เพื่อการลงทุน เรื่องธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าของสองประเทศต่อไป
ทางสมาคมมีความมุ่งมั่นที่จะให้สมาคมเป็นประตูและช่องทาง ทั้งด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ พร้อมเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ ความเข้าใจ ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ต่างๆ ในเมียนมาได้ เพิ่มกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างกันให้มากขึ้น เน้นการมีส่วนร่วมของสาขาสมาคมฯ และเครือข่ายอื่นๆ ของสมาคมฯ เพื่อให้เป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเมียนมากับไทยในลักษณะที่เท่าเทียมกัน และที่สำคัญจะยังคงยึดหลักว่า จะดำเนินการด้วยวิธีที่คู่ขนานไปกับรัฐบาล เป็นการช่วยเหลือรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ
อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงนักธุรกิจไทย ที่ต้องการไปลงทุนในประเทศเมียนมา ขอให้ใช้สมาคมฯ ให้เกิดประโยชน์ เพราะสมาคมฯ พร้อมเป็นสื่อกลางในการประสานงาน ให้เกิดการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของสองประเทศ ในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของนักธุรกิจไทย-เมียนมา ช่วยกลั่นกรองธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจของสมาคมฯ โดยเฉพาะตามแนวการค้าชายแดน เพราะสมาคมฯ จะมีสาขาอยู่ตามจังหวัดแนวชายแดนทั้งหมด สมาคมฯ เอง มีที่ปรึกษา หลากหลายอาชีพพร้อมที่จะให้ความรู้ด้านต่างๆ ให้กับผู้สนใจ
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)