รองอธิบดีกรมป่าไม้นำทีมตรวจที่ป่าไม้เขานางพันธุรัตน์ถูกโรงแรมรุกกว่า 3 ไร่

รองอธิบดีกรมป่าไม้ บุกตรวจที่ดินในเขตป่าไม้เขานางพันธุรัตน์ หลังชาวบ้านร้องเรียนถูกเจ้าของโรงแรมบุกรุกสร้างกำแพง อาคาร และทางเดิน เชื่อมกับโรงแรมเนื้อที่กว่า 3 ไร่ รัฐเสียหายกว่า 250 ล้านบาท เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด

วันที่ 7 ต.ค.2559 นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดี กรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า นาวาเอก บวร พรหมแก้วงาม รอง ผอ.กอรมน.จ.ภูเก็ต นายเกษม สุขวารี หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูเก็ต นายศุภชัย สุกใส ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ กรมป่าไม้ เรือโท ทักษิณ พุกลิ้ม หัวหน้าชุดหมวดรักษาความสงบทัพเรือภาค 3 นายพงศ์ณภัทร ปลอดชูแก้ว ผอ.สำนักป้องกันและรักษาป่า ที่ 12 กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา บริเวณควนนางพันธุรัตน์ หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือ จ.ภูเก็ต ที่ถูกนายทุนบุกรุกก่อสร้างทางเดินชมธรรมชาติและอาคารคอนกรีต

ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรมป่าไม้ได้รับการร้องเรียนว่า โรงแรมฮิลท็อป ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 138/3 หมู่ 5 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อสร้างอยู่บนเขาในที่สูงและไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน ทางสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการให้ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ กรมป่าไม้ เข้าทำการตรวจสอบ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่า โรงแรมดังกล่าวสร้างอยู่บนเนื้อที่ 7 ไร่ โดยในส่วนที่เป็นอาคารโรงแรม จำนวน 40 กว่าห้อง และส่วนบริการต่างๆ สร้างอยู่ในที่ดินที่มีโฉนดจำนวน 4 แปลง แต่ส่วนที่อยู่ติดกับอาคารเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ที่ยังมีสภาพเป็นป่า ทางโรงแรมได้เข้าไปครอบครองด้วยการทำกำแพงต่อเนื่องจากตัวอาคาร และก่อสร้างทางเดินซีเมนต์ไต่ระดับไปตามเนินเขา เพื่อให้ลูกค้าเดินศึกษาธรรมชาติ จุดนั่งวิว และอาคารที่ยังก่อสร้างไปแล้วเสร็จ และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในขณะนี้นั้น ทางเจ้าของโรงแรมไม่มีเอกสารสิทธิมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา 0-2-12 ไร่ และอยู่ในป่าตาม พ.ร.บ.2484 จำนวน 3-0-62 ไร่ คิดเป็นค่าความเสียหายของรัฐได้ 251 กว่าล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ทางคณะทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจสอบการร้องเรียนการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับปางช้าง ทางขึ้นพระใหญ่

นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดี กรมป่าไม้ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่ดินดังกล่าวว่า วันนี้ทางกรมป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ที่บริเวณควนนางพันธุรัตน์ ซึ่งทางกรมป่าไม้ได้รับการร้องเรียนว่าโรงแรมฮิลท็อปบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติฯและป่าตาม พ.ร.บ.2484 ทางกรมป่าไม้จึงเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบว่าในส่วนที่เป็นอาคารโรงแรมนั้นมีโฉนดที่ดินถูกต้อง แต่ที่มีการบุกรุกนั้นเป็นที่ดินป่าไม้ที่อยู่กับโรงแรม โดยแสดงการครอบครองด้วยการก่อสร้างกำแพงอย่างแข็งแรง มีทางเดิน อาคารคอนกรีต เนื้อที่ 3 ไร่เศษ ซึ่งส่วนนี้ทางเจ้าของโรงแรมไม่สามารถที่จะนำเอกสารสิทธิมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เข้าตรวจสอบในวันนี้แล้ว ทางกรมป่าไม้จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีในข้อหาการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ปี 2484 ฐานร่วมกัน ก่อสร้างแผ้วถาง หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการทำลายและเข้ายึดครองเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดยึดถือครอบครองเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียต่อสภาพป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต