สนธิกำลังกำจัดหมดแล้วคราบน้ำมัน ที่อ่าวตั้งเข็น ส่วนคนผิดยังไร้วี่แวว

โพสเมื่อ : Tuesday, December 18th, 2018 : 8.50 am

กำจัดออกแล้ว คราบน้ำมันที่ อ่าวตั้งเข็น จังหวัดภูเก็ต หลายหน่วยสนธิกำลังนำออกจากชายหาดแล้ว ขณะที่คนทำน้ำมันลงทะเลยังไร้วี่แวว เจ้าท่ารวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความ

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการโรงแรมซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวตั้งเข็น หมู่ 8 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีน้ำมันสีดำคาดว่าเป็นน้ำมันดิบ หรือน้ำมันเครื่องลอยอยู่ในทะเลและถูกคลื่นซัดเข้ามาติดอยู่ที่บริเวณชายหาดอ่าวตั้งเข็นจำนวนมาก ทำให้หาดทรายบริเวณชายหาดกลายเป็นสีดำ และมีกลิ่นเหม็นน้ำมัน

อย่างไรก็ตามหลังได้รับแจ้งทางนายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่ามีคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลและถูกคลื่นซัดเข้ามาที่บริเวณชายหาดจำนวนมาก หลังจากนั้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือเทศบาลตำบลวิชิต สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเรือ พนักงานโรงแรมช่วยกันกำจัดคราบน้ำมันออกจากชายหาดทันที

จนกระทั้งล่าสุดจากการตรวจสอบบริเวณชายหาดอ่าวตั้งเข็นพบว่าสภาพโดยทั่วไปบริเวณชายหาดเริ่มกลับเข้าสู่ปกติแล้ว คราบน้ำมันที่ลอยมาติดชายหาดได้ถูกกำจัดออกไปตั้งแต่เมื่อวาน ( 17 ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของ กำลังพลจากทัพเรือภาคที่ 3 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลวิชิต ภาคประชาชน และ ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ ได้ช่วยกันทำความสะอาดตักทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันใส่ถุงดำเพื่อนำไปกำจัด

ซึ่งขณะนี่บริเวณชายหาดเหลือเพียงร่องรอยของหญ้าทะเลที่โผล่พ้น ที่อยู่บนผิวทรายซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงที่ระดับน้ำทะเลลดลง และคราบน้ำมันที่เกาะอยู่บริเวณโขดหินเท่านั้น ซึ่งจุดนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการกำจัดเพราะคราบน้ำมันจะสลายตัวไปตามธรรมชาติ

ส่วนเรื่องของการติดตามหาตัวผู้ประทำความผิดที่ปล่อยให้น้ำมันไหลลงทะเล ขณะนี้ทางจังหวัด ได้มอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะนำน้ำมันตัวอย่างไปตรวจสอบที่มาเป็นข้อมูลหลักฐานเพื่อใช้ ในการสืบหา ผู้กระทำผิด หากกระบวนการสืบสวนพบว่าผู้ประกอบการรายใดหรือลำใดก่อให้เกิด คราบน้ำมันปนเปื้อนในทะเลทางจังหวัดจะดำเนินการทางคดีตามกฎหมายอย่างสูงสุด เพราะคราบน้ำมันส่งผลกระทบต่อพืชทะเลและสัตว์ทะเล และทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเกิดความเสื่อมโทรม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบร่องรอยของคนที่ทำให้น้ำมันไหลลงทะเล

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดภูเก็ต จะเพิ่มมาตรการจัดระเบียบ เรือประมงและเรือท่องเที่ยวโดยเฉพาะมาตรการระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้เรือประมงและเรือท่องเที่ยวทิ้งสิ่งปฏิกูลของเสียหรือทำน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต