รวบโจ๋ภูเก็ตตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้วกว่า 20 ครั้ง

โพสเมื่อ : Thursday, July 14th, 2016 : 3.55 pm

 

 

ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมภูธรจังหวัดภูเก็ต รวบหนุ่มภูเก็ตวัย 19 ปี ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ตและอ.ถลางประมาณ 20 ครั้ง

S__30261253

เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.รัฐเขตต์ มั่นเมือง สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราบอาชญากรรมภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุมตัว นายชาญณรงค์ หรือ หมี เพชรมณี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.427/2559 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2559 และหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.216/2559 ลงวันที่ 1 เมษายน 2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

 

พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ ผิวแสตนเลส จำนวน 1 กระบอก สิ่งเทียมอาวุธปืนแบบลูกโม่ แสตนเลส จำนวน 1 กระบอก ซองปืนแบบผ้า สีดำ จำนวน 2 ซอง โดยสามารถจับกุมที่บริเวณหลังธนาคารไทยพาณิชย์ สี่แยกมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 13 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา

S__30138370

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาและพวกได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาหลายครั้ง โดยส่วนใหญ่จะชิงทรัพย์แรงงานต่างด้าวชาวพม่าและคนไทย ซึ่งบางรายมีการแจ้งความร้องทุกข์และบางรายไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนสามารถรู้ตัวคนร้ายและสามารถจับกุมได้ในที่สุด

 

จากการสอบถาม นายชาญณรงค์ เพชรมณี ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเองและพวกได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต อ.ถลาง ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ แล้วใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ผู้เสียหาย ที่บ้านพักคนงานย่านอนุสาวรีย์ อ.ถลาง ได้สร้อยคอทองคำ 2 บาท จากนั้นใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์แล้วใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ผู้เสียหายที่ซอยห่านฝรั่งได้สร้อยคอทองคำ อีก 2 บาท โดยก่อเหตุในคืนวันที่ 6 ก.ค.2559

 

สำหรับรายละเอียดในการก่อเหตุ ครั้งที่ 1 ประมาณเดือน ก.พ. 2559 เวลาประมาณ 18.00 น. ได้ร่วมกับ นายชู ไม่ทราบชื่อสกุลจริง อายุประมาณ 15 ปี  ก่อเหตุชิงทรัพย์คนงานชาวพม่าที่พักอาศัยภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง หมู่บ้านกรรณิการ์วิลเลจ หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 5 ห้อง โดยใช้อาวุธปืนบีบีกัน เป็นอาวุธ ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ จำนวน 5 เครื่อง  แหวนทองคำหนักครึ่งสลึงจำนวน 1 วง เงินสดประมาณ 2,800 บาท ใช้รถจักรยานยนต์ ยีห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 860   ซึ่งเป็นของตน โดยติดต่อซื้อมาในราคา 5,000 บาท จากเฟซบุ๊ก ในเพจอยากซื้ออยากขายภูเก็ต โทรศัพท์ที่ได้มาได้นำไปขายให้คนงานพม่า ที่ทำงานอยู่ที่แคมป์คนงานแถวตลาดนัดนาคาข้างสวนหลวง ส่วนแหวนทองคำได้ให้นายรุ่งโรจน์ ดินไสว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตน นำไปขายให้ ส่วนเงินสดนำไปใช้จ่ายส่วนตัว

S__30261255

ครั้งที่ 2 ประมาณเดือนเมษายน 2559 เวลากลางวัน ได้ใช้อาวุธปืนบีบีกันและใช้รถจักรยานยนต์ ยีห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน 860 ซึ่งเป็นของตน ข่มขู่ชิงทรัพย์ คนงานชาวพม่าภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง หมู่บ้านกรรณิการ์วิลเลจ หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 100 บาท โทรศัพท์ที่ได้มาได้นำไปขายให้คนงานพม่า ที่ทำงานอยู่ที่แคมป์คนงานแถวตลาดนัดนาคาข้างสวนหลวง ครั้งที่ 3 ประมาณต้นเดือนมีนาคม2559 เวลาประมาณช่วงเย็นใกล้ค่ำ ได้ใช้อาวุธปืนบีบีกันและใช้รถจักรยานยนต์ ยีห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน 860 ซึ่งเป็นของตน ข่มขู่ชิงทรัพย์ คนงานชาวพม่าภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง  หลัง รพ.อบจ.ภูเก็ต ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง หลังจากได้สร้อยคอทองคำมาได้ให้เพื่อนชื่อ ต้า ไม่ทราบชื่อสกุลจริง นำไปขายให้ได้เงินมาจำนวน 15,000 บาท ส่วนโทรศัพท์ได้นำไปใช้ ต่อมาได้ทำโทรศัพท์ตกหน้าจอแตกจึงได้นำไปโยนทิ้ง ครั้งที่ 4 ประมาณวันที่ 4 มิ.ย. 2559 เวลากลางคืน ได้ร่วมกับนายรุ่งโรจน์ หรือปอ ดินไสว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน ใช้อาวุธมีดเป็นอาวุธ และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 1929 ภูเก็ต ซึ่งเป็นของตน เป็นยานพาหนะ ข่มขู่ชิงทรัพย์ชาวพม่า บริเวณห้องพัก หลังภัตตาคารอาหารฮ่องกง ข้างวงเวียนสุริยะเดช ได้ทรัพย์สิน เป็นไอแพคสีทองจำนวน 1 เครื่อง แหวนทองคำหนัก 1 สลึง โทรศัพท์ 1 เครื่อง ทรัพย์ที่ได้นายรุ่งโรจน์ฯ ได้นำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้ตนจำนวน 5,000 บาท ครั้งนี้ 5 ประมาณวันที่ 26 มิ.ย.2559 ใช้อาวุธปืนบีบีกัน และรถจักรยานยนต์ยีห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำแดง 1 กฉ 1929 ภูเก็ต เป็นยานพาหนะ ข่มขู่ชาวพม่า ซึ่งอยู่ในบ้านพักในซอยภูธร ได้โทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง หลังก่อเหตุได้นำไปขายให้กับชาวพม่าที่อาศัยอยู่แถววัดเทพ ต.วิชิต ครั้งที่ 6 ประมาณวันที่ 6 ก.ค.2559 เวลา 00.30 น. ได้ร่วมกับนายรุ่งโรจน์ หรือปอ ดินไสว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน ใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 1929 ภูเก็ต เป็นยานพาหนะ และได้ข่มขู่ชายไทยไม่ทราบชื่อ โดยยิงอาวุธปืนขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด บริเวณบ้านบางลา  ม.8  ต.ป่าคลอก  อ.ถลาง  จว.ภูเก็ต แล้วชิงสร้อยคอทองคำจำนวน 1 เส้น  ทรัพย์ที่ได้นายรุ่งโรจน์ฯ ได้นำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้ตน และครั้งที่ 7 ประมาณวันที่ 6 ก.ค.2559 เวลา 00.40 น. ได้ร่วมกับนายรุ่งโรจน์ หรือปอ ดินไสว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน ใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 1929 ภูเก็ต เป็นยานพาหนะ ได้ข่มขู่หญิงชาวไทยเอาสร้อยคอทองคำ ซึ่งพักอาศัยที่บริเวณบ้านพักคนงาน ใน ซ.เกาะแก้ว 23 แต่หญิงดังกล่าวได้ขัดขืนตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด และได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แล้วหลบหนีไป  ทรัพย์ที่ได้นายรุ่งโรจน์ฯ ได้นำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้ตน

 

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และอยากประชาสัมพันธ์ท่านใดที่เคยถูกผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งเป็นบุคคลที่มีอันตรายมากแก่บุคคลทั่วไป วิ่งราวทรัพย์ โดยก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง พฤติกรรมคนร้ายมักจะใช้อาวุธปืนขู่แล้วชิงทรัพย์หรือขับรถประกบเหยื่อแล้วชิงทรัพย์ไป ท่านใดที่เคยถูกก่อเหตุลักษณะดังกล่าวและยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ไม่กล้ามาแจ้งความ โดยสามารถมาชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต