ล้วงคองูเห่า 2 โจ๋แสบ วัยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในโรงพักที่ภูเก็ต

ล้วงคองูเห่า 2 โจ๋แสบ เด็กชายวัย 14 พร้อมรุ่นพี่วัย 16 ปี ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ! ก่อเหตุ ขโมยรถจักรยานยนต์ ของกลาง ในโรงพักวิชิต แต่สุดท้ายไปไม่รอดถูกรวบตัวได้ทันควัน

เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ ( 19 มี.ค.) พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู  สว.สส.และ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ กัลป์ชาญวรรณธนะ รอง สว.สส.สภ.วิชิต เข้าควบคุมตัวนายมุข (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และ ด.ช.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โดยจับกุมตัวได้ที่หมู่บ้านสะพานหิน หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมือง  สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา  เวลา 16.10 น.ส.ต.ท.อนุชา ศรีเกิด ผบ.หมู่ (ป.)สภ.วิชิต ได้จับกุมนายปรัญชัย (นามสมมุติ) ในความผิดขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ใส่กระจก ไม่แสดงสำเนาคู่มือรถ โดยออกใบสั่งจราจรตามมาตรการการแข่งรถในทางและสร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน โดยทำประวัติพร้อมถ่ายภาพตามแบบข้อมูลผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงในการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่ที่เกี่ยวข้องและทำการตรวจยึดรถไว้แล้วจอดรถไว้ที่หน้า สภ.วิชิต

ต่อมาได้มีนายปรัญชัย ได้มาติดต่อชำระค่าปรับและนำท่อไอเสียมาเปลี่ยนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้ได้หายไป ไม่อยู่ในที่จอดแล้ว ส.ต.ท.อนุชา ศรีเกิด ผบ.หมู(ป.) ได้รายงานข้อเท็จจริงให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันเดียวกัน หลังจากตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้า สภ.วิชิต พบพฤติกรรมของคนร้ายที่เข้าก่อเหตุ ซึ่งเป็นภาพวัยรุ่น 2 คน เข้ามาก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากสถานีตำรวจภูธรดังกล่าว จึงตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พบว่ามุ่งหน้าไปตามเส้นทางออกจาก สภ.วิชิตไปทาง ถ.วิรัชหงษ์หยก ถึงแยกโรงฆ่าสัตว์ ตรงไปตาม ถ.บางกอก เลี้ยวขวา ถ.พูนผลไปจนถึงแยกสะพานกอจ๊าน เลี้ยวขวาไปตาม ถ.เลียบคลองบางใหญ่ จนกระทั่งเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสะพานหิน

จึงเชื่อว่าคนร้ายหลบหนีอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบนายมุข มีท่าทางพิรุธและลักษณะคล้ายคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด เมื่อสอบถามนายมุข ยอมรับว่า ตนเองเป็นคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กฆ-2911 ชัยนาท โดยมีด.ช.นันท์ นั่งซ้อนท้ายไปที่ สภ.วิชิต จากนั้นนายนันท์ ได้ลงไปเข็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ แล้ว ด.ช.นันท์ นั่งคร่อมรถคันดังกล่าว โดยนายมุขขับรถ ที่ขี่มาและใช้เท้าถีบรถรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ออกมาจากที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไปสอบสวน จากนั้นได้ตามหาตัว ด.ช.นันท์ จนพบ โดยยอมรับว่าตนเองได้เข็นรถจักรยานยนต์ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้ไป จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายโดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร ต่อไป