ศร.ชล.ภาค 3  ลุยตรวจพื้นที่ป่าชายเลนชุมชนมะขามคู่ หลังชาวบ้านร้อง

โพสเมื่อ : Wednesday, May 11th, 2022 : 4.16 pm

 

ศร.ชล.ภาค 3 สนธิกำลังลงตรวจพื้นที่ ป่าชายเลน ชุมชนมะขามคู่ ต.วิชิต จ.ภูเก็ต หลังชาวบ้านร้องเรียน มีคนบุกรุกนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

วันนี้ ( 11 พ.ค.) นาวาเอกปราชญ์ธน์ไชย  ทองรักษ์ ผอ.กองสืบสวนและการข่าว ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย นายวัฒนะชัย เพชรฐิติวัฒน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลยจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเรือเอกเชิดชาย สุวะรักษ์  และนายวินัย สามสี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวช้อง ลงตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนชุมชนต้นมะขามคู่หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่า พบเห็นการรุกล้ำพื้นที่ป่าชายเลนในชุมชนซอยมะขามคู่ หมู่ 1 ต.วิชิต

โดยพื้นที่ดังกล่าวกล่าวมีลักษณะเป็นป่าชายเลน มีไว้เพื่อประ โยชน์สาธารณะ ให้คนสวนรวมได้มีพื้นที่ทำกินและใช้ประโยชน์ แด่ได้มีกลุ่มคนหรือบุคคลบางกลุ่มนำไปใช้ เพื่อเป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่ได้คำนึกถึงประโยชน์การใช้ร่วมกันในชุมชนเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้สิ่งแวดล้อมสูญเสีย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องทำให้ได้รับความเสียหาย  จึงขอร้องเรียนเรื่องดังกล่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ

 

นาวาเอกปราชญ์ธน์ไชย กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางศร.ชล.ภาค 3 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่ดังกล่าว และ ประชาชนไม่สามารถเข้าไปทำมาหากินในพื้นที่ป่าชายเลนชุมชนมะขามคู่ได้  จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีชาวบ้านในชุมชนบางคนเข้าไปทำเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่จับมาได้ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางชุมชนไปหารือร่วมกันเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าชายเลนอย่างเท่าเทียมกันภายใต้มาตรการไม่ทำลายพื้นที่ป่าชายเลน

นายวัฒนะชัย เพชรฐิติวัฒน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อยู่ในขั้นตอนของการอนุญาตจัดเป็นพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยให้กับทางชุมชน ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชุมชนในเรื่องของที่อยู่อาศัยซึ่งในจุดนี้มีประมาณ 100 กว่าราย พื้นที่ 46 ไร่

ส่วนเรื่องของป่าชายเลนนั้นพบว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการจัดทำเขตป่าชายเลนอนุรักษ์ตามมาตรา 18แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีการแยกส่วนกันอย่างชัดเจนว่าพื้นที่จุดไหนเป็นพื้นที่สำหรับจัดการเรื่องของที่อยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีการสำรวจร่วมกับชุมชนและท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว ส่วนพื้นที่ที่ต้องกำหนดเป็นพื้นที่อนุรักษ์ก็ได้มีการสำรวจเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่พบว่าพื้นที่ที่มีการร้องเรียนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่จัดเป็นโซนที่อยู่อาศัย หากทางกรมฯอนุญาตให้ชายพื้นที่แล้วก็จะอนุญาตให้กับทางจังหวัดภูเก็ตผู้ใช้ประโยชน์ ซึ่งชุมชนก็สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้โดยมีกฎหมายรองรับ ส่วนปัญหาการร้องเรียนนั้นคิดว่าแนวทางที่จะทำให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหานั้นเป็นเรื่องที่ทางจังหวัด ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ร้องที่จะต้องมาหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้ และที่สำคัญจะต้องไม่มีการบุกรุกหรือทำลายเพิ่ม

ขณะที่นายวินัย สามสี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 กล่าวว่า ปัญหาการร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากที่ผ่านมาประชาชนตกงานเยอะ คนในชุมชนบางส่วนก็หันมาจับสัตว์ทะเลเพื่อใช้ประกอบอาหาร และ ขาย บางครั้งสัตว์ทะเลที่จับมายังไม่ได้ขนาด จึงนำมาขุดบ่อเลี้ยงในพื้นที่ป่าชายเลน จนเกิดเป็นพื้นส่วนบุคคลและไม่อนุญาตให้คนจากที่อื่นเข้าไปจับสัตว์ทะเล ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งแนวทางการแก้ไขนั้นคิดว่าทุกหน่วยงานจะต้องมาหาทางออกร่วมกันให้คนพื้นที่อยู่ได้ และคนที่เข้ามาจับปูจับปลาในพื้นที่สามารถทำได้ โดยไม่มีความขัดแย้งกัน