สนข. ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต เดินหน้ารณรงค์การใช้ระบบขนส่งสาธารณะคาดปี 2566 รถไฟฟ้ารางเบา เปิดบริการ

โพสเมื่อ : Tuesday, November 27th, 2018 : 2.12 pm

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต เดินหน้ารณรงค์การใช้ระบบขนส่งสาธารณะและความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรจะนำทีมร่วมรณรงค์กิจกรรมฯ ดังกล่าว สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดภูเก็ต (รถไฟฟ้ารางเบา) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)สามารถดำเนินการได้เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่สามารถดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานเปิดการสัมมนา และมีผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม หน่วยงานราชการของจังหวัภูเก็ต หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา นักวิชาการท้องถิ่น องค์กรด้านสิ่งแวดล้อม องค์กรภาคธุรกิจเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคม ชมรมผู้ประกอบการ สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ที่มีความสนใจ เข้าร่วมในการสัมมนาซึ่งที่สัมมนาได้นำเสนอถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของจังหวัดภูเก็ตเพื่อสร้างความเข้าใจ การรับรู้ และการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ต  เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการต่างๆ ด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะสำหรับการใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทำแผนงาน ของโครงการฯ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญรวมถึงได้ศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอรายงานการศึกษาออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต (รถไฟฟ้ารางเบา) ต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อรับทราบ เมื่อกลางปี 2560 ที่ผ่านมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบัน รฟม. อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษารูปแบบการเปิดให้เอกชนร่วมทุน (PPP) ซึ่งเมื่อดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จ จากนั้นจะสรุปผลการศึกษาฯ เสนอบอร์ดรฟม.เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) ต่อไปเบื้องต้นมีภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตให้ความสนใจที่จะร่วมลงทุนซึ่งคาดว่าจะใช้รูปแบบ PPP Net Cost เพื่อลดภาระการลงทุนภาครัฐ โดยจะเริ่มทำการก่อสร้างได้ในปี 2563 และจะสามารถให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาได้ในปี 2566นี้

สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งช่วงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง จะเป็นทางคู่ (Double Track) ตลอดแนวเส้นทาง มีการใช้ช่องจราจรร่วมกับรถยนต์ในบางช่วง โดยจะมีการปรับเปลี่ยนการจราจรในเมืองที่ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. ในเขตนอกเมือง และความเร็วเฉลี่ย 20 – 40 กม./ชม. ในเขตเมือง และทั้งโครงข่ายจะมีจำนวนทั้งสิ้น 24 สถานี โดยในช่วงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ถึง ห้าแยกฉลอง มี 21 สถานี แบ่งเป็น สถานีระดับพื้นดิน 19 สถานี, สถานียกระดับ 1 สถานี และสถานีใต้ดิน 1 สถานี โดยการออกแบบสถานีรถไฟฟ้ารางเบานั้น ที่ปรึกษาโครงการจะทำการออกแบบให้สอดคล้องกับแผนการเดินรถ ซึ่งสถานีรถไฟฟ้ารางเบานี้มีทั้งสถานียกระดับ สถานีบนดิน และสถานีใต้ดิน ซึ่งบางมาตรฐานอาจจะละเว้นได้สำหรับรูปแบบสถานีบนดิน เพื่อตอบสนองและเป็นไปตามปัจจัย ตามที่กำหนด เช่น รูปแบบอาคารสถานีและสิ่งก่อสร้างสำหรับสาธารณะอื่นๆ ในโครงการจะคำนึงถึงอัตลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดภูเก็ต, ชานชาลาจะสอดคล้องกับระบบปฏิบัติการของการเดินรถ ระบบการสัญจร และระบบการเดินรถ พร้อมทั้งจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ระบบโครงสร้างได้มาตรฐานสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร จำนวนรถไฟในแต่ละเที่ยว หรือการออกแบบมีความยืดหยุ่น สามารถปรับให้เหมาะสมกับสภาพที่ตั้งอาคารได้อีกด้วย

โครงการนี้ มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากบริเวณสถานีรถไฟท่านุ่นจังหวัดพังงา ผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตและสิ้นสุดที่บริเวณห้าแยกฉลองจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 58.5 กิโลเมตร ซึ่งได้บรรจุไว้ในมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP Fast Track มีการประเมินเงินลงทุนในโครงการที่ 40,000 ล้านบาท

ในวันที่ 2 ธ.ค.2561 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแนวทางและนโยบายที่สำคัญของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลทั้งนี้ กิจกรรมฯ จะมีการเดินขบวน Troopประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนนบริเวณตามแนวเส้นทางของระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดภูเก็ต หรือบริเวณแหล่งชุมชนที่มีประชาชนเดินทางสัญจรเป็นจำนวนมากเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ที่สร้างการรับรู้ให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้ยานพาหนะส่วนตัว รวมทั้งให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวโดยมีคณะผู้บริหาร จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนประชาชนทั่วไป ดารานักแสดง เจ้าหน้าที่ สนข. และเจ้าหน้าที่จากส่วนงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์โครงการฯในครั้งนี้

สำหรับจังหวัดภูเก็ตนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับโลกสร้างรายได้เข้าประเทศหลายแสนล้านบาทต่อปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเฉลี่ยเดือนละมากกว่าหนึ่งล้านคนตลอดทั้งปีทำให้ปริมาณการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของจังหวัดภูเก็ตที่มีอยู่ในปัจจุบันเช่นท่าอากาศยานทางหลวงท่าเรือหรือระบบขนส่งสาธารณะเกินขีดความสามารถในการรองรับและให้บริการได้ทำให้การเดินทางสัญจรของประชาชนและนักท่องเที่ยวระหว่างท่าอากาศยานกับ แหล่งท่องเที่ยวรวมถึงในตัวเมืองภูเก็ตต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างยิ่งจึงมีความเหมาะสมที่จะดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในจังหวัดภูเก็ตขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและเสริมสร้างศักยภาพให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเทียบเท่าสากล เพื่อขับเคลื่อนภูเก็ตสู่การเป็นนครแห่งอันดามัน ที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่อไป

 

…………………………………………………………………..