ภูเก็ตแฟนตาซี ทุ่ม 5 พันล้าน ผุด “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คสไตล์ไทยที่เดียวในโลก พร้อมเปิดต้นปีหน้า
โพสเมื่อ : Saturday, October 26th, 2019 : 8.38 am
ภูเก็ตแฟนตาซี ฉลอง 20 ปี สุดยิ่งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 5,000 ล้านบาท ผุด “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่เดียวในโลก จัดเต็มแสงสีเสียงเมืองไฟอลังการ ตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์ค แห่งใหม่ของเอเชีย ณ หาดกมลา ใกล้กับภูเก็ตแฟนตาซี
เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่ตระการตาได้แล้วเร็วๆนี้ ภูเก็ตแฟนตาซี เปิดตัว “คาร์นิวัลเมจิก” โครงการธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรก และที่เดียวในโลก ด้วยงบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือของภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งอยู่ ณ หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใกล้กับภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งเป้าให้เป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่แห่งใหม่ของเอเชีย คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้มากถึง 1-2 ล้านคนต่อปี และคาดว่ามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี
นายกิตติกร คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ภูเก็ตแฟนตาซี และ บจก.คาร์นิวัลเมจิก เปิดเผยว่า “ปีนี้ภูเก็ตแฟนตาซี ครบรอบ 20 ปี จึงขอฉลองการครบรอบด้วยการเปิดโครงการใหม่ที่พิเศษ ยิ่งใหญ่ไม่เหมือนใครกับโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรกและที่เดียวในโลก เป็นสวนสนุกที่มีคอนเซปต์การจัดงานรื่นเริงสไตล์งานฟันแฟร์หรืองานวัดของไทย ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผสมผสานความสนุกสนานแบบไทย ๆ ในมาตรฐานระดับโลก ด้วยแรงบันดาลใจ และความปรารถนาที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์สิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งที่งดงามตระการตา มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยเป้าหมายของเรา คือ การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแบบแลนด์มาร์คที่สามารถสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเยือนภูเก็ตให้มากขึ้น ช่วยสร้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค”
สำหรับโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก” เป็นธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรกและที่เดียวในโลกประกอบไปด้วย 4 โซนหลัก ดังนี้ โซนที่ 1 คือ คาร์นิวัลฟันแฟร์ (Carnival Fun Fair) ตื่นตาตื่นใจกับถนนช้อปปิ้ง ที่จะพบกับสินค้าคุณภาพ นานาชนิดจากทั่วภูมิภาคทั่วไทย ในร้านค้ามากมายที่ออกแบบตกแต่งอย่างงดงามตระการตา สีสันสดใสสไตล์คาร์นิวัล ในบรรยากาศแห่งความรื่นเริงสุขสันต์ของเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลิน ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่กำลังช้อปปิ้งอีกด้วย เช่น ถ้วยชาหมุน ชิงช้าสวรรค์ ขับรถแข่ง นั่งรถไฟ และม้าหมุนที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ
โซนที่ 2 ภัตตาคารเบิร์ดออฟพาราไดซ์ (Bird of Paradise) เป็นภัตตาคารบุฟเฟต์ที่สามารถรองรับผู้มาเยือนได้มากถึง 3,000 ที่นั่ง ในบรรยากาศการรับประทานอาหารเสมือนอยู่ในสวนแห่งสวรรค์ รายล้อมด้วยรูปปั้นนกยูงที่ยิ่งใหญ่ ภายในติดตั้งระบบปรับอากาศพร้อมด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ สามารถใช้จัดเลี้ยงส่วนตัวเฉพาะกลุ่มได้ทุกขนาด บริการเมนูอาหารเลิศรสกว่า 100 เมนู ซึ่งเป็นเมนูแบบตะวันตก และตะวันออก อาหารอินเดีย อาหารมังสวิรัติ และอาหารฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีภัตตาคารหรู 3 ชั้นอีกแห่ง มีชื่อว่า “River of Bliss Luxury Restaurant” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลลอยกระทง ภายในให้บริการอาหารแบบเซตเมนูที่ลูกค้าเลือกเองได้ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกระทงที่สวยงาม และอีกหนึ่งไฮไลต์ของภัตตาคารแห่งนี้ คือ ลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้จะต้องมาตรงกลางของ “น้ำตกแห่งความสุข” (Happiness Falls) ที่บริเวณทางเข้าเพื่อขึ้น “เรือแห่งความสุขสำราญ” (Barge of Happiness) ซึ่งเรือจะลอยขึ้นเหนือจากพื้นประมาณ 7 เมตร เพื่อเข้าสู่บริเวณภายในภัตตาคาร
โซนที่ 3 คือ โรงละครริเวอร์พาเลซ (River Palace) เป็นโรงละครขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่กว่า 16,000 ตรม.หรือ ประมาณ 10 ไร่ นับเป็นโรงละครที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็น 1 ในโรงละครที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยตัวอาคารมีความยาวถึง 200 เมตร รองรับผู้ชมได้มากถึง 2,000 ที่นั่ง และภายในมีเวทีการแสดงที่ยาวถึง 70 เมตร กว้าง 22 เมตร พร้อมการแสดงบนเวทีในรูปแบบพาเหรดอินดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในชื่อ “ริเวอร์คาร์นิวัล”(River Carnival) เป็นการแสดงพาเหรดที่ผสมผสานศิลปะไทยกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าด้วยกัน มีความยาวประมาณ 60 นาที
สำหรับ ไฮไลต์อยู่ที่ ขบวนรถพาเหรดที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 70 เมตร หรือเทียบเท่ากับเครื่องบินจัมโบ้ A380 และพบกับความยิ่งใหญ่ทำลายสถิติโลกของฉากเรือในขบวนแห่ และขบวนพาเหรดลอยฟ้าขนาดมหึมาที่ไม่มีใครสร้าง มาก่อน พร้อมทั้งจอแอลอีดีที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาสำหรับการจัดการแสดงพาเหรดในโรงละครแห่งแรกของโลก เครื่องยนต์กลไกพิเศษ ระบบแสงและเทคโนโลยีสำหรับเอฟเฟกต์พิเศษที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
โซนที่ 4 คือ คิงดอมออฟไลทส์ (Kingdom of Lights) เป็นเมืองที่มีไฟประดับประดาสวยงามมากกว่า 40 ล้านดวงที่จะทำให้ทุกท่านได้เดินเที่ยวชมและสัมผัสกับแสงไฟที่สวยงามเหนือจินตนาการ ตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา ไฮไลต์ของโซนนี้ คือ “River of Lights” ที่มีการนำดวงไฟหลายล้านดวงมาประดับบนโครงเหล็กดัดลวดลายสวยงาม (Luminarie) ที่มีความยาวรวมถึง 50 กิโลเมตร เป็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ล้อมรอบทะเลสาบ โดยลูกค้าสามารถเดินผ่านสะพานเข้ามาในโซนนี้ เพื่อชมความอลังการของดวงไฟหลายสิบล้านดวงแบบพาโนรามารอบทิศทาง
นายกิตติกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้ “คาร์นิวัลเมจิก” เป็นที่รู้จักและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญเพื่อดึงดูด นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้น นายกิตติกร ระบุว่า เราเน้นการทำแผนสื่อสารการตลาดเชิงรุก แบบ 360 องศา มีทั้งการทำออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะเราเน้นการทำโปรโมตทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่ชื่นชอบการมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกว่า 40 ประเทศ มีการทำโร้ดโชว์ไปยังสถานที่สำคัญทั่วทั้งภูเก็ต และจังหวัดสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งเอเย่นต์ทัวร์ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศที่เป็นพันธมิตรกับเรามาอย่างยาวนานกว่าพันแห่ง และและเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ออนไลน์ และ TV โดยกลุ่มเป้าหมายของคาร์นิวัลเมจิกนั้น ได้วางสัดส่วนเป็นคนต่างชาติและคนไทยไว้ที่ 70:30 คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้ มากถึง1-2 ล้านคนต่อปี และคาดว่ามีรายได้ 1,500 ล้านบาทต่อปี
“คาร์นิวัลเมจิก คือ ความฝันและจินตนาการที่เราต้องการจะมอบให้เป็นของขวัญให้กับชาวภูเก็ตและ ชาวไทยทุกท่าน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคาร์นิวัลเมจิกจะเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจ สร้างความ สนุกเพลิดเพลินให้กับผู้ที่มาเที่ยวชม และสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยทุก ๆ คน”
นายกิตติกร ยังกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภูเก็ตในปีหน้าว่า ด้วยศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตที่มีทั้งชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกให้กับ นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ภูเก็ตทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนภูเก็ตตกปีละ 12–13 ล้านคน
สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจประมาณ 4 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีนักท่องเที่ยวกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ ฉะนั้นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและภาคเอกชนจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโตรุดหน้าไปได้มากกว่านี้ ซึ่งเราในฐานะเป็นภาคเอกชนก็มีส่วนในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ด้วยการสร้างสรรค์พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ดึงเอาเสน่ห์และความเป็นไทยมาสร้างเอกลักษณ์ให้ดูแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจ และบรรยากาศการลงทุนให้จังหวัดได้มากทีเดียว
ทั้งนี้ โครงการคาร์นิวัลเมจิก จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ประมาณต้นปี 2563 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร: 076 563 888 แฟกซ์: 076 563 889 อีเมล: info@carnivalmagicpark.com
ขณะที่ดร.ผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารบริษัทภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เป็นโครงการแรกที่คนไทยคิดคนไทยทำ ใช้พนักงานทั้งหมด 1,600 ชีวิต ที่ภูเก็ตแฟนตาซีร่วมมือร่วมใจกันสร้างเพื่อให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของเมืองไทย เป็นโปรดักส์ ใหม่ แปลก แหวกแนวเหมาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย รวมทั้งเป็นแม่เหล็กชิ้นใหม่ของการท่องเที่ยวเกาะภูเก็ต ที่จะเข้ามามีบทบาทช่วยสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น และสร้างชื่อเสียงให้กับการท่องเที่ยวของภูเก็ต และประเทศไทย รวมทั้งช่วยเพิ่มสีสันให้กับการท่องเที่ยวด้วย
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- ZARA เปิดตัวแฟลกชิฟสโตร์คอนเซปต์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกในไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเ...
- “ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้” (TITLE) เครือ “แอสเซทไวส์” ประกาศเปิดอีก 4 โครงการใหม่...
- สุดปัง! “เดอะคิวบ์ อะเมซ ศรีสุนทร” พร้อมส่งมอบให้ลูกค้า ปลายปีนี้ ขายแล้ว กว่า ...
- อโนชา พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ ธนชาตประกันภัย มอบสิ่งดีให้ลูกบ้าน เพื่อคัดสรร “ประกั...
- เปิดแล้ว “ไวทัลไลฟ์ ภูเก็ต” ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ ปลดล็อกความลับสู่อายุที่ยืนยาวอย...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)