ยังจำกันได้หรือเปล่า ! อะไร คือโครงการพัฒนาเป็นบ้านรับรองแขกบ้านแขกเมือง

ยังจำกันได้หรือเปล่า ! บ้านพักผู้จัดการชาเตอร์แบงค์ กลับมารกร้างเหมือนเดิม แผนพัฒนา เป็นบ้านพักรับรองแขกบ้านแขกเมืองเดินต่อหรือหยุด หลังเคยเสียงบปรับปรุงไปแล้วหลายแสนบาท แต่ทุกวันนี้เงียบฉี่

จากกรณีเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2560 ที่ผ่าน มีการโพสต์ภาพ การแผ้วถางป่าบริเวณถนนดำรง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนเปิดให้เห็นตัวบ้านหรู สวยงาม และ เป็นบ้านเก่าแก่ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของอดีตผู้จัดการธนาคารชาเตอร์แบงค์ และ มีกระแสข่าวว่า ทาง ธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ จะทุบทิ้งเพื่อสร้างเป็นอาคารที่พักของข้าราชการสำนักงานธนารักษ์จังหวัดภูเก็ต จนกลายเป็นกระแส และ มีการเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ หันกลับมาอนุรักษ์หลังดังกล่าวให้อยู่คู่กับจังหวัดภูเก็ตต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังจากโลกโซเชียลออกมาคัดค้าน ก็มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นจากหน่วยงานภาพรัฐ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยทางธนารักษ์ ยืนยันไม่มีโครงการที่จะทำอะไรกับพื้นที่แปลงนี้ และไม่มีการรื้อบ้านทิ้งแต่อย่างใด บ้านพักหลังนี้ ก่อสร้างมาประมาณ 60 ปี ซึ่งน่าจะสร้างในเวลาใกล้เคียงกับธนาคารชาร์เตอร์ดแบงก์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกถนนพังงา ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ที่ปัจจุบันทางเทศบาลนครภูเก็ต ได้ขอใช้พื้นที่นำอาคารดังกล่าวมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพอรานากันนิทัศน์

โดยทางธนาคารชาร์เตอร์ได้เข้ามาขอเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ เพื่อก่อสร้างบ้านพักเมื่อปี 2498 ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเหมืองแร่ในภูเก็ตรุ่งเรือง บ้านหลังนี้น่าจะสร้างเสร็จราวๆ ปี 2500 เป็นบ้านทรงยุโรป 2 ชั้น ชั้นล่างมี 2 ห้องโถง ชั้นบนมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และมีมุกระเบียงด้านข้าง 2 ด้าน ด้านหน้าบ้าน ตั้งอยู่ตรงกลางของเนื้อที่ 6 ไร่

หลังจากที่ธนาคารชาร์เตอร์แบงก์ ได้ปิดกิจการที่ภูเก็ต ธนารักษ์ได้เข้ามาดูแลพื้นที่ต่อ และทางกรมธนารักษ์ มีนโยบายที่จะนำที่ราชพัสดุแปลงที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาหารายได้ให้รัฐ และเพิ่มมูลค่าให้แก่ที่ราชพัสดุ ที่ภูเก็ตทั้งหมด 15 แปลง 1 ในนั้น คือ แปลงบ้านพักผู้จัดการฯ ปรากฏว่าสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นผู้ประมูลได้เป็นเวลา 30 ปี เพื่อใช้พื้นที่ก่อสร้างสำนักงานและบ้านพักพนักงาน แต่ทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไม่ได้ดำเนินการตามที่ได้ประมูลไว้ พร้อมทั้งคืนที่แปลงนี้ให้กรมธนารักษ์เมื่อปลายปี 2558 ที่แปลงนี้ก็ถูกปล่อยร้างมาโดยตลอด จนผู้ว่าฯ ภูเก็ต ได้สั่งให้มีการปรับพื้นที่ให้สวยงามภายใต้โครงการภูเก็ตสวยด้วยมือเรา

สภาพปัจจุบันของตัวบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนผสมไม้ มีบางส่วนที่ผุพังไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะในส่วนที่ทำจากไม้ที่มีปลวกกินชำรุด และมีบางส่วนที่มีการปรับปรุง เช่น โครงหลังคา ฝาผนัง ห้องน้ำที่ทุบทิ้งทั้งหมด

อย่างไรก็ตามหลังจากทั้งสื่อมวลชน และโซเชียล ออกมาเคลื่อนไหว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้น คือ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักหลังดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านที่สวยงาม มีความเป็นภูเก็ตจึงได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการปรับปรุงบ้านพักผู้จัดการธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุแปลง ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 6 ไร่ ที่ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน

เพื่อออกแบบปรับปรุงตกแต่งบ้านพักธนาคารชาร์เตอร์ แบงก์ และบริเวณใกล้เคียง ให้เป็นบ้านพักรับรองแขกบ้านแขกเมือง บุคคลสำคัญ และ อาคันตุกะต่างประเทศที่มาเยี่ยมเยือนจังหวัดภูเก็ต คล้ายๆ กับเรือนรับรองของรัฐบาลในโอกาสต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สำหรับประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไป โดยทางสำนักงานจังหวัดภูเก็ต ได้ทำหนังสือเสนอขอใช้พื้นที่ไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาดำเนินการมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ใช้พื้นที่ และให้เทศบาลนครภูเก็ต เป็นหน่วยงานหลักในการผู้ดูแลพื้นที่ และดำเนินการครอบคลุมตัวอาคารทั้งชั้นบนชั้นล่าง

สำหรับการปรับปรุงบ้านหลังดังกล่าว ทางจังหวัดภูเก็ต ได้วางแผนการพัฒนาไว้ 3 ระยะ ด้วยกัน คือ ระยะแรก จะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบๆ ตัวบ้านในเนื้อที่ 6 ไร่ ให้สวยงาม ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นภูเก็ต ซึ่งส่วนนี้ได้ให้ทางสถาปนิกเข้ามาดูพื้นที่ออกแบบรายละเอียดของภูมิทัศน์รอบๆ บ้านแล้ว

ระยะที่ 2 จะมีการปรับปรุงในส่วนของตัวบ้าน ห้องรับรองแขก เพื่อใช้เป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง และระยะสุดท้าย คือ การปรับปรุงชั้น 2 ของบ้านให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของภูเก็ต ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านระบบมัลติมีเดียประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของชาวภูเก็ต

ส่วนงบประมาณที่มาดำเนินการปรับปรุงบ้านหลังดังกล่าวที่ผ่านมา ทางจังหวัดภูเก็ตได้จัดสรรงบประมาณไปแล้วบางส่วนในการปรับพื้นที่รอบๆ บ้าน ในเบื้องต้น ส่วนโดยคาดว่าน่าจะต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงทั้งหมดประมาณ 50 – 60 ล้านบาท 

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง เกษียณอายุราชการ โครงการดังกล่าวก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆไปพร้อมๆ กับคนต้นคิด บ้านพักหลังดังกล่าวก็เริ่มกลับเข้ามาสู่สภาพเดิมที่มีสภาพรกร้าง ต้นไม้ ต้นหญ้า ขึ้นปกคลุม จนปัจจุบัน คนที่ขับรถผ่านถนนดำรงไม่สามารถมองเห็นตัวบ้านที่สวยงามเหมือนช่วง เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการตัดต้นไม้ปรับพื้นที่จนโล่งเตียนสามารถมองเห็นตัวบ้านที่สวยงาม มีการปลูกต้นปอเทือง ปรับภูมิทัศน์ รอบๆตัวบ้าน เช่น การทำแลนด์มาร์กด้วยการปลูกต้นดอกดาวเรืองเป็น เลข 9 มีการสร้างถนนรอบๆตัวบ้าน จนบ้านหลังนี้กลายเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่คนผ่านไปผ่านมา หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะลงไปถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพประทับใจ และเป็นสถานที่ที่คนภูเก็ตเข้าไปเดินออกกำลังกาย

แต่เมื่อเดินเข้าไปยังบริเวณบ้าน กลับพบว่า บริเวณบ้านที่เคยมีการปรับปรุงแผ้วถาง ตัดแต่งต้นไม้ และปลูกต้นปลูกต้นไม้ รอบๆ ที่ดินเพื่อให้เป็นแนวรั้ว ซึ่งมีการเชิญชวนประชาชน นักเรียน นักศึกษามาร่วมปลูก กลับไม่มีต้นไม้ดังกล่าวให้เห็นอีกเลย สภาพที่เห็นได้ในขณะนี้คือความรกร้างของต้นไม้และหญ้านานาชนิดที่ขึ้นมาเต็มพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีมือดีลอบนำเศษวัสดุจากการก่อสร้าง เศษกระเบื้อง ปูน และอื่นๆ ไปวางกองทิ้งไว้ที่บริเวณด้านข้างตัวบ้าน ขณะที่ตัวบ้านพบว่าประตู – หน้าต่าง ถูกเปิดทิ้งไว้ บางจุดกระจกหน้าต่างแตกเนื่องจากลมพัดทำให้ประตูหน้าต่างปิดเปิดแรงๆ

ขณะที่ประชาชนที่ผ่านไปผ่านมา ต่างก็กล่าวเป็นเสียเดียวกัน ว่า เสียดายบ้านหลังดังกล่าวที่ถูกปล่อยปละละเลยจนกลับมารกร้างอีกครั้ง ซึ่งต่างก็เห็นด้วยกับแนวคิดของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ต้องการปรับปรุงบ้านหลังดังกล่าวให้เป็นบ้านพักรับรองสำหรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สำหรับประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไป แต่ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะยังคงเดินหน้าโครงการพัฒนาตามแนวทางเดิม หรือ มียกเลิกโครงการดังกล่าวไปแล้ว และ ปล่อยให้สภาพพื้นที่แห่งรกร้างต่อไป