ยังไม่ตอบโจทย์ ปิดสถานบันเทิง – สถานบริการ 14 วัน หยุดโควิดระบาดไม่ได้ แนะต้อง shut down

ยังไม่ตอบโจทย์ หยุดโรคระบาดโควิด ปิดสถานบันเทิง – สถานบริการ 14 วัน  ผู้ประกอบการป่าตอง ระบุรับได้ ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นเชื่อมีมหาศาล คนเดือดร้อนนับหมื่น แต่จะให้ได้ผลต้องปิดทั้งหมดร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ  shut down ทั้งเมือง เตรียมยื่นอุทรณ์ยันคนบันเทิงมีมาตรการป้องกัน

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 18 มี.ค.) ที่ซอยบางลา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง นำโดย นายวีรวิทย์ เครือสมบัติ ประธานชมรมสถานประกอบการหาดป่าตอง นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง และผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง พนักงานสถานประกอบการ ร่วมกันทำความสอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในสถานบันเทิงต่าง เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด -19 ถึงแม่ว่าคืนนี้สถานบันเทิงทุกแห่งในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ตจะต้องปิดให้บริการทั้งหมดก็ตาม

นอกจากนั้นทางชมรม 34 คูหา และมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ยังได้มอบเงินสนับสนุนในการจัดซื้อเจลล้างมือ และเครื่องวัดอุณหภูมิให้กับทางชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตองในการจัดตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ และให้บริการเจลล้างมือหรับนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านบริเวณถนนบางลา หาดป่าตองทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศปิดสถานบันเทิง และสถานบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ ( 18 มี.ค. – วันที่ 31 มี.ค. นี้  นายวีรวิทย์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการยอมรับกับมาตรการที่ออกมาในการปิดสถานบันเทิง 14 วัน แต่คิดว่าการปิดสถานบันเทิงไม่สามารถตอบโจทก์การหยุดแพร่ระบาดของโรคได้ 100 %  เพราะประกาศปิดแต่สถานบันเทิง สถานบริการ ในขณะที่ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ยังปล่อยให้คนเข้าไปซื้อเข้าไปนั่งกินได้ตามปกติ หรือ บางครั้งนักท่องเที่ยวอาจจะซื้อแล้วไปนั่งรวมกลุ่มกินกันบริเวณชายหาดการควบคุมโรคก็ไม่ได้ผล แต่ถ้าจะให้ได้ผลต้องปิดทุกอย่าง หรือ shut down ไปทั้งหมด ตนเชื่อว่า ในส่วนของผู้ประกอบการรับได้กับมาตรการที่ออกมา เรายอมเจ็บแต่อยากให้จบ ไม่ใช่เจ็บแต่ไม่จบ เพราะถ้าปิดแค่สถานบันเทิง สถานประกอบการ เชื่อว่าไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้นเชื่อว่ามีผลกระทบเกิดขึ้นมหาศาลไม่ใช่เฉพาะสถานบันเทิงเท่านั้น แต่จะกระทบไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย หลังจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงไปอีกจนน่าตกใจ สำหรับป่าตองตอนนี้นับว่ายังมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แห่งสถานบันเทิงก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการอยู่ แต่หลังจากปิด 14 วัน เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะหายไปอย่างแน่นอนเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาส่วนหนึ่งเพราะต้องการที่จะมาเที่ยวยามค่ำคืน เมื่อไม่มีสิ่งเหล่านี้มารองรับนักท่องเที่ยวก็จะหายไป ส่วนรายได้ที่สูญไปนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คนที่ได้รับผลกระทบเชื่อว่ามีหลายพันคนทั้งพนักงาน ทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสถานบันเทิง

สำหรับมาตรการหลังจากนี้ในส่วนของผู้ประกอบการสถานบันเทิงก็คงจะมีการหารือร่วมกันทั้งในส่วนของป่าตอง และพื้นที่อื่น คาดว่าน่าจะมีการหามติร่วมกัน ในเบื้องต้นก็คิดว่าจะทำหนังสืออุทธรณ์ถึงจังหวัด แต่ไม่ได้อุทธรณ์เพื่อขอชะลอการปิด แต่เพื่อให้รู้ว่ามาตรการในการปิดสถานบันเทิง ยังไม่ตอบโจทย์หยุดการแพร่ระบาด เพราะยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวอยู่ ก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าจะให้ตอบโจทก์มันต้อง shut down ทั้งเมือง และทุกคนกักตัวเอง 14 วัน

นายวีรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านในส่วนของสถานบันเทิงมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดกันอยู่แล้ว ทั้งการให้บริการเจลล้างมือ และตรวจวัดไข้ เป็นประจำอยู่แล้ว และดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ ซึ่งทุกร้านได้มีการดำเนินการมาแล้วและไม่มีร้านใหนที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ผ่านการตรวจเข้าไปอย่างแน่นอน ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้จะนำเสนอไปยังจังหวัดด้วย

ขณะที่นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง และผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตอง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 หลายๆประเทศก็มีนโยบายที่เฉียบขาดในการดำเนินการ บางประเทศก็ปิดทั้งประเทศ บางประเทศก็ปิดแค่บางเมือง หรือปิดชายแดน หรือปิดสถานบริการ หรืออื่น ก็นับว่าเป็นนโยบายที่คล้ายๆกัน ถ้าถามว่าภาคประชาชนเข้าใจหรือเปล่า ก็เข้าใจถึงการดำเนินการตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค สำหรับในส่วนของภูเก็ตที่ประกาศปิด 14 วันก็เข้าใจ ส่วนเรื่องผลกระทบก็ต้องยอมรับ แต่ที่เป็นห่วงคือคนที่ทำงานในภาคกลางคืนคนกลุ่มนี้เงินเดือนไม่มาก มีรายได้วันต่อวัน การปิด 14 วัน กระทบกับเขาทั้งหมด เฉพาะในส่วนของบางลา หาดป่าตองก็มีคนที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงเป็นหมื่น การปิด 14 วันจะทำให้คนเหล่านี้มีเงินใช้ยาวนานแค่ใหน เพราะตอนนี้ภาครัฐยังไม่มีมาตรการในการช่วยเหลือที่ชัดเจนออกมา

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นคิดว่ามีเป็นหมื่นล้าน และหลังจากปิด 14 วันแล้วในส่วนของผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐก็คงจะต้องมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร มีนักท่องเที่ยวกลับมามากน้อยแค่ใหน จะต้องปิดต่อหรือไม่ ถึงตอนนี้ก็จะต้องมาดูว่าจะต้องทำอย่างไม่ให้มีการเลิกจ้างเกิดขึ้นถ้าไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เพราะถ้ามีการเลิกจ้างงาน เชื่อว่าจะมีปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมายมหาศาลรวมทั้งปัญหาอาชญากรรมเพราะคนไม่มีรายได้มาเลี้ยงครอบครั้งก็ต้องหารายได้มาจากทางอื่น ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่แก้ไขยาก ทุกวันนี้ทุกคนต้องตั้งสติให้ดี และจะต้องมีการวางแผนร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเดินไปได้ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและพนักงานลูกจ้าง และจะต้องทำอย่างไรในช่วงปิด 14 วัน ที่ไม่นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาเลย ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน