ยันไม่ลดงบประมาณจัดจ้างไลฟ์การ์ด ระบุจ้างคนในพื้นที่ดีที่สุด

โพสเมื่อ : Friday, September 6th, 2019 : 5.26 pm

ยันไม่ลดงบจ้าง “ไลฟ์การ์ด” พร้อมใช้วิธีการจ้างตรงแบบตัวต่อตัว เพื่อให้ได้คนทำงานที่มีความชำนาญ และ มั่นใจป่าหาดตองปลอดภัยที่สุด ส่วนงบจัดซื้ออุปกรณ์ มีการลด เพราะมีครบแล้ว

นางสาวเฉลิมรักษ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวถึงกรณีชาวลบ้านมีข้อสงสัยเรื่องการปรับลดงบประมาณ โครงการจัดจ้างไลฟ์การ์ดหาดป่าตอง ประจำปีงบประมาณ 2563 หลังมีข่าวลือแพร่สะพัด ว่าทางเทศบาลได้ปรับลดงบประมาณในส่วนดังกล่าว ว่า สำหรับกระแสข่าวการปรับลดงบประมาณจัดจ้างไลฟ์การ์ดชายหาดป่าตอง นั้น โดยส่วนตัวก็ยังรู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงมีกระแสข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร จริงๆเรื่องไฟล์การ์ดดูแลชายหาดนั้น ทีดีที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะกระทรวงที่เกี่ยวข้องการความปลอดภัย ต่างๆของประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางทะเล ฯลฯ ก็เดินทางเข้ามาดูงานที่ปาตองอยู่เป็นประจำ

นายกฯเฉลิมลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าตัดงบประมาณแล้วคุณภาพการทำงานยังเท่าเดิม ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะชี้ให้เห็นว่าเราใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า และขอใช้พื้นที่นี้เล่าย้อนให้ฟังในเรื่องไลฟ์การ์ดว่า ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ไลฟ์การ์ด มีการจัดจ้างโดยงบประมาณของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการจ้างไฟล์การ์ดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวในหลายหาดด้วยกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงทางการท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก แต่พอหลังจากที่อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ที่มีจากการเลือกตั้ง)ได้เสียชีวิต และได้มีการแต่งตั้งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดรักษาการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแทนนั้น ก็เกิดปัญหา องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ไม่สามารถจัดจ้างไลฟ์การ์ดได้เช่นที่ผ่านมา

ทั้งในเรื่องของงบประมาณที่ถูกตัดทอนลง และได้ผู้รับจ้างแล้วก็ไม่สามารถเข้าทำงานในพื้นที่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกๆชายหาดที่มีไลฟ์การ์ด โดยเฉพาะหาดป่าตอง ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวมาก เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหาที่ชายหาดป่าตองก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก กระทบถึงชื่อเสียงทางด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวที่ป่าตอง ที่จังหวัดภูเก็ต ที่ประเทศไทย กระทบส่งผลเป็นลูกโซ่ ซึ่งทำให้ดิฉันได้ตระหนักและไม่ต้องการให้เกิดภาพลบ การนำเสนอข่าวที่เป็นภาพลบต่อการท่องเที่ยวของป่าตอง

ต่อมา เทศบาลเมืองป่าตองได้มีการประชุมหารือร่วมกันว่า จะไม่รอการจัดจ้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตัดสินใจที่จะจัดจ้างเอง เรายอมลงทุนเอง จากเมื่อก่อนเทศเมืองป่าตองไม่ต้องนำภาษีของพี่น้องประชาชนมาจัดจ้างเรื่องไลฟ์การ์ด แต่เมื่อดูแล้วว่า อบจ.เองก็มีปัญหา ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกเท่าไรจึงจะจบสิ้น เทศบาลเมืองป่าตองจึงต้องตัดเงินส่วนที่จะนำไปพัฒนาด้านอื่นๆ มาจัดจ้างไลฟ์การ์ดเอง โดยในครั้งแรกเทศบาลเมืองป่าตองได้ตั้งงบประมาณไว้ทั้งหมด 10 ล้านบาท เพราะมองว่าเราต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด ทั้งในส่วนของกำลังคน ในส่วนของอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ซึ่งก่อนห้านี้เป็นของอบจ.ทั้งหมด เมื่อ อบจ.ไม่มีงบประมาณจ้าง บริษัทผู้รับเหมาก็เก็บอุปกรณ์เหล่านี้กลับคืน งบประมาณที่ตั้งไว้ก็ใช้ไปเพียงแค่ 5-6 ล้านบาทเท่านั้น

“ในครั้งแรกนั้นเราก็ได้ใช้วิธีการจัดจ้างเช่นเดียวกับอบจ. คือการจ้างเหมาบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลนั้นก็ไม่มีปัญหา แต่บริษัทที่แพ้การประมูลเกิดมีปัญหา แล้วส่งเรื่องร้องอุธรณ์มายังเทศบาล ซึ่งเทศบาลก็จะต้องส่งเรื่องอุธรณ์นี้ไปยังส่วนกลาง เพื่อดำเนินการไต่สวน ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดจ้าง ด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้เรามาทบทวนกันใหม่ว่า การที่จัดจ้างบริษัทฯเข้ามาประมูลงานไฟล์การ์ดนั้นทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย การที่จะจัดจ้างไลฟ์การ์ดเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวหาดป่าตอง เทศบาลจะจ้างไฟล์การ์ดเอง เพราะเราจะสามารถกำหนดในข้อกำหนดการจ้าง(TOR)ได้ว่า คนที่จะมาทำหน้าที่ไลฟ์การ์ดนั้นจะต้องเป็นคนที่รู้ลักษณะของคลื่นลมของกระแสน้ำในป่าตองเท่านั้น

หากจ้างบริษัท และบริษัทฯที่ชนะการประมูลเข้ามาก็ไม่รู้ว่าไปเอาคนมาจากไหน แล้วยืนยันว่ารู้ลักษณะกระแสน้ำ ลักษณะคลื่นลม ซึ่งเราไม่สามารถที่จะเชื่อได้เต็ม 100%  เพราะฉะนั้นเทศบาลเมืองป่าตอง ถือว่าเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนชายหาดป่าตองเป็นเรื่องสำคัญ จึงได้จัดจ้างเอง จ้างตรงโดยที่ไม่ผ่านบริษัท จ้างคนที่เฝ้าอยู่หน้าหาดเองโดยตรง ซึ่งผลดีก็คือได้ความเชี่ยวชาญในการดุแลนักท่องเที่ยว เพราะเป็นคนพื้นถิ่น เป็นคนป่าตอง แน่นอนว่าลักษณะสภาพภูมิอากาศ กระแสน้ำ กระแสลม คนพวกนี้ต้องรู้ดีอยู่แล้ว อีกเรื่องก็คือจะได้รับค้างจ้างเต็มอัตราจากเทศบาลเมืองป่าตอง ไม่ต้องถูกบริษัทฯแม่หักผลกำไรหรือส่วนต่าง” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว

นางสาวเฉลิมลักษณ์ ได้กล่าวสรุปได้ว่า ไลฟ์การ์ดเทศบาลเมืองป่าตองยังคงมีการจัดจ้างเหมือนเดิม ไม่มีการลดจำนวนคน ไม่มีการลดค่าจ้างต่อคน ส่วนจำนวนเงินงบประมาณที่ลดลงนั้น เนื่องจากว่า ขณะนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของการบริหารจัดเรื่องไลฟ์การ์ดชายหาด อุปกรณ์การช่วยชีวิต และอีกหลายสิ่งหลายอย่างได้มีการจัดซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในส่วนของรถ ATV 2 คัน ในส่วนของเจ็ทสกี เทศบาลพิจารณาจะใช้การเช่า จะไม่มีการซื้อเก็บไว้เป็นสมบัติของเทศบาลเอง เพราะว่าจะต้องมีรายละเอียดในเรื่องของการดูแลรักษาอีกหลายเรื่อง อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการให้เช่าเจ็ทสกีก็จะได้มีรายได้เพิ่มเติมด้วย การพิจารณางบประมาณมีการปรับลดลง ด้วยว่าเทศบาลไม่มีความจำเป็นจะต้องซื้ออะไรแล้วนั่นเอง ทั้งนี้ก็ขอให้ทุกท่านได้มีความมั่นใจว่าคุณภาพการดูแลนักท่องเที่ยวที่ชายหาดป่าตองไม่มีลดลงอย่างแน่นอนบนพื้นฐานที่งบประมาณมีการปรับลดลงไม่เท่าเดิมกับปีแรก.