ระทึก ! เผาวอด 4 หลัง เจ้าของบ้านจุดธูปไหว้เจ้าลืมดับทำไฟลุกท่วม กลางเมืองภูเก็ต

โพสเมื่อ : Thursday, February 15th, 2018 : 3.14 pm

 เผาวอด ! 4 หลัง รับตรุษจีน เจ้าของร้านทำเบาะ  ที่สามแยกโกมารภัจจ์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต  จุดธูปไหว้เจ้า ก่อนออกไปทำธุระ นอกบ้าน  เพลิงลุกไหม้ ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง ซึ่งได้รับความเสียหาย  มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.10 น. วันนี้ (15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านได้รับความเสียหาย ที่บริเวณริมถนนเทพกระษัตรี ก่อนสามแยกโกมารภัจจ์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต นายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถน้ำ จำนวน 6 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวติดถนนเส้นทางหลัก เห็นร้าน รับทำเบาะมีควันไฟพวยพุ่งและไฟลุกไหม้ออกมาเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดห้องข้างเคียง แต่การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุมีเบาะและพลาสติกซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามไปติดห้องข้างเคียงอีก 3 ห้อง

ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เร่งฉีดน้ำสกัดจนสามารถควบคุมเพลิงได้โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิง จึงสงบ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าร้านศรีสวัสดิ์การเบาะ บ้านเลขที่ 206/9  ถูกเพลิงเผาวอด และ ยังมีบ้านได้รับความเสียหายอีก 3 หลัง เลขที่ 206/8 206/10 206/11 ถนนเทพกระษัตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถูกเพลิงเผาได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านรับทำเบาะ ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ก่อนเกิดได้จุดธูปเทียนไหว้พระที่หิ้งพระ จากนั้นได้เดินทางออกไปส่งเบาะให้กับลูกค้า ระหว่างนั้นได้มีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านจึงได้รีบกลับมา เห็นเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีดอยู่ แต่ไม่สามารถดับได้จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดับในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป