“วันนอร์” ช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ภูเก็ต ผลักดันภูเก็ตจัดการตัวเอง แก้ปัญหาจราจร

โพสเมื่อ : Tuesday, March 12th, 2019 : 9.40 am

“วันนอร์” ช่วยลูกพรรคประชาชาติหาเสียงที่ภูเก็ต ชูนโยบายผลักดันภูเก็ตจัดการตัวเอง แก้ปัญหาจราจร โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และการขุดคลองไทยหรือคลองคอดกระ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเดินเรือนานาชาติ

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 มีนาคม 2562 บริเวณตลาดนัดบ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พรรคประชาชาติ นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคฯ, ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย (นิติภูมิ นวรัตน์) และดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคฯตลอดจนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ภูเก็ต เขตเลือกตั้งที่ 1 นายธีระเดช พู่นำชัย และเขตเลือกตั้งที่ 2 นายเจริญ ถิ่นเกาะแก้ว ร่วมเวทีด้วย มีผู้ให้การสนับสนุนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า แม้ว่าพรรคประชาชาติจะจัดตั้งขึ้นที่ภาคใต้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นพรรคของคนใต้เท่านั้น แต่เราเป็นพรรคของคนทั้งประเทศ แม้ว่าเราจะเป็นพหุวัฒนธรรม มีชาติพันธุ์หรือการนับถือศาสนาหรือภาษาพูดที่แตกต่างกัน แต่เรา คือ คนไทยเหมือนกัน ดังนั้นพรรคประชาชาติจึงมีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างชาติให้มีเกิดความเข้มแข็ง สำคัญคือ จะต้องมีความยุติธรรม เสมอภาคและเท่าเทียมกัน สร้างสร้างมั่นคงมั่งคั่ง และสันติสุข

สำหรับจังหวัดภูเก็ตทางพรรคมีนโยบายสำคัญ คือ จะต้องมีการบริหารจัดการตัวเอง โดยจะมีการกระจายอำนาจ เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งเรื่องของภาษีอากรและรายได้ที่เกิดขึ้นปีละประมาณ 400,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมามีการส่งคืนกลับมาไม่มาก ภูเก็ตมีปัญหาในเรื่องการวางผังเมือง และ การจราจรที่คับคั่ง ซึ่งส่งผลต่อการสัญจรไปมาและกระทบการท่องเที่ยว

ฉะนั้นการจัดการเรื่องการคมนาคมจึงมีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการขยายหรือปรับปรุงเส้นทางที่มีอยู่เดิม หรือการสร้างเส้นทางใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะถนนลอยฟ้าหรือถนนใต้ดินตามความเหมาะสม ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกับเรื่องของสนามบินที่ค่อนข้างแออัดและจะต้องขยายหรือย้ายไปยังพื้นที่ใหม่ ทราบว่ามีจำนวนเที่ยวบินที่ต้องการมาลงที่ จ.ภูเก็ต จำนวนมาก แต่ไม่สามารถรองรับได้ ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 10 คน แต่ศักยภาพของภูเก็ตสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 20 ล้านคน

อย่างไรก็ตามในภาพรวมของภาคใต้ มองว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เช่นเดียวกับโครงการลงทุนในภาคอื่นๆ  เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นต้น โดยเสนอให้มีการขุดคลองไทยหรือคลองคอดกระ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเดินเรือนานาชาติเหมือนคลองสุเอซหรือคลองปานามาซึ่งจะทำให้รายได้เข้าสู่พื้นที่ภาคใต้เป็นจำหนวนหลายหมื่นล้านบาทต่อปี แม้ว่าการลงทุนขุดคลองแห่งนี้จะใช้เงินมากถึง 800,000 ล้านบาท แต่มองว่าไม่เกิน4 ปี เราจะได้เงินคืนกลับมา และจะได้สมบัติอันล้ำค่าให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย

ยืนยันว่าหากได้รับเลือกเข้าไปก็จะผลักดันโครงการนี้ให้เดินหน้าไปให้ได้ และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับประเทศไทยและคนไทยอย่างแน่นอน เนื่องจากจากมีเรือจำนวนนับแสนลำต่อปี รายได้ที่เกิดขึ้นก็จะไม่น้อยกว่าประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเขาไม่มีทรัพยากรใดๆ เลย ยกเว้นเรื่องการท่องเที่ยวกับเรือที่เข้ามาจอดเทียบท่า ฉะนั้นภูเก็ต พังงา ตรังและสงขลา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่คลองที่จะใช้นั้นเพื่อร่นระยะทางในการที่อ้อมไปประเทศมาเลเซียหรือสิงคโปร์ จากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก ซึ่งมีประเทศใหญ่ๆ และมีประชากรรวมกว่า2,000 ล้านคน โดยประเทศใหญ่ๆ เหล่านั้นมีประชากรเรือนับแสนๆ ลำ

หากขุดคลองนี้ได้ก็เหมือนกับเป็นการเปิดมอเตอร์เวย์ ซึ่งจะทำให้สามารถร่นระยะเวลาการเดินทางได้ 3-5 วัน และมีความปลอดภัยด้วย เหตุที่คลองดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะคนไทยไม่ยากได้ไม่ใช่เพราะไม่มีทุน เนื่องจากมีคนพร้อมที่จะลงทุน จากากรสำรวจพบว่าคนภาคใต้ประมาณ 80% ต้องการ แต่ต้องให้ประชนมั่นใจว่าเขาไม่เดือดร้อน สิ่งแวดล้อมต้องไม่เสียหายซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ เราขาดผู้นำทางการเมืองที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และมือสะอาดพอที่ประชาชนจะไว้ใจได้ เพราะฉะนั้นในภาคใต้ถามว่าเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร นโยบายสำคัญของพรรคประชาชาติ คือ จะเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ของโลก