ศรีพันวา เปิดโซนใหม่ “Yaya”  เนรมิตห้องประชุมขนาดใหญ่  – ห้องพักพูลสวีท และ TU Bar รูฟท็อป จุดชมพระอาทิตย์แห่งใหม่

โพสเมื่อ : Tuesday, October 17th, 2023 : 10.41 am

“ศรีพันวา”  เปิดโซนใหม่ “Yaya”  หลังทุ่มงบ 800 ล้านบาท เนรมิต ห้องประชุมขนาดใหญ่  – ห้องพักพูลสวีท สุดหรู และ TU Bar รูฟท็อป ชมพระอาทิตย์ตกแห่งใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน “สงกรานต์” เผยท่องเที่ยวภาพรวม กลับมาได้แค่ 70%  

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ให้การต้อนรับ นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต  นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต, นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และนักธุรกิจ ที่เข้าร่วมงาน “Yaya Open House”  ซึ่งจัดขึ้น  ณ ห้องประชุม Yaya Convention โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมร่วมเยี่ยมชมโซนใหม่ Yaya (ย่าหยา) ซึ่งทางศรีพันวาลงทุนเพิ่มประมาณ 800 ล้านบาท ในการเนรมิต ขึ้นมา

นายสงกรานต์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการประชุมสัมมนา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ในส่วนของศรีพันวา จึงได้ทันสินใจลงทุนเพิ่ม โดยเลือกพื้นที่ ที่ดี และสูงที่สุดของโรงแรม ทำห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม สามารถที่จะประชุมไปด้วยและชมวิวที่สวยที่สุดไปด้วย จึงได้ลงทุนในส่วนของโซน YAYA ขึ้น ซึ่งคิดว่าเป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าตลาดประชุมสัมมนา เป็นตลาดที่กำลังโต โดยใช้งบประมาณในการลงทุนส่วนนี้ประมาณ 800 ล้านบาท

สำหรับในส่วนของตึก YAYA ประกอบไปด้วย ห้องประชุมขนาดใหญ่ สำหรับรองรับการประชุมสัมมนา  การจัดนิทรรศการ งานแต่งงาน และ จัดกิจกรรม ที่รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ ถึง 400 คน ซึ่งได้รับการออกแบบ โดยได้รับแรงบันดาลใจ จากส่วนโค้งของผนังที่มีลักษณะคล้ายคลื่นที่มีรูปแบบฟองสบู่ และ เพดานโค้ง ทำให้บรรยากาศรู้สึกเหมือนอยู่กลางแจ้ง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามรูปแบบองค์ประกอบทางธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์แสง เสียง และจอ LED ขนาดใหญ่ ที่ปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับทุกกิจกรรม

นอกจากนั้นยังมีส่วนของ TU Bar  รูฟท็อป ชมพระอาทิตย์ตกบนชั้นดาดฟ้าที่วิวดีที่สุด และ เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโรงแรม  สามารถนั่งจิบเครื่องดื่ม และ อาหารทานเล่น พร้อมชมพระอาทิตย์ตกบนชั้นดาดฟ้าที่วิวดีที่สุด ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงการจัดงานแต่งงานในฝัน เสมือนมีเวที อยู่บนก้อนเมฆ พร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของทะเลอันดามัน มีที่นั่งเล่นระดับสไตล์อัฒจันทร์ให้แขกได้ชม และเป็นสักขีพยานอันยิ่งใหญ่ งดงามในทุกช่วงเวลาของวัน และพิเศษที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ตก พร้อมวิวท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปโดยไม่มีอะไรมาบดบัง ทำให้เป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบกับทะเลสีฟ้าคราม นอกเหนือจากงานแต่งงานแล้ว TU Bar ยังเหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแสดงของนักดนตรีและศิลปิน หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกด้วย  ซึ่งจุดนี้สามารถรองรับการจัดงานได้ 200 คน

นอกจากนั้นยังมี “ย่าหยา พูลสวีท ห้องพูลสวีท 24 ห้อง ซ่อนตัวอยู่ในอาคารย่าหยาสีฟ้าสดใส ออกแบบให้บรรยากาศภายในมีความต่อเนื่องกลมกลืนกับบรรยากาศ และทัศนียภาพจากภายนอก ตกแต่งภายในแบบร่วมสมัย ด้วยสีขาวครีม ร่วมกับสีเทอร์ควอยซ์ เขียวอมฟ้า และสี Fuchsia ชมพูอมม่วง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบเสียงของ Bose และ อ่างอาบน้ำ ห้องพูลสวีทแต่ละห้องมีขนาด 78 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ระบบควบคุมแสงสว่าง สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามัน พร้อมมอบประสบการณ์ให้ช่วงเวลาการเข้าพักเป็นวันหยุดที่น่าจดจำ

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่วางไว้  มีทั้งคนในพื้นที่ และชาวต่างชาติ ที่ต้องการจัดประชุมสัมมนา การจัดงานแต่งงาน หรือการจัดกิจกรรม นิทรรศการ

นายสงกรานต์ ยังได้กล่าวต่อไปถึง อัตราการจองห้องพักในช่วงไฮซีซัน นี้ ว่า อัตราการจองห้องพักค่อยๆ มา ไม่ได้มาเร็ว มาแรงเหมือนที่ผ่านๆมา ซึ่งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป จะจองห้องพักใกล้วันเดินทางมากกว่า ทำให้การจองแตกต่างไป แต่อย่างไรก็ตามเริ่มมีการจองเข้ามาแล้ว โดยขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 40 %  เมื่อถึงช่วงปลายปี คิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80 -90 % ส่วนลูกค้าของ ศรีพันวา เปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยลูกค้าหลักๆเป็นคนไทยประมาณ 30 – 40 %  หลังจากนั้นในช่วงปลายปีก็จะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและ อเมริกัน ช่วงถัดไปก็จะเป็นตะวันออกกลาง อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย และ คนจีน ซึ่งปีนี้คนจีนมีไม่มากนัก อาจจะมีสาเหตุมาจากทางจีนยังไม่ค่อยพร้อมในการเดินทางและรัฐบาลเค้าเองก็ส่งเสริมให้จีนเที่ยวจีน

นายสงกรานต์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว ในภาพรวม ว่า ขณะนี้ยังประเมินได้ยาก ตอนแรกก็คิดว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาประมาณ 80 % แต่เมื่อมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่นสงคราม และการก่อการร้าย ทำให้ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ชัด อยากเช่น สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามา แต่ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาจำนวนมาก แต่ในส่วนของอิสราเอล ยังไม่แน่ใจว่าจะออกเดินทางหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าในปีนี้ภาพรวมของการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาได้ประมาณ 70 % ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ก่อหน้านี้ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวถึง 80%

ส่วนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการเปิดสนามบินรับเที่ยวบินได้ 24 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อว่าส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้เครื่องบินสามารถบินเข้ามาเพิ่มได้ แต่อย่างไรก็ตามตนคิดว่าขณะรัฐบาลจะต้องเร่งขยายสนามบินแห่งที่ 2 ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะอีก 2 -3  ปี ก็คิดว่าการรองรับผู้โดยสารไม่สามารถทำได้เพิ่มแล้ว  เพราะจะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นจนแน่นอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของการเปิดฟรีวีซ่า ก็สามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามตนอยากฝากไปถึงรัฐบาล ในเรื่อง ของการดูแล รักษาความปลอดภัย ในสถานที่ต่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเกตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ กระทบต่อความเชื่อมันของนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว