รมต.ท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าเรือฟีนิกซ์ล่มด้านผู้ประกอบการโวย

โพสเมื่อ : Sunday, August 19th, 2018 : 9.38 pm

รมต.ท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าเรือฟีนิกซ์ล่ม ระบุทางจีนสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด หลังผ่านมาเกือบ 50 วัน เตรียมบินไปชี้แจงให้ทางจีนรับทราบ ลดดราม่าในโซเชียล ด้านผู้ประกอบการโวยประกาศห้ามเรือออกจากฝั่งคลุมทั้งหมดทำเดือดร้อนหนัก

เมื่อเวลา 15:00 น. วันนี้ (19 ส.ค.) ที่ศูนย์ควบคุมเรือจังหวัดภูเก็ต ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง นายวีรพศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัเรือภาคที่ 3 หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 47 ราย

ในประเด็นหลัก 3 เรื่องด้วยกัน คือ สาเหตุของอุบัติเหตุเรือล่ม การให้การช่วยเหลือเยียวยา และมาตรการความปลอดภัยทางทะเลที่ทางจังกวัดภูเก็ตได้ออกประกาศควบคุมเรือที่จะออกจากฝั่ง ฉบับวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 เรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะนำไปสื่อสารต่อกับทางการจีน รวมถึงสื่อมวลชนจีน ในโอกาสที่จะเดินทางไปพบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องและวัฒนธรรมของจีนภายในเดือนสิงหาคมนี้

โดยในส่วนของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือล่มในครั้งนี้ นอกจากสภาพคลื่นลมแรงแล้วนั้น ในสาเหตุอื่นๆจะต้องรอการตรวจพิสูจน์เรือฟีนิกซ์ ที่ขณะนี้ทางกรมเจ้าท่ากำลังดำเนินการกู้แต่ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง จึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้ รวมทั้งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนในการทำคดีเรือฟีนิกซ์ล่มเป็น 102 นาย เพื่อสืบสวนสอบอย่างละเอียดรอบครอบที่สุด

สำหรับการเยียวยาให้การช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตนั้น มีความคืบหน้าไปมากแล้ว บริษัทประกันภัย จ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 46 ราย เหลือเพียง 1 รายเท่านั้น ที่เลขที่บัญชีมีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ได้ประสานกับทางกงศุลจีนที่ภูเก็ตอย่างใกล้ชิด ส่วนเงินกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวนั้น จ่ายแล้ว 42 ราย และจะจ่ายเพิ่มอีก 4 รายในวันจันทร์ จะเหลือ 1 ราย ที่ทางบริษัทประกันรอความชัดเจนในส่วนของเลขที่บัญชี

ส่วนมาตรการความปลอดภัยทางทะเล ที่จังหวัดภูเก็ตได้ประกาศไปนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มาตรการที่ทางจังหวัดได้ประกาศไปนั้น เรือทุกลำจะต้องออกจากจุดเช็คพอยท์ใน 24 ท่าเรือที่กำหนด เรือจะออกจากท่าจะต้องมีสภาพที่ปลอดภัย ทั้งตัวเรือ นายท้ายเรือ คนเรือ รายชื่อผู้โดยสาร ผู้โยสารจะต้องเดินผ่านกล้องcctvเพื่อบันทึกหน้าตา และจะต้องปฏิบัติตามประกาศสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จัดชุดเฉพาะกิจลาดตระเวนตรวจสอบเรือที่ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว รวมไปถึงการเชื่อมโยงข้อมูลผู้โดยสารออนไลน์ทุกท่าเรือ ซึ่งทางดีป้าได้ดำเนินการและมีการอบรมผู้ประกอบการไปแล้ว

ผลการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว ยังมีปัญหาอยู่บ้างในส่วนของท่าเรือขนาดเล็กที่ไม่มีความพร้อม หากเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่บริการโดยเอกชนจะมีความพร้อมมากกว่า และโดยเฉพาะท่าเรืออ่าวฉลอง ซึ่งมีเรือเข้า-ออกทุกขนาดและมีเป็นจำนวนมาก เกรงว่าในข่วงไฮชีชั่นจะเกิดความไม่สะดวก ทางอบจ.ภูเก็ต จึงได้จัดสรรงบประมาณ 144 ล้านบาท ปรับปรุงและพัฒนาให้ทันรองรับ โดยจะเพิ่มทุ่นลอยจอดเรือ และอื่นๆ รวมทั้งจะของประมาณปรับปรุงระบบติดตามเรือ VTMS ที่ท่เรืออ่าวฉลอง ศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อีกกว่า 500 ล้านบาท

 

การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวในช่วงแรกมีผู้ประกอบการออกมาโวยวายบ้างถึงความไม่สะดวกในเรื่องของการให้เรือออกจากท่าและการประกาศห้ามเรือออกจากฝั่ง แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสถาพคลื่นลมและทะเลภูเก็ต โดยให้กำหนดห้ามเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้สอบถามเรื่องการขึ้นธงแดงที่บริเวณท่าเรือ ที่เป็นธงแดงและธงเขียว ในวันเกิดเกตุ ที่เป็นที่สนใจของสื่อจีน แบบแปลนเรือฟีนิกซ์ การจ่ายเงินเยียวยาที่กำลังดาม่าในโซเชียลของชาวจีนที่จะระดมเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ยังไม่ได้รับเงิน ใบนายท้ายเรือของกัปตัน ซึ่งเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสื่อจีน

ขณะที่นายสรายุทธ์ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ อยากจะบอกว่า การที่ทางจังหวัดภูเก็ตออกประกาศห้ามเรือออกจากฝั่งแบบครอบคลุมทั้งหมดนั้น ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ ไม่สามารถออกเรือนำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะที่อยู่ใกล้ๆได้ โดยเฉพาะเกาะเฮ ซึ่งอยู่ใกล้กับฝั่งมากและคลื่นสูงไม่เกินสองเมตร และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเรือล่มเพราะถูกคลื่นซัด เพราะเป็นทะเลใน คลื่นลมสงบ และเป็นเกาะที่ปลอดภัยที่สุดในการทำกิจกรรมทางน้ำ

การออกประกาศห้ามเรือออกจากฝั่งจะต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วย น่าที่จะประกาศเตือนเป็นเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางเดินเรือที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ปลอดภัย และผู้ประกอบการอยู่ได้ด้วย มาตรการต่างๆที่ออกมานั้นผู้ประกอบการพร้อมปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยว

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมว่า การมาภูเก็ตในวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการกู้เรือฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นวัตถุพยานหลักฐานชื้นสำคัญ ที่ยังไม่สามารถกู้ได้จากสภาพคลื่นลมแรง หากกู้ขึ้นมาได้จะทำให้คดีมีความคืบหน้ารวมถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ และเพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับทราบสถานการณ์หลังจากที่มีการค้นหาศพผู้เสียชีวิตเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ว่า ในส่วนอื่นที่จะต้องดำเนินการ

พบว่าการดำเนินการมีความคืบหน้า การเยียวยานั้นมีการจ่ายเงินชดเชยเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงรายเดียวที่เลขที่บัญชีมีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการประสานกับทางกงศุลที่ภูเก็ตอย่างใกล้ชิด มีการทำบุญใหญ่ครบรอบ 49 วัน มีการตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่มเป็น 102 คน เพื่อสืบสวนในทุกประเด็น รวมไปถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเลที่เดินมาถูกทางแล้ว มีความชัดเจนในเรื่องการควบคุมเรือออกจากฝั่ง และจะมีการกำหนดแนวทางเรือที่จะออกจากเกาะมายังฝั่งอีกต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปพบกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ จีนนั้น จะมีดารสื่อสารในประเด็นที่ที่ทางจีนสนใจและกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด คือ สาเหตุจองเรือล่ม ที่มีการตั้งสมมุติฐาน จะมีความชัดเจนหลังกู้เรือขึ้นมาได้ แจ้งมาตรการด้านความปลอดภัยทางทะเล สื่อสารกับทางฝ่ายจีนถึงเรื่องดาม่าต่างๆมากมายที่เกิดจึ้นในช่วงเวลา 50 วันที่เกิดเหตุ และเชื่อว่าหลายเรื่องจะแสดงตัวออกมาเอง และหลายเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันต่อไป เพื่อทำให้ข้อมูลที่สับสนลดลง

ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดภูเก็ตของบประมาณมาดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยทางทะเล 500 ล้านบาทนั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลขงบประมาณไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ทางจังหวัดภูเก็ตจะต้องนำเสนอโครงการถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นมากกว่า ในแต่ละปีภูเก็ตสามารถสร้างเม็ดเงินทางการท่องเที่ยวมหาศาล