สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจับมือ อบจ.ภูเก็ต ตะลุยตลาดอินเดีย 3 เมืองหลัก
โพสเมื่อ : Tuesday, January 21st, 2020 : 2.05 pm
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ภูเก็ต นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวภูเก็ต ตะลุยตลาดอินเดีย 3 เมืองหลัก ในงาน “South Asia Travel and Tourism Exchange” หวังดึงตลาดอินเดียเข้าภูเก็ตเพิ่ม ระบุมีความพร้อมด้านการเดินทาง ทำตัวเลขโตต่อเนื่อง
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ภายในการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) นำโดย นายสมคิด สุภาพ และนายไกรวุฒิ คุ้มบ้าน สมาชิสภา อบจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายสุกฤษ โกยอัครเดช อุปนายกฝ่ายการตลาดต่างประเทศ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต 15 ราย เดินทางไปโรดโชว์ส่งเสริมการขายในงาน “South Asia Travel and Tourism Exchange” หรืองาน “SATTE 2020” ซึ่งเป็นงาน B2B ด้านการเดินทางและท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ระหว่างวันที่ 8-10 มกราคม 2563 ณ India Expo Mart & Greater Noida กรุงนิวเดลี และในระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2563 ณ เมืองกัลกัตตา และเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
นายสุกฤษ โกยอัครเดช อุปนายกฝ่ายการตลาดต่างประเทศ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นการ Trade shows ณ เมืองนอยด้า ซึ่งเป็นเมืองบริวารของกรุงนิวเดลี ที่ India Expo Mart เป็นงาน Exhibition หรือเป็น Trade shows จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังนครกัลกาตา และนครมุมไบ เพื่อเข้าร่วมงาน Road Show ซึ่งที่เลือก 3 เมืองนี้ เนื่องจากค่อนข้างครอบคลุมประเทศอินเดีย
โดยกรุงนิวเดลี เป็นเมืองที่จัดงานซาเต๊ะ มีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศและเป็นศูนย์รวมของราชการและธุรกิจ เมืองที่ 2 นครกัลกาตา ตามประวัติศาสตร์นอกจากจะเป็นเมืองหลวงเก่าแล้ว ยังจะเป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก มีนัยความสำคัญด้านการค้าครอบคลุมฝั่งตะวันตก ส่วนเมืองสุดท้าย คือ เมืองมุมไบ นอกจากมีสำนักงาน ททท.ประจำอยู่ด้วย และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน และมีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศด้วย
อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ กล่าวต่อว่า คนอินเดีย ชอบดื่ม ชอบทาน และชอบสังสรรค์เฮฮา ดังนั้น ตรงกับจุดขายสำคัญของภูเก็ต คือ เราได้รับเลือกให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร (Creative City Of Gastronomy) ฉะนั้นเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความหลากหลายด้านอาหารให้แก่คนอินเดียได้ นอกจากนี้ เรามีห้องพักให้เลือกหลากหลายระดับราคา รวมทั้งยังมี Night light Entertainment ที่ขึ้นชื่อระดับโลก เช่น ป่าตอง กะตะกะรน เป็นต้น และ วัฒนธรรมหรือเสน่ห์ของภูเก็ต ตลอดจนความสวยงามของหาดทราย
ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากอินเดียมายังภูเก็ต จาก 3 เมือง คือ กรุงนิวเดลี มุมไบ และกัลกาตา โดยสายการบิน Go air ทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสารเที่ยวบินละประมาณ 200 คน นอกจากนี้ ยังมีสายการบิน Indigo ซึ่งเป็น Low cost carrier บินตรงจากกรุงนิวเดลีมายังจังหวัดภูเก็ต ฉะนั้นเชื่อมั่นว่าจะตอบสนองให้แก่กลุ่มระดับกลางและครอบคลุมกลุ่ม FIT ที่สนใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวเที่ยวด้วยตนเอง และหากเดินทางมาเป็นกรุ๊ปก็มีราคามิตรภาพและไม่แพง
“ในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้ มีจำนวน 15 หน่วยงาน แบ่งเป็นโรมแรม ที่พัก 10 หน่วยงาน เป็น Excursion 3 หน่วยงาน เป็น night light cabaret 1 หน่วยงาน และเป็น DMC 1 หน่วยงาน นอกจากนี้ ยังมาจากพัทยา จ.ชลบุรี 15 หน่วยงาน และที่เหลือจากจังหวัดอื่นๆ ประมาณ 58 หน่วยงาน รวมผู้ประกอบการที่เดินทางมาครั้งนี้ 88 หน่วยงาน เทียบกับปีที่แล้วที่มีอยู่ประมาณ 60 หน่วยงาน ส่วนความคาดหวังในการร่วมงานครั้งนี้ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง คาดว่าอินเดียจะเป็นตลาดที่สำคัญในการเติมเต็มสินค้าและบริการในจังหวัดภูเก็ตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งจะมาส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจภูเก็ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
ด้าน นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับงานซาเต๊ะ เป็นงานส่งเสริมการขายในเมืองเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อเป็นการพบปะและเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับอินเดีย เพื่อสร้างช่องทางการตลาด ในช่วงของการจัดงาน 2-3 วัน จะมีผู้ประกอบการเจรจาธุรกิจกันวันละเกือบหมื่นราย จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการจะขยายตลาดและสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ เพราะปัจจุบันอินเดียถือเป็นตลาดที่สำคัญของประเทศไทย
“โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 1,950,000 คน โตจากปี 2561 กว่า 20% ทั้งจำนวนและรายได้ จึงถือเป็นตลาดที่มีคุณภาพและมีการเติบโตที่ดี ด้วยปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะการเดินทาง เนื่องจากมีเที่ยวบินจากเมืองต่างๆ ของอินเดียมายังประเทศไทย ถึง 13 เมือง มีจำนวนที่นั่งประมาณ 65,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปทั่วโลก” ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวและว่า
แนวโน้มในอนาคตตลาดอินเดียยังมีอัตราการเติบโตที่ดี และเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการฝ่ายไทยที่ไม่น่าพลาดที่จะเข้าร่วมงานในการส่งเสริมการขายดังกล่าว นอกจากกิจกรรมโรดโชว์แล้ว ยังมีกิจกรรมเฟรมทริปต่างๆ รวมถึงโปรโมชันผ่าน TOA การทำโปรโมชันผ่านสายการบินหรือร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ของอินเดียตลอดทั้งปี จะทำให้โอกาสในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ นายไกรวุฒิ คุ้มบ้าน สมาชิกสภาองค์การส่วนบริหารจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อบจ.ภูเก็ต ได้สนับสนุนและจัดสรรงบประมาณในการเข้าร่วมงานโรดโชว์ต่างประเทศในหลายๆ ประเทศ ซึ่งการเดินทางมาประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเมืองใหญ่และประชากรจำนวนมาก รวมทั้งมีความสนใจจังหวัดภูเก็ตอย่างมาก ดังนั้น การมาโรดโชว์ในครั้งนี้จะได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วขอให้เราทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี โดยเฉพาะการดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เพราะจังหวัดภูเก็ตเราเป็นเหมือนกับไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะสัญชาติใดมีความสุข สนุกสนานและได้ความปลอดภัยกลับบ้าน
ขณะที่นายสมคิด สุภาพ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และพร้อมในการเป็นเจ้าบ้านในการดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป อาเซียน รวมถึงอินเดีย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินบินตรงมาทั้งจากนิวเดลีและมุมไบ จะเห็นว่าแต่ละเที่ยวบินจะมีชาวอินเดียค่อนข้างจะเต็มทุกเที่ยวบิน ในส่วนของความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยนั้น เรามีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ช่วยกันดูแล ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยทางท้องถนนหรือความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งดำเนินการกันอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น
ในส่วนของตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมนั้น น.ส.กรกกรณ์ พฤกษกิจ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ เดอะ วิจิต รีสอร์ท ได้มาโรดโชว์ที่ประเทศอินเดีย เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และพบว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยวตลาดนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากขึ้น และหลังจากนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวตลาดอีอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับ นายอนุชา ตาเมืองใจ ผู้จัดการแผนกขายและการตลาด บริษัทไทเกอร์ คิงดอม จำกัด กล่าวว่า Tiger Kingdom ได้มาโรดโชว์กับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก แต่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และได้มีโอกาสพบปะพุดคุยกับลูกค้าและเอเยนซีทั้งรายเก่าและรายใหม่ ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น และยังทำให้มีลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
- ทุ่มกว่า 400 ล้าน ผุด “คลีเอจ เวลเนส รีทรีท” ศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งใหม่ ในภูเก...
- ไทเกอร์มวยไทย จัดเต็ม ดึง 5 นักชก ระดับตำนาน สอนเทคนิคมวยไทย...
- “ทวีภัณฑ์ฟาร์ม ภูเก็ต” เปิดตัวไข่ไก่ไร้กรง เจ้าแรกของภูเก็ต ประเดิมเลี้ยงแบบปล่...
- “จังซีลอน” ร่วมสนับสนุนการจัดงานมหกรรมกีฬาและดนตรี “Air Sea Land Phuket 2025” ...
- สภา อบจ.ภูเก็ต เปิดประชุมสมัยแรก เลือก “โอภาส ชอบดี” นั่งประธานสภา อบจ.ภูเก็ต...
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรีไทย...
- March 2025 (9)
- February 2025 (23)
- January 2025 (23)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)