ว่าที่ผู้สมัคร สส.ป้ายแดง ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้าน เผยเศรษฐกิจพ่นพิษคนเดือดร้อน ซื้อขายหด

โพสเมื่อ : Sunday, January 20th, 2019 : 6.14 pm

ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคไทยรักษาชาติ ลงพื้นที่พบประชาชน สะท้อนปัญหา เศรษฐกิจพ่นพิษ คนภูเก็ตบอกเดือดร้อน ซื้อขายหด เงินหมดกระเป๋า พร้อมดันภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยวและลงทุน

นายชลสิทธิ์ แก้วยะรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ป้ายแดง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ดิ่งลง การค้าขาย การประกอบการชีพทำได้ยากขึ้น รายได้ลดลง กว่า 50 % หาแหล่งเงินทุนไม่ได้ ทำให้ต้องไปกู้เงินนอกระบบ รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยลงเนื่องจากขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย นักลงทุนไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนเพราะไม่เชื่อมั่นเรื่องระบบการปกครอง รวมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่ปัจจุบันกำลังแพร่ระบาดเข้าสู่โรงเรียน สถานศึกษา พบว่าผู้ที่ติดยาเสพติดมีอายุน้อยลง ปัญหาเรื่องเรือประมง ที่ออกกฎหมายออกมาบีบจนชาวประมงอยู่ยาก นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน อีกเรื่องที่ประชาชนกำลังรอคือ เรื่องของการเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย

นายชลสิทธิ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่คิดว่าจะนำไปเสนอเป็นนโยบายเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ต พบว่าปัจจุบันการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติลดลงเนื่องจากนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่น จึงคิดว่าจังหวัดภูเก็ตเองในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐควรที่จะมีมาตรการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรการการลดขั้นตอนความยุ่งยากในเรื่องของระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาลงทุน แต่ปัจจุบันพบว่าภาคเอกชนต่างๆก็พยายามที่จะเชิญชวนให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ติดปัญหาตรงหน่วยงานราชการที่ยังทำงานแบบเก่าๆ ไม่ทำงานเชิงรุก รอเพื่อตั้งรับเท่านั้น

นอกจากนั้นสิ่งที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตยังมีเรื่องของการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถนนที่ปัจจุบันทราบกันอยู่แล้วว่าภูเก็ตเริ่มมีปัญหาเรื่องของรถติด จึงจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาเรื่องของระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมือง รวมทั้งเรื่องของระบบขนส่งมวลชน  เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเกิดความเชื่อมันในมาตรการการรักษาความปลอดภัย การส่งเสริมการท่องเที่ยวยังถือเป็นนโยบายหลังที่จะต้องดำเนินการเพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญแต่การพัฒนาจะต้องทำควบคู่กันไป เพื่อให้เมืองท่องเที่ยวภูเก็ตติดอยู่ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน

นายชลสิทธิ์ ยังกล่าวต่อไปถึง การผลักดันให้ภูเก็ตมีระบบการปกครองในรูปแบบพิเศษ ว่า เรื่องนี้ตนได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในผู้ยกร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำไปสู่รูปแบบการปกครองพิเศษ ซึ่งภูเก็ตควรที่จะมีพัฒนาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งอันดามัน ซึ่งการพัฒนาไม่ควรที่จะจำกัดอยู่เฉพาะภูเก็ต แต่จะต้องทำทั้งจังหวัดอันดามัน เพื่อเชื่อมโยงระหว่างกัน และไม่ใช่เฉพาะชายฝั่งอันดามันเท่านั้นแต่จะรวมไปถึงอ่าวไทยและภาคตะวันออกด้วย

สำหรับรูปแบบที่มองไว้การพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั้นเรื่องการท่องเที่ยวถือว่าเป็นเรื่องหลัก เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมทั้งจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในความสนใจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเกือบทั้งหมด นอกจากนั้นจะต้องมองเรื่องของการส่งเสริมการลงทุนด้วย โดยเฉพาะการลงทุนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวทั้งหมดเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ที่มองไว้คิดว่าน่าจะเป็นในรูปแบบเขตเศรษฐกิจพิเศษทางด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน ซึ่งปัจจุบันได้มีการยกร่างไปมากพอสมควรแล้ว เหลื่อในเรื่องของรายละเอียดที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ หลังจากนั้นก็จะนำเสนอให้ผู้ใหญ่ของพรรคพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบหมายให้ทีมกฎหมายกำหนดออกมาเป็นกฎหมายต่อไป

นายชลสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรายละเอียดที่กำหนดไว้ในร่างดังกล่าวก็มีหลายเรื่อง เช่น เรื่องของการลดขั้นตอนทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน ซึ่งการลงทุนในแต่ละครั้งจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายๆหน่วยงาน ทำให้เกิดความยุ่งยากในการทำงาน คิดว่าควรที่จะลดขั้นตอนในการติดต่อเพื่อให้เหลือเพียงแค่จุดเดียวไปที่เดี๋ยวแต่สามารถดำเนินการได้ทุกอย่าง หรือที่เรียกว่าวันสต็อปเซอร์วิส นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องของการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชายทะเลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอ่าวไทยหรืออันดามัน เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นไปในภาพรวม

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจกระโดดลงมาอยู่ในสนามการเมืองระดับประเทศ นายชลสิทธิ์ กล่าวว่า จากการศึกษาเรื่องการเมือง และจากการทำงานในส่วนของภาคสังคมไม่ว่าจะในส่วนของตำแหน่งประธานสภาทนายความ หรือ นายกสมาคมชาวสงขลาภูเก็ต ทำให้ที่ผ่านมารับรู้ถึงปัญหาที่ประชาชนได้รับมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับมีพรรคการเมืองติดต่อมาและได้มีการศึกษาข้อมูลพบว่าพรรคไทยรักษาชาติเป็นพรรคที่บริหารโดยคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และชื่นชอบนโยบายของพรรค จึงตัดสินใจลงมาเดินในถนนการเมืองครั้งนี้

อย่างไรก็ตามสำหรับนายชลสิทธิ์ แก้วยะรัตน์ นับเป็น ว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องของวงการทางด้านการเมืองเลยไม่ว่าจะเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น หรือการเมืองระดับชาติถือว่าเป็นนักการเมืองป้ายแดง ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว