ศิลปินภูเก็ตร่วมเรียกร้องความยุติธรรมกรณีฆ่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวร

ศิลปินชาวภูเก็ตร่วมสร้างสรรค์ผลงานพ่นกราฟิตี้ ที่ใจกลางเมืองภูเก็ต เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เสือดำทุ่งใหญ่นเรศวรที่ถูกคนใจร้ายฆ่า พร้อมจัดกิจกรรมระดมทุนบริจาคให้มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร

จากกรณีการฆ่าเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์สงวน ในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร โดยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานได้จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานฯ บมจ. อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ พร้อมพวก และสามารถยึดซากสัตว์ป่าอย่างไก่ป่า เก้ง และ เสือดำที่ถูกถลกหนังและชำแหละเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่วันจับกุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 นั้น คดีความดังกล่าวยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ โดยนายเปรมชัยฯ ยังคงให้การปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่ได้ฆ่าเสือดำแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ได้นำมาซึ่งกระแสการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง และเรียกร้องความยุติกรรมให้กับเสือดำที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอย่างต่อเนื่องของกลุ่มคนต่างๆที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยสามารถเห็นได้จากการพ่นกำแพงตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร

ล่าสุดในพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต ที่กำแพงและประตูของร้าน Drawing Room Phuket ก็เต็มไปด้วยภาพพ่นกราฟิตี้เสือดำ ที่ทางกลุ่มศิลปินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกันทำไว้ ซึ่งเป็นภาพที่หลายคนเห็นแล้วต้องหยุดถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึกรวมทั้งแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊กต่างๆ เพื่อสื่อให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย‘อามาน’ หรือ นายอัครเดช ตันเหมนายู ศิลปินวาดภาพชาวภูเก็ต ซึ่งเป็นตัวแทนจากกลุ่มที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องพ่นภาพ กราฟิตี้เสือดำ เพราะต้องการแสดงออกและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเสือดำที่ถูกฆ่าตาย และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถหาความเป็นธรรมให้กับเสือดำได้

“รวมทั้งรู้สึกยินดีที่เราเป็นส่วนหนึ่งจากศิลปินทั่วประเทศที่ได้แสดงออกถึงความคิด ความเห็น เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมในเรื่องนี้ ไม่ว่างานชิ้นนี้จะเป็นอย่างไร ตนก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำ ตอนไปพ่นสีเพื่อสร้างภาพก็มีน้องๆ ในเมืองหลายๆ คนมาร่วมพ่นด้วย ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะพ่นจบหรือเปล่า มีคนมาขับรถจักรยานยนต์มาตระเวนดูอยู่หลายรอบ แต่สุดท้ายก็เสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยดีครับ”

นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า อิสรภาพและกระบวนการยุติธรรมมันมีผลต่อทุกๆ ส่วนของประเทศ กรณีเสือดำนี้สะท้อนให้เราเห็นว่าสุดท้ายคนจนก็เข้าคุกและคนรวยก็สามารถซื้ออิสรภาพได้ ไม่ว่าจะรวยจะจนคนเราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำครับ มันก็ตลกดีที่งานสตรีทอาร์ตกลับถูกมองว่าเป็นอะไรร้ายแรง ในขณะที่กรณีอย่างเสือดำกลับไม่ได้รับการจัดการอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามนอกจากจะมีกิจกรรมพ่นรูปเสือดำ แล้ว เหล่าศิลปินก็ยังได้รวมตัวกันที่ร้านเซ้งด่วน เพื่อจัดงานนิทรรศการโชว์ภาพวาดเสือดำและจัดประมูลผลงานเพื่อระดมทุนให้มูลนิธิสืบ นาคะเสถียรอีกด้วย นอกจากนั้นทางกลุ่มยังผลิตเสื้อเสือดำที่มีโลโก้หน้าเสือดำ และ ตาชั่งเอียง พร้อมคำว่า ‘The loss is more than just a death’ [ความสูญเสียนี้ ไม่ใช่แค่ความตาย] ซึ่งรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิสืบ นาคะเสถียรเช่นกัน