รู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นกร่างทำร้ายคู่อริ ชาวบ้าน ภรรยาคนเจ็บวอนเร่งจับ

โพสเมื่อ : Wednesday, January 3rd, 2018 : 12.37 pm

ตร.เผย รู้ตัวภรรยาผู้บาดเจ็บจากกลุ่มวัยรุ่นกร่างทำร้ายคู่อริ ชาวบ้าน ระบุอยู่ด้วยความผวา หวั่นกลับมาทำร้ายอีก พร้อมแจงที่ออกไปแค่ต้องการไปห้ามไม่ให้ทำร้ายร่างกายกันแต่กลับถูกทำร้ายสาหัส ขณะที่ตำรวจเผยรู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุแล้ว เตรียมออกหมายจับ ส่งเจ้าหน้าที่ลงเก็บข้อมูล สอบปากคำพยาน

 

มีผู้ใช้ชื่อ เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ โพสต์ ข้อความพร้อมภาพนิ่ง และ คลิปวีดีโอ ความยาวเกือบ 3 นาที ซึ่งเป็นกลุ่มรถมอเตอร์ไซต์ 2 กลุ่ม ไล่ทำร้ายร่างกายกัน เข้ามาภายในซอย ขณะที่ชาวบ้านออกไปห้าม และ ช่วยเหลือกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทำร้ายกลับถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการโพสต์ ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอออกไป มีกระแส วิพากวิจารณ์ เกิดขึ้น ทั้งในทางเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุ และกระแสตีกลับในส่วนของผู้เสียหายที่มีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางน้อย (นามสมมุติ) ภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นในคลิปรุมทำร้าย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเผ้าดูแลอาการของสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต

 

นางน้อย (นามสมมุติ) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 1 ม.ค.ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในส่วนของครอบครัวตนกำลังเก็บของเข้าบ้าน หลังจากนั่งสังสรรค์กันภายในครอบครัว แต่ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์จำนวนมากขับเข้ามาในซอยซอยหมู่บ้าน อยู่สบาย ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นซอยตัน จึงชวนกันออกมาดูเพราะคิดว่าอาจจะเป็นลูกหลานของตนที่ถูกไล่ทำร้าย และรถตู้ที่จอดอยู่ที่หน้าบ้านจะได้รับความเสียหาย โดยเห็นกลุ่มวัยรุ่น มีทั้งมีด ทั้งอาวุธปืน ที่ไล่กันเข้ามา และมีการทำร้ายร่ายกายเด็กวัยรุ่นจำนวน 3 คน ซึ่งตกลงมาจากรถจักรยานยนต์ของเพื่อน โดยเพื่อนที่มาด้วยกันขับรถหลบหนีไปแล้ว

สามีของตน จึงได้ออกไปหน้าบ้าน พร้อมกับลูกชาย เพื่อห้ามไม่กลุ่มวัยรุ่นทำร้ายกัน และ ไล่ให้ออกจากบ้าน ในภาพจะเห็นว่าไปจับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาด้วยเพื่อให้หยุดทำร้ายกัน หลังจากนั้นก็เดินออกไปดูเด็กวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ขณะที่สามีเดินหันหลังกลับก็ถูกวัยรุ่น ที่เป็นคู่อริของเด็กวัยรุ่นที่บาดเจ็บกรูกันเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนล้ม และ มีวัยรุ่นคนหนึ่งใช้อาวุธปืนจ่อไปที่สามี ลูกชาย และพี่สาว พยายามที่เข้าไปช่วยเหลือ แต่กลุ่มวัยรุ่นกลับใช้อาวุธปืนจ่อมาที่ลูกชาย ลูกชายจึงต้องวิ่งหนี หลังจากนั้นมีเสียงตะโกนว่าตำรวจมา ทางกลุ่มวัยรุ่นจึงได้ขับรถหลบหนีกันออกไป

 

ส่วนตนและครอบครัวได้เข้าไปช่วยเหลือสามี ซึ่งได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง 3 วัยรุ่น ที่ถูกทำร้าย ส่งโรงพยาบาล โดยเด็กวัยรุ่นที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนสามีตนได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกจมูกและโหนกแก้มแตกละเอียด ซึ่งวันนี้ทางแพทย์จะต้องตรวจว่าจะสามารถผ่าตัดได้เมื่อไหร่

 

ภรรยาผู้บาดเจ็บ ยังกล่าวต่อว่า หลังจากญาติโพสต์ ข้อความและคลิปออกไป ก็มีหลายกระแสที่เกิดขึ้น บางกระแสระบุว่าทำไมต้องออกไป ทางสามีตนไปทำร้ายกลุ่มวัยรุ่นก่อนบ้าง แต่อยากให้เข้าใจว่าเราออกไปมือเปล่า เพื่อที่จะห้ามไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายกัน แต่กลับถูกทำร้าย หรือจะให้อยู่ในบ้านโดยไม่ทำอะไร ทั้งที่เห็นเด็กวัยรุ่นที่กำลังถูกรุมทำร้ายกายอยู่ซึ่งครอบครัวตนทนไม่ได้จึงได้ออกไปช่วยห้าม ส่วนกรณีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้โทรไปที่ 191 แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลานานมาก กว่าตำรวจจะรับสายจึงต้องออกไปห้ามปรามก่อน แต่กลับเป็นว่าสามีตำรวจถูกทำร้ายร่างกาย

 

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมกลุ่มที่ก่อเหตุ เพราะตอนนี้ครอบครัวตนอยู่ด้วยความผวา เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มวัยรุ่นจะกลับมาทำร้ายคนในครอบครัวอีก

 

ขณะที่ พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่องได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.วิชิต ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลเบาะแสของกลุ่มวัยรุ่น โดยได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมทั้งสอบปากกลุ่มวัยรุ่นและสอบปากคำผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ในเบื้องต้นพอจะทราบกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้วและทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วมีทั้งเยาวชนและวัยรุ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานพอจะขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติออกหมายจับคาดว่า 2 – 3 วันนี้จะออกหมายจับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้

 

ด้าน พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากมีญาติผู้เสียหายโพสต์ขึ้นเฟชบุ๊ก และ ได้มีความคิดเห็นต่างๆ นานา จนทำให้ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตนจึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ตำรวจ สภ.วิชิต เร่งติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นมาดำเนินคดีให้โดยเร็วที่สุด