ร้อง สบค.ช่วยหลังสนามกอล์ฟดังปรับขึ้นค่าธรรมเนียมกว่า 300%

โพสเมื่อ : Monday, March 13th, 2017 : 9.53 pm

สมาชิกสโมสรบลูแคนยอนฯ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กว่า 100 คนรวมตัวยื่นหนังสือถึง ประธาน สคบ.จังหวัดภูเก็ต หลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกฯ สูงกว่า 300%โดยไม่แจ้งล่วงหน้าให้ทราบ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (13 มี.ค.)ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ จากการขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปี ค่าธรรมเนียมโอนประเภทบุคคลธรรมดา สนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กว่า 100 คน ซึ่งได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต(สคบ.) เพื่อให้ดำเนินการให้ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าว โดยไม่ได้แจ้งให้สมาชิกฯ ทราบมาก่อน และไม่ได้รับการยินยอมจากสมาชิกฯแต่อย่างใด

หนึ่งในตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว กล่าวว่า ตามที่สโมสรบลูแคนยอนคันทรีคลับ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดเงื่อนไขในการโอนสมาชิกและค่าธรรมเนียม  ฉบับลงวันที่ 22 มีนาคม 2560 ใช้บังคับแก่สมาชิกสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับ กำหนดให้ขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทบุคคลธรรมดา ปีละ 22,500 บาท เป็นชำระค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทบุคคลธรรมดาใหม่ปีละ 70,000 บาท และขึ้นค่าธรรมเนียมในการโอนสมาชิกภาพประเภทบุคคลธรรมดาให้บุคคลอื่นจากเดิม 140,000 บาท เป็นอัตราใหม่ 250,000 บาท และในนามองค์กรเป็นเงิน จำนวน 350,000 บาท ค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทองค์กรปีละ 70,000 บาท ค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับผู้ถือบัตรสิทธิพิเศษแก่ครอบครัว 14,000 บาท โดยให้สมาชิกชำระเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวภายในวันที่ 22 มีนาคม 2560

หากสมาชิกไม่ชำระเงินตามประกาศ จะมีการพิจารณาเรื่องสมาชิกภาพของสมาชิกสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับด้วยนั้น ซึ่งในการขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว เป็นการเพิ่มภาระแก่สมาชิกสนามกอล์ฟฯ และขึ้นค่าธรรมเนียมสูงกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ได้แจ้งให้สมาชิกสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับทราบมาก่อน และไม่ได้รับความยินยอมจากสมาชิกแต่อย่างใด เป็นการขึ้นค่าธรรมเนียมตามอำเภอใจเพียงฝ่ายเดียว เพิ่มภาระให้แก่สมาชิกฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคอย่างรุนแรง เป็นการฝ่าฝืนต่อข้อบังคับของสโมสรบลูแคนยอนคันทรีคลับ ปี พ.ศ.2535 ขัดต่อกฎหมาย และตามประกาศฉบับลงวันที่ 15 ก.พ.25602 เป็นการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่สมาชิกฯ เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสมาชิกสโมสรสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับ จำนวน 180 คน ได้ทำหนังสือคัดค้านการขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทบุคคลธรรมดา ค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทองค์กร และการขึ้นค่าธรรมเนียมในการโอนสมาชิกภาพไปยังบุคคลอื่น รวมทั้งค่าธรรมเนียมอื่นทุกข้อในประกาศดังกล่าวไปยังสโมสรสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับ และขอให้ระงับการขึ้นค่าธรรมเนียมตามประกาศไว้ก่อน และให้สมาชิกสนามกอล์ฟบลูแคนยอนคันทรีคลับสามารถใช้บริการในสนามกอล์ฟได้ตามปกติจนกว่าจะได้ข้อยุติในเรื่องดังกล่าวกับสมาชิกทั้งหมด

เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของสมาชิกทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศตามข้อบังคับของสโมสรบลูแคนยอนคันทรีคลับ จึงขอร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต(สคบ.) เพื่อดำเนินการให้ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟบลูแคนยอน ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้เชิญผู้ประกอบการมาเจรจาตกลงกับผู้ร้องทั้งหมด และหากมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดีแทนจนถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ด้านนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไว้ พร้อมรับว่าจะเร่งดำเนินการประสานไปทางผู้ประกอบการมาเจรจาตกลงกับตัวแทนผู้ร้องทั้งหมด เร็วที่สุดภายในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต