ยูเน็กซ์ อีวี จับมือ ยู เพาเวอร์ เปิดตัวสถานีสลับแบตเตอรี่ แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ใช้เวลาเปลี่ยนแค่ 3 นาที

ยูเน็กซ์ อีวี จับมือ ยู เพาเวอร์ เปิดตัวสถานีสลับแบตเตอรี่ แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ด้วยระบบอัตโนมัติควบคุมด้วย AI และ ฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต ใช้เวลาเปลี่ยนแค่ 3 นาที

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2568)   บริษัท ยูเน็กซ์ อีวี จำกัด (UNEX EV) ร่วมกับ บริษัท ยู เพาเวอร์จำกัด (U Power Limited, Nasdaq: UCAR)  เปิดตัวแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอัจฉริยะและสถานีสลับแบตเตอรี่ UOTTA™* แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้น ณ  เลขที่ 17/4 หมู่ 5 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต  ด้วยความร่วมมือกับ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)  และการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดภูเก็ต เป็นการวางรากฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร และยกระดับการคมนาคมอย่างยั่งยืน

โดยมีนายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต  คุณธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์  และ ผู้บริหาร UNEX EV  นาย ชัชวาลย์  เจียรวนนท์   Mr.Johnny Lee และ นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร และ ยังมีพันธมิตรจาก บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ค่ายเอ็มจี (MG)  โดย Mr.DaShenshen  บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) โดยนายชนาธิป สิมะโรจน์  บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลีสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด โดย Mr.Takeshi Minoguchi   บริษัท ออโต้ ไดร์ฟ อีวี จำกัด (มหาชน)  โดย ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ เข้าร่วม

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูเน็กซ์ อีวี กล่าวว่า “สถานีสลับแบตเตอรี่แห่งนี้ เป็นส่วนสำคัญของการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าแบบสลับแบตเตอรี่ของ UNEX EV-MG ซึ่ง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราสามารถบูรณาการ  การทำงานจริงได้ทันที”ความร่วมมือข้ามพรมแดนและระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าสถานีสลับแบตเตอรี่แห่งใหม่ที่ภูเก็ต  เป็นความร่วมมือ 3 เสาหลักได้แก่   เทคโนโลยี UOTTA™*: เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่จาก ยู เพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแรกและรายเดียวในโลกที่จดทะเบียนใน Nasdaq (UCAR) สำหรับเทคโนโลยีนี้

การรองรับทุกการเคลื่อนที UNEX EV: รองรับยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท  ตั้งแต่ รถ รับจ้างสาธารณะ รถเพื่อการพาณิชย์ ไปจนถึงยานพาหนะทางน้ำ และอากาศ  ภายใต้ความร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรที่สนับสนุนในภาคพลังงานของประเทศไทย และในภูมิภาคนี้

วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่พิธีเปิดสถานีสลับแบตเตอรี่  แต่เป็นช่วงเวลาที่ “นวัตกรรม” และ “ความมุ่งมั่น” ก้าวเดินควบคู่ไปด้วยกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีทั้งปริมาณน้ำฝน ความร้อน และความชื้นที่สูง สถานีสลับแบตเตอรี่แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้ทนทาน ต่อทุกสภาพอากาศควบคุมสภาพแวดล้อมของแบตเตอรี่ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่เสมอ มีระบบจัดเรียงอย่างแม่นยำ พร้อมสำหรับการสลับอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ UOTTA™M  การสลับแบตเตอรี่แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 3 นาที โดยมีระบบอัตโนมัติควบคุมด้วย AI และฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต ในวันที่รถรับส่งหรือแท็กซี่ไร้คนขับที่สามารถเข้าสถานีสลับแบตเตอรี่ได้เอง และกลับออกสู่ท้องถนน โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์

เราไม่ได้เพียงแต่เปิดสถานีสลับแบตเตอรี่ แต่เรากำลังวางรากฐานของเครือข่ายพลังงานอัจฉริยะทั่วทั้งอาเซียน โดยขยายการให้บริการรูปแบบนี้ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ของไทย และต่อยอดสู่สิงคโปร์ อินโดนีเซียและมาเลเซียในอนาคต

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ติดตั้งระบบสลับแบตเตอรี่ของ UOTTA™ ได้เริ่มให้บริการแล้วในจังหวัดภูเก็ต และสิ่งนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างสรรค์ของเราได้เป็นอย่างดี ข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จะถูกรวบรวมและส่งกลับเข้าสู่ระบบของเราแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาของการดำเนินงาน และลด Downtime ให้เหลือน้อยที่สุด วันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ความกังวลเรื่องระยะทางหมดไป พลังงานสะอาดทำงานได้อย่างอัตโนมัติ และรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถเติมเต็มพลังงานได้ภายในไม่กี่นาที

ขณะที่ ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์  ประธานกรรมการบริหารบริษัท ออโต้ ไดร์ฟ อีวี จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า การเปิดสถานีสลับแบตเตอรี่อัจฉริยะอย่างเป็นทางการแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ จังหวัดภูเก็ต ที่นับเป็นจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตนรู้สึกยินดีที่มีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มที่ล้ำสมัยนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นอนาคตของการเดินทางอย่างยั่งยืนและชาญฉลาด  Auto Drive EV มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมด้านการขนส่งอัจฉริยะในประเทศไทย เราเป็นผู้จัดซื้อและผู้ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าชุดแรกที่ติดตั้งระบบ UOTTA™ (ยู-อ็อท-ต้า) ภายใต้โครงการนี้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่เรายังได้นำมาใช้งานจริงใน ชีวิตประจำวัน

โดยรถเหล่านี้จะเริ่มให้บริการเป็นแท็กซี่และรถรับส่งในภูเก็ตแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่สามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงในสภาพการให้บริการที่มีความถี่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บทบาทของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่รถยนต์ เราในฐานะพันธมิตรเจ้าภาพของสถานีแห่งนี้ ยังได้จัดหาที่ดินเพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งของโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะนี้อีกด้วย นี่เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายชัดเจน เพราะเราเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะควรตั้งอยู่ใน จุดที่มีความจำเป็นจริง ใกล้จุดให้บริการ และได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่เข้าใจบริบทของการเดินทางอย่างแท้จริง การผสานระหว่างโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะกับนวัตกรรมจากภาคเอกชนเช่นนี้ ไม่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังเป็นการร่วมกันออกแบบอนาคตของระบบขนส่งด้วย

จาก มุมมองของผู้ให้บริการ คุณค่าของเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่นั้นเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับบริการที่ดำเนินงานเป็นยานพาหนะเชิงพาณิชย์อย่างเรา ซึ่งต้องการความพร้อมใช้งานสูงและเวลาหยุดชาร์จน้อยที่สุด ความสามารถในการเติมพลังงานเต็มในเวลาไม่กี่นาทีโดยไม่เพิ่มภาระให้กับระบบไฟฟ้า หรือกระทบต่อเวลาทำงานของคนขับนั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ความยืดหยุ่นความรวดเร็ว และความเสถียรของระบบ UOTTA™ (ยู-อ็อท-ต้า) จาก U Power ทำให้ระบบนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับเมืองอย่างภูเก็ตที่มีความต้องการ การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ขณะที่ มร.จอห์นนี่ ลี (Johnny Lee) ผู้ก่อตั้ง ยู เพาเวอร์ ได้เสริมว่า “ปัจจุบันสถานีสลับแบตเตอรี่อัจฉริยะของ UOTTA ™ และยานพาหนะที่รองรับการสลับแบตเตอรี่ได้เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ เช่น บริษัทผู้ให้บริการเช่าขับแท็กซี่ บริษัทขนส่งสินค้า และบริษัทขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้บริการในรูปแบบการสลับแบตเตอรี่อย่างครบวงจร”