ภูเก็ตสนธิกำลัง จับ 3 ผู้ต้องหารุกชายหาดฟรีดอม หลังได้รับการร้องเรียน

โพสเมื่อ : Thursday, January 16th, 2020 : 6.09 pm

จังหวัดภูเก็ตสนธิกำลัง จับกุม 3 ผู้ประกอบการ ตั้งโต๊ะเก้าอี้ – จำหน่ายสินค้า รุกชายหาดฟรีดอมบีช ต.กะรน ยึดของกลางหลายรายการ ยืนยันเดินหน้าจัดระเบียบต่อเนื่องเพื่อคืนหาดให้นักท่องเที่ยว

เวลา 11.00 น. วันนี้ (16 ม.ค.) นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พลเรือตรีวโรดม สุวารี รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต, น.อ.ธรรมวรรต มาลัยสุขรินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผล ประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดภูเก็ต (รอง ผอ.ศรชล. จังหวัดภูเก็ต),พ.ต.อ.พีระพงษ์ ฉายอรุณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน,นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่,นายธงไชย รัตนเดช ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด ภูเก็ต,นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอำเภอกะทู้,นางสาวณัฏฐณิชา  ส่งแสง นิติกรปฏิบัติการสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต,นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน  พร้อมชุดปฎิบัติการจาก ทหาร, ตำรวจฝ่ายปกครอง,สำนักงานปฎิรูปที่ดินภูเก็ต กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณหาดฟรีดอม ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีประชาชนลักลอบนำสินค้ามาจำหน่ายและสร้างเพิงพักสำหรับจำหน่ายสินค้าและ อาหารแก่นักท่องเที่ยว

จากการตรวจสอบ พบ มีผู้บุกรุกเข้าไปสร้างเพิงพัก นำโต๊ะเก้าอี้และร่ม มาตั้งจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 9 ร้าน มีผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันยึดของกลาง ทั้งหมด พร้อมนำตัว ผู้กระทำผิด และของกลาง ส่งให้ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกะรน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามมาตรการจัดระเบียบชายหาด โดยบูรณาการระหว่างฝ่ายปกครอง,กอ.รมน. ศรชล และกรมป่าไม้ในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการจัดระเบียบชายหาด ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีแนวทางการจัดระเบียบชายหาด ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นในการรักษาอนุรักษ์ชายหาดนี้ไว้ให้กับสาธารณชน ที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้มีการดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่เนื่องจากมีการบุกรุกใช้พื้นที่สาธารณะหาประโยชน์อีก จึงเป็นเหตุทำให้เข้าปฏิบัติการร่วมกัน ของฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เพื่อกวาดล้างจัดระเบียบชายหาดต่อไป

โดยส่วนใหญ่พบการกระทำความผิดในลักษณะของการนำสินค้ามาจำหน่าย  ซึ่งโดยหลักทั่วไปในเขตชายหาดห้ามตั้ง ร่มเตียง และ อุปกรณ์ค้าขาย หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเกะกะ สกปรก หรือ รบกวนนักท่องเที่ยว เบื้องต้นจะมีการตั้งข้อหา ตามหมวดต่าง ๆ เนื่องจากการบุกรุกพื้นที่ชายหาดเป็นสถานที่สาธารณะ ตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ที่ดิน และ มาตรา122 โดยข้อหาหลักๆ ก็จะเป็น การบุกรุกพื้นที่สาธารณะ  ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งการจัดระเบียบชายหาด ก็จะมีเรื่องการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานอีก แต่ในส่วนใดที่เป็นร้านค้าผู้ประกอบการที่เข้าไปคาบเกี่ยว เข้าไปบุกรุกในพื้นที่ของเขตป่าไม้ ก็จะเป็นเหตุให้มีการเพิ่มโทษและข้อหาในหมวด ของความผิดตาม พ.ร.บ.ของป่าไม้ด้วย

นายสุพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการช่วยกันอนุรักษ์ชายหาดและทรัพยากรธรรมชาติ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้มีการตั้งชมรมอนุรักษ์ชายหาดไว้ จำนวน 22 ชมรม อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปผู้ที่บุกรุกจะให้เหตุผลมาของการบุกรุก ว่า ต้องทำมาหากิน แต่ถ้ามองกลับไป ถ้าทุกคนคิดแบบนี้หมด ก็คงจะมีการยึดพื้นที่ทำมาหากินกันเต็มพื้นที่ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีนโยบายจัดระเบียบชายหาดเพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาพัก

ถ้าทุกคนคิดว่าจะเข้ามาบุกรุกเพื่อทำการค้า คงจะมีคนค้าขายเต็มชายหาด ซึ่งยุทธศาสตร์จังหวัดสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวและจำเป็นต้องมีการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงต้องเดินหน้าในมาตราจัดระเบียบชายหาดเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและขับเคลื่อนให้การท่องเที่ยวเกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป