ยันโดนข้อหาลักทรัพย์แน่ ยึดจักรยาน โครงการ “ปั่น เปลี่ยน เมือง” ที่ภูเก็ต เป็นของตัวเองเป็นร้อย
โพสเมื่อ : Tuesday, October 10th, 2017 : 10.12 am
หลังจากบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด หรือ PKCD ผลักดันโครงการ “ปั่น เปลี่ยน เมือง BIKE SHARING IN PHUKET” โครงการดี ๆ ให้บริการรถจักรยานสาธารณะไร้สถานี นำร่องทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งจังหวัดภูเก็ตถือเป็นจังหวัดนำร่องที่มีการนำโครงการดังกล่าวมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาในการเดินทาง สถานที่จอดรถหายากและ ปัญหามลพิษ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาระยะหนึ่งพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะนี้ในแต่ละวันมีประชาชนและนักท่องเที่ยวหันมาให้ความสนใจนำรถจักรยานไปใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันมียอดเปิดใช้มากกว่าพันครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังกลายเป็นกระแสวิพากวิจารณ์ กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ถึงการกระทำของคนบางคน บางกลุ่ม ที่ขาดจิตสำนึก เห็นแก่ได้ และเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสนุก ในการใช้รถจักรยานของโครงการ “ปั่น เปลี่ยน เมือง BIKE SHARING IN PHUKET” ไม่ว่าจะเป็นการนำจักรยานไปโยนทิ้งลงคลอง นำกลับไปไว้บ้าน จับจองเป็นสมบัติส่วนตัว และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ประณามการกระทำของคนบางคนที่นำรถไปใช้แต่ขาดจิตสำนึกที่ดี และรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว มีการแชร์ภาพการนำรถไปเก็บในบ้านเพื่อไว้ใช้ส่วนตัวกันจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนพพล ตู้จินดา กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท OFO กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ทางบริษัทเข้ามาดำเนินการเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองภูเก็ต และ เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ในการทำโครงการ BIKE SHARING ซึ่งจากการทอดลองใช้ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการนำไปใช้จำนวนมาก โดยจะมีการทดลองใช้เป็นเวลา 1 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 -31 ต.ค. 60
แต่อย่างไรก็ตามจากการทดลองใช้พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากคนใช้บางคนที่ขาดจิตสำนึก หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งคนที่เข้าใจผิด คิดว่ารถที่ทางบริษัทนำมาให้ใช้เป็นรถที่นำมาแจก จนมีการนำไปเก็บที่บ้าน ซึ่งขอยืนยันว่ารถดังกล่าวเป็นรถที่นำมาใช้ในที่สาธารณะ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดให้ใช้บริการฟรี แต่หลังจากนี้จะเป็นการเก็บค่าบริการ นอกจากนั้นยังมีปัญหาวัยรุ่นนำรถจักรยานไปทิ้งลงคลอง และบางส่วนนำรถไปใช้นอกพื้นที่ ห่างไปจากจุดบริการ 30 -40 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากลุ่มที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือกลุ่มที่นำไปใช้ส่วนตัว นำไปไว้ที่บ้าน ซึ่งข้อมูลระบุพบว่ามีประมาณ กว่า 100 คัน บางคนนำขึ้นรถกระบะไปเก็บไว้ใช้ บางคนนำรถสามล้อพวงมาขน เมื่อพนักงานไปขอคืนก็จะอ้างว่า เป็นรถที่ได้รับแจกมา ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำความเข้าใจกัน ส่วนการนำรถไปใช้นอกพื้นที่ก็มีจำนวนมากเช่นกันที่ผ่านมามีการติดตามให้นำมาคืนกันเป็นจำนวนมาก
นายนพพล ยังได้กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากให้ประชาชนที่นำไปรถคือความรับผิดชอบ และการมีจิตสำนึกในการใช้สิ่งของร่วมกันกับคนอื่น อย่าเอาไปเก็บไว้เป็นส่วนตัว เพราะถ้าถึงเวลาก็จะต้องมีการดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ต่อไป นอกจากนั้นการนำรถไปจอด ควรที่จะนำไปจอดในสถานที่ที่คนอื่นสามารถนำไปใช้ได้ด้วย อย่าทำให้จังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวได้รับความเสียหายเลย เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้คนภูเก็ตส่วนใหญ่ก็ไม่พอใจกับการกระทำของคนบางกลุ่มเช่นเดียวกัน เพราะทุกคนคิดว่าเป็นการกระทำที่ทำลายภูเก็ตให้เกิดความเสียหาย
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว สำหรับกรณีที่มีการนำรถจักรยานไปทิ้งลงคลองนั้นเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นการทำลายทรัพย์สินของบุคคลอื่นให้เกิดความเสียหายถ้าเจ้าของทรัพย์แจ้งความดำเนินคดีเชื่อว่าติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน เพราะมีทั้งกล้องวงจรปิด และข้อมูลในการเปิดใช้รถซึ่งใช้มือถือในการเปิดใช้ ส่วนกรณีนำกลับไปไว้ที่บ้านก็เช่นกัน เป็นการลักทรัพย์ สามารถดำเนินคดีเช่นกัน
จึงอยากฝากเตือนไปยัง คนที่นำรถไปใช้ขอให้มีจิตสำนึกว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งของที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ควรที่จะช่วยดูแลรักษา ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการนำรถจักรยานมาใช้ในเมืองเพื่อลดความแออัดของจราจร
ขณะนายภูเก็จ ทองสม กล่าวว่า ที่ในสถานะ ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง โครงการ“ปั่น เปลี่ยน เมือง BIKE SHARING IN PHUKET” ของบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง มาตั้งแต่เริ่มต้น ปัญหาต่างที่เกิดขึ้นกับโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการนำจักรยานไปใช้แล้วนำทิ้งคลอง จอดในที่ที่ไม่เหมาะสม เอาไปจอดตามบ้านพักส่วนตัว ตามที่มีภาพข่าว และสังคมโซเชียล ไม่ว่าคนทำจะทำไปด้วยจากสาเหตุใดก็ตาม ไม่ใช่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมาย ในมุมมอง ของ operation expectations มากนัก
แต่ภาพต่างๆ การสื่อออกมาของคนหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนบางคนบางกลุ่มเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนในพื้นที่ภูเก็ตส่วนใหญ่เอง เริ่มเข้าใจถึงสิ่งที่ทางบริษัทพัฒนาเมือกำลังทำ เพื่อให้ภูเก็ตพัฒนาและยอมรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาอื่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ขณะนี้คนภูเก็ตเองกำลังออกมาแสดงความปกป้องกับของที่ใช้เพื่อส่วนรวมกันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคงต้องค่อยๆปรับ และสร้างจิตสำนึกให้กับคนบางคนบางกลุ่มให้เข้าใจกับว่าการใช้ประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันพบว่าคนหันมาให้ความสนใจดูได้จากยอดการใช้ที่มีเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ระยะยาวคงต้องรอดูกันต่อไป. ว่าจะเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนพฤติกรรมคนได้มากน้อยขนาดไหน แต่อย่างน้อยตอนนี้เราได้เริ่มที่จะพัฒนาเมืองกันแล้ว
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)