ภูเก็ตแนวโน้มหนี้เสียเพิ่ม BAM ซื้อแล้วกว่าพันล้าน ส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มซื้อเก็งกำไร

รองผู้อำนวยการผู้จัดการใหญ่ BAM ระบุภูเก็ตมีแนวโน้มหนีเสียเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ปัจจุบันเข้ามาดูแลแล้วกว่าพันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SME บ้านจัดสรร คอนมิเนียม โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ที่เข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรแต่ผลไม่เป็นไปตามคาดเหตุคนไม่มีกำลังซื้อ

นายสมพร มูลศรีแก้ว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวที่จังหวัดภูเก็ต ถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ว่า จากการที่ทางบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ในการเข้าไปบริการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่สามารถแก้ไข ทางบริษัทก็จะเข้าไปจัดการพบว่าจากการดำเนินการมีหนี้ด้อยคุณภาพสูงขึ้นจากเดิม 2% มาเป็น 3 % ซึ่งแต่สถาบันการเงินไม่เท่ากัน แต่มองในภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ถ้ามองเศรษฐกิจในภาคอื่นๆโดยเฉพาะภาคเกษตรพบว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งทั่วทุกภาคของประเทศทำให้ผลประกอบการลดน้อยลง เมื่อผลประกอบการน้อยลงประชาชนก็มีรายได้ลดลงด้วย

ขณะที่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตทางบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เริ่มรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเข้ามาดูแลประมาณ 2 ปีที่แล้วและต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ จากการตรวจสอบพบว่าในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเป็นพันล้าน ถือว่าเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ด้วยคุณภาพ หรือหนี้เสียจากธุรกิจ SME บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มที่มีหนี้เสียเกิดขึ้นจำนวนมากเกิดจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อไว้เพื่อเก็งกำไร

นายสมพร กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ทำให้แนวโน้มเกิดหนี้เสียสูงมากขึ้นก็เนื่องจากการเข้ามาทำธุรกิจของนักลงทุนมีเข้ามาแล้งมองเห็นโอกาสหยิบจับอะไรก็เป็นเงิน แต่เมื่อถึงเวลาระยะหนึ่งเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดภาวะเศรษฐกิจโลกสงผลกระทบ คนไม่มีกำลังซื้อ รายได้ไม่พอกับรายจ่ายทำให้ไม่สามารถแบกรับภาระได้ก็ต้องปล่อยให้เกิดปัญหาหนี้เสีย ซึ่งที่ผ่านมากการท่องเที่ยวของภูเก็ตมีแนวโน้มดีตลอดและรายได้หลักของภูเก็ตก็มาจากการท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันพบว่ารายได้จากการท่องเที่ยวลดลงทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วย