ยังไม่สรุปขอคืนช้างหาย 14 ปี เจ้าของปากยันซื้อมาถูกต้องมีตั๋วรูปพรรณ

ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบและเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้าของปางช้างในพื้นที่ ต.ฉลอง หลังจากพบช้างที่หายไป 14 แล้วมาโผล่ที่จังหวัดภูเก็ต ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยเจ้าของปางอ้างว่า ช้างได้ซื้อมาถูกต้องตามกฎหมายในราคาประมาณ 1.4 ล้านบาท มีตั๋วรูปพรรณชัดเจน แต่เลขไมโครชิปไม่ตรงกัน 29 มี.ค.60 นัดเจรจากันใหม่

จากกรณี ที่เมื่อวานนี้ ( 24 มี.ค.) นายวัน เรียงเงิน และนายสมศักดิ์ เรียงเงิน ชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจมาจาก นายชอบ เรียงเงิน เป็นน้องชายและเป็นเจ้าของช้างพังโย เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต เพื่อมาขอความช่วยเหลือหลังพบช้างที่หายไปจากจังหวัดกระบี่ เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา โดยพบอยู่ที่ปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง และขอให้ช่วยเจรจาขอช้างกลับคืน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายคมกฤษ พลายด้วง ผู้ช่วยนิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับเรื่อง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันเดียวกัน นายนันทศักดิ์ บุนนาค ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสำราญ ยุคุณธร ปลัดฝ่ายป้องกันอ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ภูเก็ต รวมทั้ง นายวัน เรียงเงิน และนายสมศักดิ์ เรียงเงิน ชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจมาจาก นายชอบ เรียงเงิน เป็นน้องชายและเป็นเจ้าของช้างพังโย ได้เดินทางมาร่วมเจราจากับ นายพิชัย พัวศุภเจริญ เจ้าของปางช้างแห่งหนึ่ง ต.ฉลอง และ นายเรวุฒิ ชื่อแก้ว ที่เป็นคนขายช้างให้นายพิชัย

 ซึ่งผลเจรจาปรากฏว่า นายพิชัย ยืนยันว่า ช้างพังดังกล่าวนั้นซื้อมาถูกต้องตามกฎหมายจากนายเรวุฒิ ตรวจสอบแล้วรูปพรรณถูกต้องจึงซื้อมาในราคาประมาณ 1,400,000 ล้านบาท ซึ่งเดิมช้างตัวนี้อยู่ที่ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ที่ย้ายถิ่นฐานมาจาก จ.ตาก โดยมีเลขรหัสไมโครชิฟ 12167544 A ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตั๋วรูปพรรณเพื่อดูเลขไมโครชิป แต่เลขไม่ตรงกัน จึงขอเวลาไปนำตั๋วรูปพรรณที่แท้จริงจากนายทะเบียนที่จดทะเบียนมายืนยัน ในระหว่างนี้จึงไม่ขอคืนช้างให้ก่อนจนกว่าจะมีการพิสูจน์ชัดเจนแล้วเท่านั้น

จากนั้น นายวัน เรียงเงิน ชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างพังโย ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจไมโครชิปอีกครั้ง ปรากฏว่า รหัสไมโคชิป 121675455 A ทั้ง 2 ครั้งซึ่งตรงกับตั๋วรูปพรรณของช้างพังโย ทำให้นายวันมั่นใจว่าเป็นช้างพังโยที่ถูกโจรขโมยมาจากจังหวัดกระบี่อย่างแน่นอน เมื่อนายพิชัย ยืนยันว่าจะไม่ยอมคืนให้จึงจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ที่ สภ.ฉลอง แต่เมื่อมาถึง สภ.ฉลอง ทาง พ.ต.อ.ชูเกียรติ์ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ฉลอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต ได้ขอให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจราจากันอีกครั้งหนึ่ง แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถสรุปกันได้ต่างยืนยันอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของช้างที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งสองฝ่ายและอ้างมีหลักฐานตัวจริงของตั๋วรูปพรรณช้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับนายทะเบียนช้างไว้แล้วแต่ไม่ได้นำมาทั้งสองฝ่าย ทางผกก. สภ.ฉลอง จึงขอให้ทั้งสองฝ่ายได้นำตั๋วรูปพรรณช้างตัวจริงที่ขึ้นทะเบียนไว้มาพิสูจน์กันในวันพุธที่ 29 มี.ค.2560 ที่ สภ.ฉลอง พร้อมหลักฐานต่างๆ เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าช้างพังดังกล่าวเป็นของผู้ใด

นายวัน เรียงเงิน ชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างพังโย กล่าวภายหลังจากการเจรจา ว่า ตนมั่นใจว่าช้างที่พบในปางช้างในพื้นที่ ต.ฉลองนั้น เป็นช้างพังโยที่หายไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2546 อย่างแน่นอน แม้ว่าวันนี้จะนำใบสำเนารูปพรรณมาแสดงแต่ก็มีตัวจริงที่จดทะเบียนไว้กับนายทะเบียนใน จ.สุรินทร์ เพื่อความชัดเจนของทุกฝ่ายก็จะกลับไปนำตัวจริงมายืนยัน เพราะก่อนที่จะหายนั้นช้างพังโยท้องได้ 2 เดือน และสืบทราบว่าลูกช้างพังโยถูกขายไปอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งจากการเจราจา 3 รอบ คาดว่าในที่สุดต้องมีการฟ้องร้องถึงศาลกันอย่างแน่นอน เพราะเจ้าของช้างปัจจุบันที่ซื้อมาไม่ยอมคืนช้างให้แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ์ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า หลังจากที่มีการเจรจาทั้งที่สภ.ฉลองที่ปางช้างจึงได้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยจะนัดทั้ง 2 ฝ่ายนำหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค.60 นี้ ที่สภ.ฉลอง เพื่อจะได้พิสูจน์กันว่าช้างพังดังกล่าวนั้นเป็นช้างของใคร หากเป็นของนายพิชัยจริงเรื่องก็จบ แต่หากเป็นของนายวันที่แจ้งหายไว้เมื่อปี 2546 นายพิชัยก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป