ลอบตัดไม้กฤษณาในพื้นที่สวนป่าขนุนที่ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สนธิกำลังยึดได้กว่า 1 ตัน

เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ภก.1 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ จับกุมโรงงานลักลอบตัดไม้กฤษณา ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ สวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต ได้แกน ท่อนไม้และเศษไม้ ไม่ต่ำกว่า 1 ตันเศษ มูลค่าหลายล้านบาทพร้อมอุปกรณ์จำนวนมาก คาดลักลอบทำมานานแล้ว ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ

วันนี้ (23มี.ค.) นายธนดล วิเชียร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภูเก็ต 1(ถลาง) พร้อมด้วย นายสรกฤษณ์ สิงห์คำ หัวหน้าสวนป่าบางขนุน ภูเก็ต ร.ต.ท.นิพนธ์ เต็มรัตน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.5 กก.ปทส. เจ้าหน้าที่ทหารชุดชป.รส.ร 25 เจ้าหน้าที่สวนป่าบางขนุน ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กว่า 30 นาย บุกจู่โจมเข้าตรวจบ้านเลขที่ 66/3 ม.8 บ้านพรุสมภาร ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

หลังสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวลักลอบนำไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามที่ลักลอบตัดมาในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุนและใกล้เคียง มาเก็บไว้ภายในบ้าน ซึ่งทั้งหมด 4 หลังปลูกติดกัน เมื่อเจ้าหน้าฯ เดินทางถึงไปถึง ปรากฏว่า คนที่อยู่ภายในและนอกบ้านต่างวิ่งกระจัดกระจายเข้าป่าละเมาะ ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้วิ่งติดตามไปแต่ไม่ทัน เนื่องจากคนที่วิ่งหลบหนีชำนาญเส้นทาง แต่พบผู้หญิง 1 คนและเด็ก 1 คน ที่ไม่สามารถวิ่งหนีได้ทัน ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฯได้แบ่งกำลังกันตรวจสอบภายในและภายนอกของบ้านทั้ง 4 หลัง พบซากไม้กฤษณาวางกองไว้ที่ข้างบ้านเป็นจำนวนมาก และ เมื่อเข้าตรวจค้นภายในบ้านแต่ละหลัง พบแกนไม้กฤษณา อีกจำนวนมากที่ใส่แช่น้ำไว้ในลังขนาดใหญ่ จำนวน 2 ลัง นอกจากนั้นยังพบอุปกรณ์ในการตัดไม้เจาะไม้ เช่นเลื่อยยนต์ชนิดต่างๆ ขวาน มีดพร้า สว่าน สิว มีดกรีดยาง และอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการขูดเจาะไม้ และยังพบป้ายบ้านเลขที่ต่างๆ อีกจำนวนมาก ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้กฤษณาไว้ตรวจสอบประมาณ 1 ตัน แกนไม้กฤษณาที่พร้อมขายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายของทรัพยากรป่าไม้นั้นประเมินค่ามิได้

นายธนดล วิเชียร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภูเก็ต 1(ถลาง) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.60 นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบต้นไม้กฤษณาขนาดใหญ่ที่ถูกลักลอบตัดที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุน ทำให้สูญเสียต้นกฤษณาขนาดใหญ่ไปจำนวนหลายต้น จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจต้นไม้กฤษณาที่มีอยู่ทั้งหมด และ วางเวรยามรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และให้ออกสืบสวนหาข่าวของขบวนการลักลอบตัดต้นไม้กฤษณาให้ได้  จนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบผลิตไม้กฤษณา และผลิตเฟอร์นิเจอร์โต๊ะ เก้าอี้ แผ่นป้ายบ้านเลขที่ต่างๆ ที่ทำจากไม้กฤษณาและไม้หวงห้ามต่างๆ รวมทั้งเจาะเอาแกนไม้กฤษณา และเป็นขบวนการในการเข้าไปลักลอบตัดต้นไม้กฤษณาในสวนป่าบางขนุน และป่าสงวนแห่งชาติต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต จากนั้นก็นำส่งขายต่างประเทศ

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบปรากฏว่า คนที่อยู่ทั้งในบ้านและนอกบ้านได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าอย่างรวดเร็ว โดยแกนไม้กฤษณาที่ตรวจยึดมีมูลค่าหลายล้านบาท เพราะเป็นกฤษณาที่มีคุณภาพดีราคากิโลกรัมละหลายแสนบาท ส่วนใหญ่จะส่งไปขายที่ประเทศจีนและประเทศตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยึดของกลางทั้งหมดไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภูเก็ต 1(ถลาง) และส่งมอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ ให้กับพนักงานสอบสวนสภ.ถลาง ออกหมายจับผู้ที่หลบหนีต่อไป และจะเร่งไล่ล่าคนที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด