ล่าระทึก ! หนุ่มขับเก๋งหนีสุดชีวิต ตร.เรียกตรวจไม่ยอมจอด สุดท้ายไม่รอด ยิงล้อสกัดจับ พบยาบ้า 2 เม็ด

ล่าระทึก ! หนุ่มขับเก๋ง ซิ่งหนีสุดชีวิต หลัง ตร.สภ.ฉลอง เรียกตรวจ แต่ไม่ยอมจอด ขับรถหนีจากตพบลราไวย ข้ามไป ต.กะรน ขก่อนวกกลับมาในพื้นที่ ต.ราไวย์  แต่สุดท้ายไม่รอด ตร.ตัดสินใจ ยิงล้อ สกัดจับได้ ตรวจค้นพบยาบ้า 2 เม็ด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) ขณะที่ ร.ต.อ.สุทธิชัย กังวานเกียรติกุล รอง.สวป.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต กำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมาได้รับแจ้งจากสายตรวจจักรยานยนต์ ว่า มีรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีแดง ทะเบียน กษ 858 ภูเก็ต ต้องสงสัยขับออกมาจากชุมชนไทยใหม่ ต.ราไวย์ อ.เมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตามไป จนถึงบริเวณสามแยกไฟแดงไสยวน ถ.วิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง พร้อมเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ

แต่คนขับรถกลับเร่งเครื่องหลบหนี โดยขับมุ่งหน้าไปยังบริเวณวงเวียนห้าแยก ฉลอง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถไล่ตามอย่างไม่ลดละ สร้างความตกใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก บริเวณปากซอยสุขสันต์ 1 ถ.วิเศษ ต.ราไวย์ได้ขับหลบหนีไปยังพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง โดยรถคันดังกล่าวได้ใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปยังถนนรอบเกาะ กลับมาในพื้นที่ตำบลราไวย์ และเมื่อมาถึงบริเวณหน้า รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลราไวย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเคลียร์ถนนบริเวณหน้าโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน และตัดสินใจยิงยางรถคันดังกล่าว เพื่อสกัดไม่ให้หลบหนี จึงสามารถควบคุมตัวบุคคลภายในรถเป็นชาย 1 คน ทราบชื่อคือ นายยศ อายุ 26 ปี ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2 เม็ด จึงควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ฉลอง และได้ตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีแดง ทะเบียน กษ 858 ภูเก็ต

จากการสอบถาม นายยศ ผู้ต้องหา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยามาแล้ว จากนั้นได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาซื้อยาเสพติดที่หมู่บ้าน บริเวณ ต.ราไวย์ เมื่อซื้อเสร็จได้ขับรถออกมา จะกลับบ้านพัก ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ฉลอง ขับรถจักรยานยนต์สายตรวจผ่านมาและเรียกตรวจ แต่ตนได้เร่งเครื่องยนต์ เนื่องจากกลัวถูกจับ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 อยู่ในร่างกาย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ฉลองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป